fbpx

ปัญหาโลกแตก มีข้อตกลงอย่างไร เมื่อปู่ย่าตายายคิดว่า เลี้ยงได้ดีกว่า

Writer : OttChan
: 23 มกราคม 2565

เมื่อเราก้าวมาสู่การเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามักจะเจอปัญหา คนเฒ่าคนแก่ในบ้าน รู้สึกเอ็นดูหรือรักใคร่กับสมาชิกใหม่ของบ้านมากๆ จนอดไม่ได้ที่จะต้องมาเยี่ยมเยียน หรืออาจไปถึงการขอไปเลี้ยงหรือดูแลแทนเลยทีเดียวในช่วงเวลาที่เราไม่สะดวก, ยังไม่คล่องกับการดูแลเด็กเล็ก และเมื่อเป็นเช่นนั้น ในบางครั้งก็อาจจะทำให้พบกับปัญหาที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่น

มาอุ้มไปเลี้ยงเองโดยไม่บอกไม่กล่าว

ตำหนิทุกอย่างที่พ่อแม่เลี้ยง เพราะรู้สึกไม่ถูกต้องตามแบบที่ปู่ย่าตายายเข้าใจ

ตามใจหลานทุกๆ อย่างจนทำให้หลานติดนิสัยเอาแต่ใจ

อ้างเสมอว่าเขาเลี้ยงเรามาก่อน เขารู้ดีว่าต้องเลี้ยงยังไง ห้ามเถียง

สุดท้ายก็กลายเป็นไม่เข้าใจกันจนนำไปสู่การทะเลาะ ซึ่งในความจริงแล้วนั้นแต่ละปัญหายังสามารถมีทางออก และแก้ไขร่วมกันได้เสมอเมื่อเรามีการหันหน้ามาร่วมแก้ไขไปด้วยกันค่ะ ซึ่งปัญหาและวิธีแก้จะมีอะไรบ้างนั้น มาลองดูไปด้วยกันเลยว่า ตรงกับสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่รึเปล่า

ปู่ย่าตายายเอาไปเลี้ยงเองไม่บอกกล่าว มาดูอีกทีลูกหาย

ในมุมมองปู่ย่าตายายนั้น เขามักจะมองว่า เขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวที่ไว้วางใจได้, มีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กมาก่อน ทำให้การเห็นหลานนอนอยู่ หรือเล่น จึงมักเข้ามาอุ้มไปดูแลเอง เพราะเข้าใจว่านี่ช่วงเวลาที่เขาได้ใช้กับหลาน และอาจเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับพ่อแม่ได้ แต่ในมุมของพ่อแม่นั้น การที่ถูกพาลูกไปโดยไม่มีการบอกกล่าวอาจทำให้เกิดความรู้สึกหวาดวิตก หรือกลัวเอาได้ว่าลูกโดนลักพาตัวไปจากบ้าน ทำให้เกิดความไม่ไว้ใจทุกครั้งที่ปู่ย่าตายายมาเอาหลานออกไปจากบ้านเพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นผู้ใหญ่ในบ้านหรือลูกหายไปจริงๆ

การแก้ไขปัญหาฝั่งปู่ย่าตายาย

  • จำไว้เสมอว่า นั่นเป็นลูกของลูกเรา ไม่ใช่ของของ เรา สิทธิ์การเลี้ยงดูจึงควรเป็นของพ่อแม่โดยตรง
  • ขออนุญาตลูกตัวเองเสมอ ก่อนนำหลานไปเลี้ยงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิดใจกัน
  • หากลูกไม่ให้ ควรเคารพการตัดสินใจ เมื่อมีโอกาสที่ถูกฝากหรือไหว้วานให้ช่วยจึงค่อยช่วยเหลือ

การแก้ไขปัญหาฝั่งพ่อแม่

  • มีข้อตกลงให้ชัดเจนในการดูแล เช่นการแบ่งวันเลี้ยง, ช่วงเวลาในการเลี้ยงหลาน
  • พยายามพูดคุยด้วยเหตุผลที่คำนึงถึงความสำคัญของลูกเป็นหลัก ไม่ใช่ความหวงของตนเอง
  • ทำความเข้าใจความรัก และห่วงหลานของคนเฒ่าคนแก่กว่าไม่มีจุดประสงค์ร้าย ควรพูดคุยความเข้าใจ ไม่ด่าทอหรือทำร้ายน้ำใจ

