เพจ “กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก” ได้ระบุว่า Covid-19 ส่งผลต่อทุกคนทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กๆ ที่ถึงแม้จะไม่ได้รับไวรัส แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป และความเครียดที่เกิดผู้ใหญ่รอบตัว ซึ่งอาจปลูกฝังแบบไม่รู้ตัว ก็อาจส่งผลต่อเด็กๆ ได้เช่นกัน
มาดูกันว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ covid 19 ในเด็กแต่ละวัยมีอะไรบ้าง พร้อมวิธีแก้ไขจากผู้ใหญ่อย่างเรากันค่ะ
- เด็กอายุ 7 เดือน – 2 ปี
ยังไม่เข้าใจเรื่องโรคและการรักษา ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของผู้ดูแล หากเด็กต้องรักษา หรือต้องนอนรพ.จะพบว่า เด็กมีความกังวล และกลัว ซึ่งแยกจากกลัวคนแปลกหน้า
วิธีช่วยเหลือ คือ ต้องมีคนดูแลที่เด็กใกล้ชิดแล้วสนิทใจอยู่ร่วมด้วย และมีของเล่นหรือของที่เด็กรักติดตัวตลอด
- เด็กอายุ 3 – 6 ปี
เด็กวัยนี้จะเริ่มมีความคิด และสงสัยว่าทำไมเราต้องใส่หน้ากาก หรือไม่ได้ออกไปเล่นนอกบ้าน ทำให้พัมนาการในด้านการเล่น และการเข้าสังคมถดถอยลง อาจทำให้เด็กๆ เริ่มหงุดหงิด งอแง นอนไม่หลับ มีอาการทางกายจากความเครียด และวิตกกังวลได้ หากคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ใหญ่รอบข้างแสดงความวิตกกังวลกันไปหมด
วิธีช่วยเหลือ คือ พูดกับเด็กด้วยถ้อยคำ หรือเหตุผลง่ายๆ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจ หากเด็กสงสัย ให้ตอบคำถามของลูกอย่างชัดเจน อย่าปิดบังเรื่องที่เขาควรจะรู้ ที่สำคัญ คือ การแก้ไขความเข้าใจผิด
- เด็กอายุ 6 – 12 ปี
เด็กวัยนี้สามารถเข้าใจเรื่องโรคโควิด-19 การป้องกัน และการรักษาแบบง่ายๆ ได้อย่างถูกต้อง เด็กวัยนี้จึงอาจจะกลัวอันตรายบ้าง กลัวเจ็บบ้าง มีอารมณ์หงุดหงิด นอนไม่หลับ มีพฤติกรรมถดถอย
วิธีการช่วยเหลือ คือ ให้ข้อมูลที่เข้าใจง่าย เปิดโอกาสให้เด็กซักถาม ระบายความคิด ความรู้สึก มีส่วนร่วมในการตัดสินใจกิจกรรมหรือแผนการป้องกันในครอบครัว
- เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
สามารถเข้าใจและรับรู้เรื่องโรค การป้องกันและการรักษา มีความสามารถในการค้นข้อมูลด้วยตนเอง แต่อาจขาดความถูกต้อง ทำให้เกิดความวิตกกังวลไปเอง ทำให้เกิดอาการเครียดได้ง่าย ซึ่งอาจจะมาจากแหล่งข่าวต่างๆ ที่กำลังเล่นเรื่องโควิด-19 อยู่ ณ ตอนนี้
วิธีการช่วยเหลือ คือ ควรมีผู้ใหญ่ให้ข้อมูลอย่างถูกต้องแก่เด็ก ไม่ให้เด็กรับข้อมูลที่มากจนเกินไป และรับฟังระบายความรู้สึก รวมทั้งคอยหากิจกรรมที่สร้างสรรค์มาทำร่วมกับเด็กๆ ในช่วงปิดเทอม หรืองดการเรียนการสอนในช่วงนี้ค่ะ เช่น โพสต์ข้อความให้กำลังใจกัน การช่วยเย็บหน้ากากอนามัย
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : พญ.ถิรพร ตั้งจิตติพร
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
#สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี