fbpx

8 บอร์ดเกมสำหรับเด็กที่สนุกกันได้ทั้งครอบครัว

Writer : Mookky TCN
: 27 มิถุนายน 2560

บอร์ดเกมเป็นกิจกรรมที่ทั้งเสริมพัฒนาการ เเละช่วยสร้างความสัมพันธ์ด้วย มีบอร์ดเกมหลายเกมที่เด็กๆ สามารถเล่นได้ตั้งเเต่ตอนนี้ ลองมาสำรวจกันที่ร้าน More Than A Game Cafe คาเฟ่บอร์ดเกมใน I’m park(จุฬา 26) มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีแบบไหนบ้าง

1.Roll & Play (18 เดือน++)

เริ่มต้นกันด้วยเกมง่ายๆ ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นเกมแรกของเด็กๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเล่นง่ายมาก สามารถเริ่มเล่นได้ตั้งเเต่แบเบาะ เหมาะกับคุณพ่อคุณเเม่ที่อยากปลูกฝังให้ลูกตัวน้อยรักการเล่นบอร์ดเกมตั้งเเต่เยาว์วัย

วิธีการเล่น: ตัวเกมมีการ์ดทั้งหมด 6 ประเภท เช่น ทำหน้าโกรธ หาสิ่งของตามสี แสดงท่าทางตลกๆ พ่อเเม่จะเป็นคนโยนลูกเต๋าเเล้วหยิบการ์ดตามสี จากนั้นเด็กจะต้องทำท่าทางตามการ์ดที่หยิบได้ เป็นการฝึกการแสดงออกของเด็ก

2. Papilio (2-4 ขวบ++)

เกมนี้เด็กๆ จะได้สมมุติตัวเองเป็นหนอนน้อย เเละจะได้เรียนรู้วิวัฒนาการของผีเสื้อ  โดยหนอนจะพยายามไปกินดอกไม้ไปเรื่อยๆ จนกลายไปเป็นผีเสื้อได้ในที่สุด สามารถเล่นเป็นกลุ่มได้ 2-4 คน

วิธีเล่น: หนอน(ตัวผู้เล่น) จะต้องทอยลูกเต๋าให้ได้หน้าเป็นสีที่ตัวเองเลือก จึงจะมีสิทธิ์เดินผ่านดอกไม้ได้ ซึ่งถ้าเดินมาจนสุดทางจะสามารถเปิดปีกผีเสื้อได้ เเละต้องเปิดจนกว่าจะเจอปีกดตามสีของตัวเองครบคู่ในที่สุด

3. HOP HOP Haschen (3 ขวบ++)

บอร์ดเกมที่มาพร้อมฝูงกระต่ายน่ารัก สีส้มสดใส เล่นได้ 2-5 คน ตัวนี้ก็เล่นง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมาก เหมาะที่จะให้เด็กๆมานั่งเล่นกันเป็นกลุ่มค่ะ

วิธีเล่น: ผู้เล่นจะต้องเลือกหลุมกระต่ายคนละ 1 หลุม เเละต้องทอยลูกเต๋าคนละครั้งให้ได้สีตามหลุมที่ตัวเองเลือก ถ้าทอยได้สีประจำตัวก็จะมีสิทธิ์เอากระต่ายเข้าไปในหลุม เเละถ้าทอยซ้ำได้สีของตัวเองอีกครั้งก็จะได้กระต่ายตัวที่อยู่ในหลุมไปค่ะ ซึ่งถ้าใครได้กระต่ายมากที่สุดในเกมก็จะชนะไป

4. Feed The Woozle (3-6 ขวบ)

เกมน่ารัก เล่นสนุกๆ  จากประเทศเยอรมันที่การันตีด้วยรางวัล Oppenheim Toy Portfolio Gold Seal Award เเละ Parents choice silver honor award ตัวนี้สามารถเล่นได้ 2-5 คน เป็นเกมเเนวช่วยกันทำภารกิจให้สำเร็จเป็นทีม

วิธีเล่น: ผู้เล่นต้องเริ่มด้วยการหมุนวงล้อเเล้วทำตามคำสั่งในวงล้อ จากนั้นจะมีสิทธิ์ให้อาหารกับ The Woozle  โดยอาหารก็จะดูแปลกๆ สร้างสรรค์หน่อยๆ เช่น sand pizza, fried sock, log sundae เป็นต้น

5.  Zingo! Number Bingo (4 ขวบ++)

เป็นบอร์ดเกมสำหรับเด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อย ถ้าพูดถึงบอร์ดเกมในตระกูล Zingo ก็มีอยู่หลายตัวให้เลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็น Sigh Words, Time-telling, Word Builder

แต่เราลองเลือก ” Zingo! Number Bingo” มาลองดู เพราะตัวนี้เป็นเกมเกี่ยวกับตัวเลข ซึ่งเด็กๆ จะได้ฝึกนับเลขเบื้องต้น

