fbpx

ของเล่นเสริมพัฒนาการ สำหรับเด็กวัย 1-3 ปี

Writer : nunzmoko
: 29 มกราคม 2561

เมื่อลูกรักอยู่ในช่วงวัยกำลังหัดเดิน โลกของเขาจะเปิดกว้างขึ้น บทความนี้จะช่วยแนะนำคุณพ่อคุณแม่ให้เลือกของเล่นที่ดีที่สุดให้กับลูกช่วงอายุ 1-3 ปี เพราะการเลือกของเล่นที่เหมาะสมตามวัย จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายและสติปัญญาให้ลูกรักได้เป็นอย่างดี ไปดูกันค่ะว่ามีของเล่นอะไรบ้าง

1. แต่งตัวตุ๊กตา

การแต่งตัวเป็นการกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ และบาทบาทในระดับหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่สามารถซื้อของเล่นการแต่งตัว ที่มีชุดเสื้อผ้า ผ้าพันคอ รองเท้า แว่นตา เครื่องประดับ ที่สามารถให้ลูกๆ แต่งตัวให้ตุ๊กตาได้ตามจินตนาการ

 

2. ของเล่นตักทราย

เด็กวัยนี้จะชอบประดิษฐ์ เด็กๆ จะใช้เวลาในการขุด ตัก สร้าง และปั้น ของเล่นตักทรายมีหลายแบบแนะนำของเล่นที่จะช่วยเสริมพัฒนาการ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ได้แก่ ถังหรือรถเข็นใส่ทราย จอบ เสียม คราด ตะแกรง ฝักบัวรดน้ำ แม่พิมพ์รูปต่างๆ เป็นต้น

3. แป้งโดว์

เด็กในวัยนี้ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การปั้นดินน้ำมัน หรือแป้งโดว์ จะช่วยฝึกสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูก ให้ลูกได้ใช้จินตนาการได้ไม่สิ้นสุด

4. บล็อกตัวต่อ

ของเล่นบล็อกต่อรูปทรงต่างๆ ช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ช่วยฝึกการสังเกตความเหมือน ความต่าง ฝึกการใช้สายตาให้สัมพันธ์กับมือ เด็กๆ สามารถใช้จินตนาการสร้างบ้าน ปราสาท ตัวการ์ตูน และอื่นๆ ทำให้ลูกมีความสุขในการเล่นมากขึ้นค่ะ

5. ชุดของเล่นตุ๊กตา

เด็กวัยนี้มักจะเล่นของเล่นสมมุติบทบาทและเลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่ เช่น การแต่งตัว การทำงานบ้าน การทำงานอาชีพต่างๆ การทำอาหาร การขับรถ อาบน้ำ ทำกับข้าว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ลองหาของเล่นตุ๊กตา เช่น อุปกรณ์ทำอาหาร อุปกรณ์ทำงานบ้าน ชุดคุณหมอ ให้ลูกได้เพลิดเพลินกับการแสดงบทบาทต่างๆ ที่อยากเป็น แสดงความเป็นตัวเองออกมา ช่วยให้เด็กเข้าใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น

 

6. ลูกบอลหลากสี

เด็กวัยนี้จะเริ่มสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว การเล่นลูกบอลหรือห่วงของเล่นหลากสี จะทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ให้เด็กอยากเล่น และยังเป็นการออกกำลังกายอีกด้วย อาจหาของเล่นที่มีรูปทรงและขนาดที่แตกต่างกัน เช่น ของเล่นห่วงยาง ที่แทรกสอดการเรียนรู้ของเด็ก เรื่อง สี และเรื่องขนาด ให้เด็กเรียงห่วงจากขนาดเล็กไปหาใหญ่

 

แนะนำว่าของเล่นควรมีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นของคุณ จะต้องไม่มีชิ้นส่วนเล็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกใส่เข้าปากแล้วติดคอ ของเล่นเด็กต้องปลอดภัย ไม่มีสารพิษ (non-toxic) หรือขอบแหลมๆ เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

 

ที่มา : 

  • lookjibtoys.com
  • phinkidtoys.com

อ่านบทความประโยชน์ของแป้งโดว์เพิ่มเติมคลิก

 

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ของเล่นที่มีขายใน 7-11
ช่วงวัยของเด็ก
5 พิพิธภัณฑ์ของเล่น ที่เหมาะพาลูกไปเที่ยว
กิจกรรมของครอบครัว
ของสุดล้ำในงาน Baby Best Buy
ชีวิตครอบครัว
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save