 

โดนบ่นว่า “ให้แต่น้ำนมแม่จะไปอิ่มได้ยังไง ตอนเลี้ยงแกมาก็ให้กินแบบนี้”

อีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ว่ากี่ครั้งก็ต้องเกิดขึ้นเมื่อถึงมื้ออาหารของลูกเล็ก คนเฒ่าคนแก่มักจะใช้วิธีเลี้ยงแบบที่เลี้ยงๆ เรามาว่าการได้รับน้ำนมแม่เพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ ต้องมีอาการเสริมอื่นๆ เช่น กล้วยบด, ข้าวบดหรือแม้แต่น้ำเปล่าเองก็ต้องกินเข้าไปเพื่อให้หลานขับถ่าย แต่ในเวลาเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ก็มักจะรู้แล้วว่าการให้น้ำนมอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว รวมถึงการให้ทานอะไรที่ย่อยยากเข้าไป จะยิ่งทำให้เกิดปัญหากับร่างกายของลูกตามมา ทำให้เรื่องการกินเองก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทำให้ต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อยไป

การแก้ไขปัญหาฝั่งปู่ย่าตายาย

  • ทำความเข้าใจว่า เด็กแต่ละคนมีความแข็งแรงกระเพาะไม่เท่ากัน
  • เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ ไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งที่ทำต่อกันมา
  • ยึดสุขภาพหลานของตนเป็นหลัก ไม่ถือทิฐิว่าเคยเลี้ยงแบบไหนมา ก็จะต้องเป็นแบบนั้น ไม่เช่นนั้น หากหลานป่วยหรือสุขภาพไม่ดีขึ้นมา อาจทำให้รู้สึกเสียใจในภายหลังได้

การแก้ไขปัญหาฝั่งพ่อแม่

  • ให้ลูกอยู่ในสายตาตลอดเวลาผู้ใหญ่ในบ้านจะเอาอะไรป้อนให้ เพราะบางทีท่านเองก็อยากให้ทานด้วยความหวังดี แต่อาจไม่รู้ถึงผลที่ตามมา
  • อธิบายเรื่องโภชนาการให้ปู่ย่าตายายในบ้านฟังบ่อยๆ เชิงบทสนทนารายวัน มากกว่ายัดเยียดหรือพุ่งชนไปเลยว่านี่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องเห็นด้วย หากทำแบบนั้น ผู้ใหญ่ในบ้านก็จะยิ่งต่อต้าน และรู้สึกเราอยากเอาชนะ
  • มีข้อตกลงชัดเจนว่าอะไรให้ทานได้ในช่วงอายุไหน เพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านได้มีโอกาสป้อนหลานบ้างเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

 

จับดัดขาให้ขาตรง, เอากบตบปากจะได้พูดเก่ง คนโบราณเขาทำกันได้ผลทั้งนั้น!

ความเชื่อที่ทำส่งต่อกันมานานๆ นั้นเป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวร้ายที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่มีปัญหากับผู้ใหญ่ในบ้านเสมอเพราะความเชื่อที่มีมุมมองต่างกัน และอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผิดใจกันจนใช้คำพูดแรงๆ ใส่กันโดยต่างคนต่างก็ใช้อารมณ์

การแก้ไขปัญหาฝั่งปู่ย่าตายาย

  • รู้ตนอยู่เสมอว่าเราเป็นเพียงปู่ย่าตายาย ต้องให้พ่อและแม่จริงๆ ของเขาตัดสินใจเวลาลูกเจ็บไข้ได้ป่วย
  • แนะนำหรือเสนอความเห็นก็พอ ไม่จำเป็นต้องลงไปจัดการเองจนทำให้เกิดการทะเลาะ
  • อัพเดทสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ตามทันถึงวิธีที่ถูกต้องในการเลี้ยงเด็ก ว่าเรื่องไหนจำเป็นหรือไม่จำเป็นต้องทำ