วิธีเล่น: ผู้เล่นเเต่ละคนจะได้ตารางคนละ 1 ใบ จากนั้นให้ดึงตัวเลขออกมาจากเครื่องสีแดง เเล้วถ้าใครมีตัวเลขในการ์ดตรงกับตัวเลขที่ดึงได้จากเครื่อง ก็จะสามารถเอาตัวเลขมาวางในการ์ดของตัวเองได้ โดยถ้าผู้เล่นคนไหนมีครบ 3 ช่อง (เหมือนเกม Bingo) ก่อน ก็จะชนะไป

6. Casa Banana (4 ขวบ++)

เกมง่ายๆ ฝึกทักษะการแยกรูปทรง โดยให้เด็กๆ ฝึกแยกรูปทรง วงกลม วงรี สี่เหลี่ยม เเละฝึกทักษะนิ้วมือ ด้วยการจำลองสัตว์ป่าน้อยใหญ่มาอยู่ในบอร์ดเกมอันนี้

วิธีเล่น: ทอยลูกเต๋าให้ได้รูปทรง รูปสัตว์ แล้วนำมาต่อกันสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้านบน โดยในการต่อ 1 ครั้ง จะได้กล้วย 1 ผล ซึ่งถ้าผู้เล่นคนไหนได้กล้วยครบ 20 ผล ก็จะเป็นผู้ชนะในเกมไป ในกรณีที่ผู้เล่นทำตกก็จะต้องคืนกล้วยทั้งหมดที่ตัวเองมี

7. Chicken Cha Cha Cha (4-99 ขวบ)

เกมฝึกความจำกับเหล่ากุ๊กไก่ เป็นเกมเล่นง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอีกเกมเช่นกัน ฝึกให้น้องๆ หนูๆ บริหารสมองด้วยการจำภาพ เสริมสร้างจินตนาการ สามารถเล่นได้ 2-4 คน

วิธีเล่น: ผู้เล่นจะได้ไก่คนละตัว ซึ่งเเต่ละตัวจะมีหาง 1 หาง เเละต้องเปิดภาพในวงข้างในให้ตรงกับภาพที่อยู่บนไข่ไก่(จุดที่ไก่วางอยู่) หากเปิดเจอภาพตรงกันก็จะเดินได้ 1 ช่อง ซึ่งถ้าเดินไปถึงจุดที่เพื่อนยืนอยู่ก็จะได้หางจากเพื่อนมา 1 หาง เเละถ้าคนไหนได้หากครบ 3 หางก่อนก็จะเป็นผู้ชนะ

8. Spinderella (6 ขวบ++)

บอร์ดเกมน่าเล่นจากประเทศเยอรมัน ซึ่งตัวนี้ได้รางวัล ” Kinderspiel des jahres” 2015 ที่เป็นรางวัลบอร์ดเกมสำหรับเด็กยอดเยี่ยมแห่งปี ในงานประกวดบอร์ดเกม ของประเทศเยอรมัน

วิธีเล่น: ผู้เล่นต้องทอยลูกเต๋า โดยถ้าหน้าลูกเต๋าจะมีมดกับแมงมุม ผู้เล่นที่เป็นมดต้องพามดของตัวเองเดินไปกินเบอร์รี่ให้ได้ก่อนเเมงมุม เเต่ถ้าได้เเมงมุมจะมีสิทธิ์ในการจับมดได้ หรือถ้าทอยได้ใบไม้ก็จะมีสิทธิ์เลือกเป็นเเมงมุมหรือมดก็ได้ (แต่ละตาจะไม่เหมือนกันแล้วแต่การทอยลูกเต๋า)

ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมครอบครัวที่ดีเลย ถ้าคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าจะสับสนกับกฏกติกาการเล่นก็ไม่ต้องเป็นห่วงไป ทางร้านจะมีพนักงานที่เรียกว่า board game master คอยให้คำแนะนำ เเละบอกวิธีเล่นควบคู่กันไป ไม่แน่ว่าการเล่นบอร์ดเกมอาจจะเป็นกิจกรรมสุดโปรดอันต่อไปของบ้านคุณก็ได้ค่ะ

Writer Profile : Mookky TCN

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



5 พิพิธภัณฑ์ของเล่น ที่เหมาะพาลูกไปเที่ยว
กิจกรรมของครอบครัว
ของเล่นที่มีขายใน 7-11
ช่วงวัยของเด็ก
ของสุดล้ำในงาน Baby Best Buy
ชีวิตครอบครัว
10 วิธี เลี้ยงลูกยังไงให้ฉลาด
ชีวิตครอบครัว
ทำอย่างไรดีถ้าลูกไม่อยากเล่นกับพ่อ
กิจกรรมของครอบครัว
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save