fbpx

NEWS : อุทาหรณ์ต้อนรับขวัญหลาน แหวนติดนิ้วเด็ก 3 ขวบ ถอดไม่ออก รัดนิ้วบวมเป่งต้องส่งเข้าห้องผ่าตัด

Writer : Jicko
: 27 ตุลาคม 2564

อุทาหรณ์แหวนติดนิ้วเด็ก 3 ขวบ บวมเป่ง ถอดไม่ออก สุดท้ายส่งโรงพยาบาล เข้าห้องผ่าตัด ดมยาสลบ ให้แพทย์ตัดออก เหตุเกิดเนื่องด้วยคุณยาย ต้องการรับขวัญหลานชายวัย 3 ขวบ ด้วยการซื้อแหวนทองคำ ใส่พอดีนิ้วนางมือซ้าย พอวันต่อมา เริ่มคับ ถอดไม่ออก บวมที่ข้อนิ้ว ซีด ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ พยายามถอดกันเอง ก็ไม่ออก

เด็กเจ็บปวดทรมานมาก ไม่ให้ความร่วมมือ และไม่ให้จับมืออีก จึงพาเด็กมาส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน ไม่สามารถทำได้ เพราะเด็กเจ็บปวดมาก ต้องส่งต่อมาโรงพยาบาลสิชล แพทย์ พยาบาล ห้องฉุกเฉิน เดินเข้าไปตรวจอาการเด็ก พอเดินเข้าไปใกล้ๆ เด็กก็ร้องไห้ ไม่ให้จับที่นิ้วแล้ว จึงปรึกษาแพทย์ดมยาสลบ และแพทย์ด้านกระดูก ส่งเข้าห้องผ่าตัด โดยให้มีการตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วนก่อน ผลเป็นลบ จึงเข้าห้องผ่าตัดทันที แต่ยังต้องใส่ชุดป้องกันระดับ 2

เนื่องจากเด็กเพิ่งกินอาหาร การดมยาสลบ แพทย์ต้องใช้เทคนิคพิเศษไม่ให้สำลักอาหารระหว่างดมยาสลบ พอเริ่มหลับ ทำความสะอาด ปูผ้า หมอกระดูกใช้คีมตัดกระดูกตัดแหวนออกมา ได้ไม่ยาก จึงขอเตือนผู้ปกครอง ยังไม่ควรใส่แหวน ให้เด็ก หากหลวมไป จะหลุดสูญหาย คับไปหรือแม้แต่พอดี แต่เด็กโตเร็ว จะติดค้างถอดไม่ออก บางรายเอามือเข้าปาก กลืนแหวนลงท้องก็มีให้เห็นมาแล้วหลายราย ที่ปลายนิ้วจะมีเส้นเลือดมาเลี้ยง เมื่อถูกบีบรัดเลือดไหลไม่สะดวก ยิ่งทำให้บวมมากขึ้น สุดท้ายขาดเลือดไปเลี้ยง นิ้วเน่าตาย จนต้องตัดนิ้วทิ้งก็มี

ยังไงก็ขอให้เรื่องนี้เตือนใจคุณพ่อคุณแม่อีกเรื่องหนึ่งในการต้อนรับขวัญลูกหลานนะคะ เกิดเรื่องขึ้นมาบางรายนิ้วตายต้องตัดนิ้ว เป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะ

อ้างอิงจาก : https://www.dailynews.co.th/news/414556/

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save