การแก้ไขปัญหาฝั่งพ่อแม่

  • อธิบายให้เข้าใจถึงพัฒนาการของเด็ก และเล่าถึงพัฒนาการของลูกให้ปู่ย่าตายายฟังเสมอเพื่อให้พวกท่านได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในการเจริญเติบโตของเด็ก
  • ใจเย็นให้มาก และคิดอยู่เสมอว่าเพราะผู้ใหญ่เองก็รักและห่วงจึงเลือกทำลงไป ต้องพูดคุยด้วยความรู้สึกขอบคุณมากกว่าตัดพ้อ
  • หากอธิบายแล้วแต่ยังโดนตามหรือควบคุมให้ทำตามอยู่ ให้เลือกที่จะถอยออกมา ไม่ปะทะ และให้คนทางครอบครัวของฝั่งนั้นเป็นคนไกล่เกลี่ยอีกที เช่น ให้คุณพ่อคุณกับคุณปู่คุณย่า ให้คุณแม่คุยกับคุณตาคุณยาย

 

หลานจะดูการ์ตูนนิดๆ หน่อยๆ ก็ให้หลานมันดูไปสิ, หลานอยากกินของทอดก็ให้มันกิน จะอะไรกันนักกันหนา

ปัจจุบันมีคู่มือการเลี้ยงดูที่มากขึ้นจึงทำให้รู้ว่าการดูหน้าจอหรือให้อยู่แต่กับโทรทัศน์หรือโทรศัพท์นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่ด้วยความรักของผู้ใหญ่ในบ้านเห็นหลานอยากดูอะไรก็อยากให้ดู เห็นหลานอยากได้อะไรก็อยากให้เพื่อให้ทุกช่วงเวลาของหลานเต็มไปด้วยความสุข แต่ในส่วนของพ่อแม่ที่ต้องคอยมาดูแลหลังจากนั้นกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะต้องพบเจอกับสภาวะสมาธิสั้น, อาการเอาแต่ใจที่อยากได้อะไรต้องได้ เลยทำให้ผู้ใหญ่ในบ้านกับผู้ปกครองเปิดศึกทะเลาะกันได้บ่อยครั้ง

การแก้ไขปัญหาฝั่งปู่ย่าตายาย

  • เคารพวิธีการเลี้ยงของพ่อแม่ ว่าที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องของการฝึกระเบียบต่างๆ ไม่ใช่ต้องการใจร้าย หรือ บังคับใดๆ กับหลานที่รัก
  • ก่อนซื้อของให้หรืออนุญาตให้ใช้จอ ควรบอกกล่าวก่อนกับพ่อแม่เพื่อตกลงกันว่าควรให้หรือไม่ในสถานการณ์นี้ ให้ผู้ปกครองได้ร่วมตัดสิน
  • เมื่อตกลงได้แล้ว ใจแข็งให้มากขึ้นเวลาถูกอ้อน ถูกขอ เพราะเราเองก็ต้องมีระเบียบกับหลานด้วยเพื่อฝึกให้หลานมีความอดทน และสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

การแก้ไขปัญหาฝั่งพ่อแม่

  • อย่าพึ่งตีความไปว่าปู่ย่าตายายหวังร้าย แต่ให้ทำความเข้าใจว่าผู้ใหญ่ในบ้านก็แค่รักลูกของเรามาก จนทำให้อยากตามใจไปซะทุกอย่าง
  • ดึงมาเป็นผู้ช่วยในการเลี้ยง เพราะแน่นอนว่าเมื่อปู่ย่าตายายให้หลาน หลานก็มักจะต้องมาขอหรืออ้อนเสมอ จึงเป็นโอกาสดีที่จะพูดคุยเพื่อตกลงการให้ที่เหมาะสม ทำให้เขารู้สึกว่าได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยง
  • ไม่ใช้อารมณ์ในการบอกห้าม แต่ให้ใช้หลักสุขภาพและพัฒนาการของลูกเป็นตัวเข้าไปพูดคุยเพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านเข้าใจมากขึ้นว่ามันจะเกิดผลเสียใดๆ บ้าง

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรมีในสถานการณ์นี้คือการเปิดใจคุยกันให้มาก ไม่ตั้งแง่หรือมองว่าใครกันที่เป็นคนผิด เพราะทั้งปู่ย่าตายายและพ่อแม่ ต่างหวังดี และรักลูกหลานด้วยกันทั้งนั้น และอย่าลืมว่า ผู้ใหญ่ในบ้าน เขาเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะได้ใช้ร่วมกับเราและลูก ดังนั้นควรพูดคุยกันให้มากเพื่อสร้างความเข้าใจ ดีกว่าทะเลาะกันทุกครั้งที่เกิดเรื่องจนทำให้เสียเวลาดีๆ ที่ได้ใช้ร่วมกันไปนะคะ

