fbpx

กรุงเทพ

เลือกหมวดหมู่


ข่าว ข่าว

แม้ตอนนี้สถานการณ์โควิดจะน่าเป็นห่วงแต่สถานการณ์ค่าฝุ่นที่พุ่งสูงเองก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิกฤตที่มองข้ามไม่ได้  แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัยเผยว่าค่าฝุ่นในจังหวัดเชียงรายตอนนี้ยังคงขึ้นสูงและอยู่ในเขตพื้นสีแดง เป็นอันตรายต่อสุขภาพทุกวัยแต่ที่น่ากังวลหนักคือเด็กเล็ก, หญิงตั้งครรภ์และผู้สูงวัยที่ควรต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นในช่วงเวลาที่เด็กๆ ปิดเทอมรวมถึงการมีคำสั่งงดการเรียนการสอน คุณพ่อคุณแม่ควรงดกิจกรรมนอกบ้านทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมนันทนาการ, ออกกำลังกายกลางแจ้ง ทั้งนี้ยังต้องคอยเฝ้าดูอาการของลูกหลานด้วยว่ามีอาการไหนเข้าข่ายเจ็บป่วยหรือไม่ อาทิมีอาการไอ, หายใจลำบาก, หายใจไม่ออก, มีอาการแน่นหน้าอกและใจสั่น อยากอาเจียน เมื่อมีอการให้รีบน้ำพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทันที สำหรับใครที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วก็ขอให้พกยาประจำตัวไว้อยู่เสมอและทำตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งนี้ยังได้แนะวิธีหลีกเลี่ยงและลดฝุ่นลงมาดังนี้ งดทำอาหารที่ต้องมีการปิ้งย่าง งดการเผาใบไม้ ไม่จุดธูปรวม ทำความสะอาดแผ่นกรองเครื่องปรับอากาศทุกๆ 6 เดือน ทำความสะอาดบ้านด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดแทนการกวาด เปิดพัดลมหรือเครื่องกรองอากาศให้มี่อากาศหมุนเวียนภายในบ้าน ปิดช่องทางที่จะทำให้อากาศภายนอกเข้ามาภายในบ้าน   ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/871172    

ข่าว ข่าว
จะเห็นได้ว่าในตอนนี้คุณภาพอากาศเริ่มแย่ลง โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM 2.5 ที่กลับมารุนแรงอีก จากการที่แหล่งผลิตมลพิษยังไม่ได้รับการควบคุม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในสังคมเป็นวงกว้างทั้งแบบเฉียบพลันและระยะยาว รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การที่ปัญหามลพิษในอากาศของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ที่กลับมารุนแรงขึ้นอีก เป็นเพราะแหล่งผลิตมลพิษ ทั้งจากรถยนต์ อุตสาหกรรม การก่อสร้างและกิจกรรมประจำวันยังไม่ได้รับการควบคุม ดังนั้นประชาชนต้องเตรียมตัวให้พร้อม เช่น สวมหน้ากากอนามัย N95 หรือหน้ากากอนามัยธรรมดา 2 แผ่นซ้อนกัน และหากไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงไปยังบริเวณค่าฝุ่น PM2.5 สูง เพราะมีผลกระทบเฉียบพลัน โดยอาการที่เห็นชัด คือ แสบหู แสบตา แสบคอ คันระคายเคือง  แต่ผลระยะยาวยังไม่สามารถทราบได้ว่าฝุ่น PM2.5 จะไปกระตุ้นให้กับผู้ที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ให้เป็นเร็วขึ้นหรือไม่ เพราะยังไม่มีการเก็บข้อมูลชัดเจนในประเทศไทย แต่มีข้อมูลจากจีนและสหรัฐอเมริกาที่พบว่าฝุ่น PM2.5 อาจเข้าไปในเม็ดเลือด และมีความเสี่ยงในการกระตุ้นให้ผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว จากการเก็บข้อมูลของโรงพยาบาลศิริราช พบว่า โรคปอดและโรคถุงลมโป่งพองช่วงเดือนธันวาคม 2561 ถึงกุมภาพันธ์ 2562 เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ฝุ่น PM2.5 ไม่ใช่แค่ฝุ่นขนาดจิ๋วเท่านั้น แต่รวมถึงแก๊สและโลหะหนักด้วย อ้างอิงจาก https://www.tnnthailand.com/content/18009
2 ตุลาคม 2562

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save