fbpx

7 วิธีรับมือ...เมื่อลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ลำเอียง

Writer : buubae
: 17 สิงหาคม 2561

สำหรับครอบครัวที่มีลูกมากกว่าหนึ่งคน นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ปัญหาที่ต้องรับมือในการเลี้ยงดูก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน และความรู้สึกที่ลูกคนแรกจะเกิดความคิดที่ว่าพ่อแม่ของตัวเองลำเอียงก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าทิ้งไว้แบบนี้ เมื่อเด็กๆ โตขึ้นด้วยความคิดที่ว่าพ่อแม่ตัวเองลำเอียง จะส่งผลเสียให้ลูกเกิดความคับข้องใจ ชอบเรียกร้องความสนใจ จนไปถึงไม่เห็นคุณค่าของตัวเองไปด้วย

แล้วคุณพ่อคุณแม่จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้ยังไง ลองมาดูวิธีการทีทางเว็บไซต์ Rakluke แนะนำกันเลยจ้า

แสดงความรักอย่างเท่าเทียม

เป็นหน้าที่และความร่วมมือของผู้ใหญ่ไม่ว่าจะคุณปู่ คุณย่า คุณต่า คุณยาย รวมไปถึงทุกๆ คนในครอบครัวที่ต้องห้ามแสดงออกว่ารักใครมากกว่ากัน หรือเวลาให้ของขวัญควรจะให้ของที่เหมือนๆ กัน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ รู้สึกตัวเองถูกเปรียบเทียบอยู่

เพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ให้ลูก

การเพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ของลูกก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งวิธีการเพิ่มหรือรักษาความมั่นคงนี้ ทำกับลูกด้วยสิ่งที่ตัวคุณพ่อคุณแม่ทำเป็นประจำ เช่น โอบกอด หอมแก้ม หรืออย่างอื่นที่เคยทำเป็นประจำ จะช่วยให้ลูกไม่รู้สึกถูกทิ้งขว้างและกำลังโดนลำเอียง

ชมลูกเมื่อลูกทำอะไรเองได้

นอกจากการกอด หอมแก้ม เพิ่มเสริมและรักษาความมั่นคงทางอารมณ์ของลูกแล้ว การชมลูกเมื่อเขาทำบางสิ่งบางอย่างได้เองก็เป็นอีกอย่างที่ไม่ควรละเลย เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกมีพฤติกรรมถดถอยนั่นเอง

อย่าเอาเรื่องน่าอายของลูกไปเล่า

ในมุมมองของผู้ใหญ่ เวลาเห็นเด็กๆ ทำอะไรผิดพลาดเล็กน้อย หรือเอ็นดู ก็มักจะชอบแซวแบบขำๆ เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องตลก ซึ่งบางอย่าง บางเหตุการณ์เราไม่รู้ว่าลูกรู้สึกตลกไปด้วยรึเปล่า อาจจะทำให้ลูกเก็บไปคิดมากด้วยก็ได้ (ถึงแม้ว่าบางอย่างผู้ใหญ่อย่างเราๆ จะคิดว่ามันเล็กน้อยก็เถอะ)

ให้ลูกระบายความในใจ

การเปิดโอกาสให้ลูกระบายความในใจเป็นอีกอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ เพราะจะทำให้รู้ว่าลูกกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งการให้ลูกระบายความในใจนั้น คุณพ่อคุณแม่จะต้องไม่เอาเรื่องของเหตุผลและความถูกต้องมาปิดกั้นความคิดของเด็กๆ ในตอนนั้น เช่น ถ้าเขาไม่ชอบคุณปู่ ก็ถามกลับว่าทำไมถึงไม่ชอบคุณปู่ล่ะ ปล่อยให้ลูกพูดไปให้หมดและค่อยๆ อธิบายเขาทีหลังให้เข้าใจนะ

หยิบรูปลูกตอนแบเบาะมาให้ดู

หากครอบครัวไหนมีการเก็บภาพตอนที่ลูกคนโตคลอดมาใหม่ๆ ก็หยิบออกมาแล้วอธิบายว่าเด็กเล็กแรกคลอด มักจะมีการรับขวัญเป็นธรรมดานะ อย่างที่ตอนหนูเกิด ทุกคนก็รับขวัญหนูเหมือนกันนะ

อย่าสอนให้พี่ต้องยอมน้องในทุกเรื่อง

เป็นอีกอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังในการสอนลูกคนโต เวลามีปัญหาต่างๆ การที่อ้างว่าเพราะเขาเป็นน้องเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้ลูกรู้สึกว่ากำลังโดนลำเอียง เพราะฉะนั้น เวลาที่เกิดปัญหาอะไร ควรอธิบายเหตุผลกับลูกคนโตให้ชัดเจน และบางครั้งก็ต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม ถึงแม้ว่าคนที่ทำผิดจะเป็นคนน้องก็ตาม

ที่มา : rakluke

Writer Profile : buubae

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



26 สิงหาคม 2563
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save