fbpx

NEWS: ผลสำรวจชี้ "เด็กไทย" พัฒนาการสติปัญญา-ภาษาต่ำ แนะนำพ่อแม่เล่นและอ่านหนังสือกับลูก

Writer : Phitchakon
: 27 มิถุนายน 2565

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัยเล็งเห็นว่า พัฒนาการของเด็กปฐมวัยมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าของประเทศ หากเด็กมีพัฒนาการดีก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพ และเป็นผู้ชี้ชะตาอนาคตของประเทศไทย การติดตามสถานการณ์พัฒนาการของเด็กอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการกำหนดนโยบายและจัดสรรทรัพยากรสนับสนุนเด็กปฐมวัยต่อไป

ในปี พ.ศ.2562 การสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ครั้งที่ 6 (Multiple Indicator Cluster Survey 6 : MICS6)  โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) และกรมอนามัย ทำการสำรวจในประเด็น ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ พัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษา พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวและกล้ามเนื้อ พัฒนาการด้านสังคมและพัฒนาการด้านการเรียนรู้

ซึ่งนายแพทย์ระพีพงศ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) ทำการเปิดเผยผลสำรวจออกมาว่า เด็กปฐมวัยในประเทศไทยมีพัฒนาการสมวัยร้อยละ 92.3 เป็นอันดับที่ 7 จาก 80 ประเทศที่มีรายได้ต่ำหรือปานกลาง มีพัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษาต่ำที่สุดจากพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ที่ร้อยละ 61 ในเด็กผู้ชายและร้อยละ 64 ในเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะในครอบครัวที่ยากจน เด็กก็จะมีพัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษาที่ต่ำไปด้วย

เด็กในครอบครัวที่พ่อแม่มีการศึกษาสูงกว่า จะมีพัฒนาการสมวัยมากกว่าเด็กในครอบครัวที่พ่อแม่มีการศึกษาน้อยกว่าถึงร้อยละ 34 และเด็กในครอบครัวฐานะร่ำรวยที่สุดเมื่อเทียบกับครอบครัวที่ยากจนที่สุดแล้ว มีพัฒนาการสมวัยมากกว่า 2.92 เท่า

จากผลการวิเคราะห์ยังพบว่าการที่พ่อแม่ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับลูก เช่น การหัดเรียกชื่อ นับเลข วาดรูป อ่านหนังสือ หรือการพาไปเล่นนอกบ้าน จะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการสมวัยมากขึ้น ร้อยละ 28

นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ จึงแนะนำให้พ่อแม่ส่งเสริมพัฒนาการด้วยการเล่นกับลูกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการอ่านหนังสือที่มีส่วนช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดการเรียนรู้ รู้จักการออกเสียง เพิ่มคลังคำศัพท์ และเป็นการกระชับสายสัมพันธ์ในครอบครัว

อ้างอิงจาก https://news.thaipbs.or.th/content/316965

 

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save