ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สหภูมิ ศรีสุมะ สาขาเภสัชวิทยาคลินิกและพิษวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แสดงความเป็นห่วงประชาชน หลังจากการปลดล็อกกัญชาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และการประกอบอาหาร ด้วยเกรงว่าประชาชนจะนำกัญชาไปใช้ด้วยตัวเองโดยไม่ได้ผ่านการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งแทนที่จะรักษาโรคให้หายจะกลับกลายเป็นว่าทำให้อาการมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นก่อนการใช้กัญชารักษาโรค ควรได้รับการวินิจฉัยก่อน และใช้กัญชาภายใต้การดูแลของแพทย์
ด้านอาจารย์กรกนก เกื้อสกุล ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้กัญชาและหญิงตั้งครรภ์ว่า กัญชงและกัญชามีสาร THC ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท หญิงตั้งครรภ์และแม่ที่ให้นมบุตรไม่ควรใช้เด็ดขาด เพราะอาจส่งผลกระทบกับพัฒนาการทางสมองของเด็กได้
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องงดใช้กัญชง กัญชาอย่างน้อย 6 สัปดาห์เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร และเมื่อตั้งครรภ์แล้วไม่ควรใช้กัญชง กัญชาทุกกรณี เพราะอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นคลอดก่อนกำหนด ครรภ์เป็นพิษ และแท้งลูกได้ ส่วนทารกในครรภ์หลังจากคลอดออกมาจะมีพัฒนาการสมองล่าช้า น้ำหนักตัวน้อย เสี่ยงพิการแต่กำเนิด
สำหรับคุณแม่ให้นมบุตร การบริโภคกัญชง กัญชาจะลดการสร้างน้ำนม มีผลต่อระบบประสาท ทำให้คุณแม่ง่วงซึม ใจสั่น ขาดประสิทธิภาพในการเลี้ยงลูก ด้านลูกจะได้รับสารอาหารผ่านทางน้ำนมโดยตรง ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมอง ทำให้มีพฤติกรรมล่าช้า ในระยะยาวอาจมีอาการไบโพลาร์ (Bipolar) หรืออารมณ์สองขั้ว
อ้างอิง : https://news.ch7.com/detail/577106