ที่มา : thaipbskids , เลี้ยงลูกนอกบ้าน , เลี้ยงลูกตามใจหมอ , นายแพทย์ประเสริฐ rakluke

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7  วิธี พิชิตการทานยากของเด็ก
ชีวิตครอบครัว
ตัวตนของลูก คือทางของลูก
ชีวิตครอบครัว
เพราะแม่จะเป็นใครก็ได้
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
Live Action เรื่องล่าสุดจาก Disney ที่หลายๆคนรอคอยไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เคยรับชมการ์ตูนในวัยหวานหรือแม้แต่คุณน้องคุณหนูที่หลงรักโลกใต้ท้องทะเลก็ตาม ใช่แล้วล่ะค่ะ เรากำลังพูดถึง “The Little Mermaid” หรือ “เงือกน้อยผจญภัย” ที่หยิบยกกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชันคนแสดงในปีนี้ โดยมีนักร้องสาว “ฮัลลี เบลลีย์” รับบทนางเงือกน้อย “แอเรียล” พร้อมเป็นตัวแทนส่งเสียงบอกกับเด็กหญิงชายทั่วโลกว่า “ใครก็เป็นเจ้าหญิงได้”  หยิบกลับมาทำใหม่ ตีความใหม่ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อย ข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือไม่ ลองไปดูกันเลย! เรื่องราวของนางเงือกน้อยแสนซน “แอเรียล” ธิดาคนสุดท้องของราชาไตรตันเจ้าแห่งโลกใต้สมุทรเธอมีความหลงใหลในโลกมนุษย์และใฝ่ฝันว่าอยากจะเดินเหินอย่างผู้คนบนดินแม้พ่อจะพยายามกีดกันเธอเท่าไรก็ตาม วันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบกับ “เจ้าชายอีริค” และตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง เธอจึงได้ทำข้อตกลงกับแม่มดทะเล “เออซูลาร์” เพื่อแลกเสียงอันไพเราะกับขาอย่างมนุษย์โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชายไม่เช่นนั้นเธอจะกลับมาเป็นเงือกและกลายเป็นทาสของเออซูลาร์ตลอดไปการออกเดินทางทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่ฝันจึงได้เริ่มต้นขึ้น เติมเต็มหัวใจที่ยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำของวัยเยาว์ ส่งต่อความกล้าหาญให้หนูน้อยเชื่อมั่นในตัวเอง และสิ่งที่ฝัน จูงมือลูกรักไปดู “The Little Mermaid” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์! ชมตัวอย่าง : https://www.youtube.com/watch?v=AS0vop2rgFo การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป แม้จะมีเค้าโครงเรื่องหลักๆ มาจากการ์ตูนเงือกน้อยแอเรียลแบบต้นฉบับทั้งหมด แต่พอมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ทวีคูณความจริงจังให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมพื้นเพตัวละคร เสริมเนื้อเรื่องเพิ่มประเด็นให้มีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม จึงบอกได้ว่าเป็นเวอร์ชันที่ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กๆ เท่าไร ถึงอย่างนั้นเด็กๆก็ยังสามารถสนุกสนานกับกลิ่นอายของเทพนิยายชวนฝันเพลิดเพลินกับภาพบรรยากาศโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามสุดแสนจะแฟนตาซี รับประกันว่ากระตุ้นจินตนาการเรียกความตื่นตาตื่นใจจากเจ้าตัวน้อยแน่นอน เรื่องที่ต้องระวัง มีความรุนแรงและฉากน่ากลัว อย่างที่บอกไปว่า Live Action เวอร์ชันนี้ มีความดาร์ก ความสมจริงเพิ่มเข้ามา เรื่องความรุนแรงต่างๆ ฉากต่อสู้ ฉากปะทะ หรือหน้าตาของเหล่าสัตว์ร้ายใต้ทะเล อาจทำให้เด็กๆ ไม่สบายใจ หรือตื่นกลัวได้ แถมยังมีจังหวะตกใจ (Jump…
25 พฤษภาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save