fbpx

NEWS: ยูนิเซฟเผยเด็กนักเรียนกว่า 50% ทั่วโลก เผชิญความรุนแรงต่างๆ ในโรงเรียน

Writer : Lalimay
: 3 ตุลาคม 2561

ช่วงนี้มีข่าวมากเหลือเกินค่ะในเรื่องของคุณครูทำร้ายร่างกายเด็ก หรือลงโทษเด็กเกินควร รวมไปถึงการกลั่นแกล้งของนักเรียนด้วยกันเอง จากรายงานของกองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ชี้ว่า สภาพแวดล้อมในโรงเรียนสำหรับเด็กหลายล้านคนทั่วโลกไม่ปลอดภัยต่อการเรียนรู้และเติบโต

โดยการรังแกหรือล้อเลียนในโรงเรียนเป็นหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุด มีเด็กนักเรียน 1 ใน 3 เจอกับปัญหานี้ ซึ่งเด็กที่มีความพิการ เเละคนรักเพศเดียวกัน มีโอกาสสูงกว่าปกติที่จะถูกรังเเกหรือล้อเลียน และมีเด็กนักเรียนอายุ 13-19 ปี กว่า 17 ล้านคน ยอมรับว่าเคยรังแกหรือล้อเลียนเด็กคนอื่นที่โรงเรียน

ส่วนการรังแกและล้อเลียนผ่านทางโลกออนไลน์หรือ Cyberbullying ซึ่งถือเป็นการจงใจทำร้ายจิตใจคนอื่นผ่านการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นด้วย การรังแกแบบนี้อาจทำให้เหยื่อหันไปใช้ยาเสพติด ติดสุรา มีปัญหาการเรียนตามมา หรือบางคนอาจถึงขนาดฆ่าตัวตาย

นอกจากนี้ ยังมีเด็กวัยเรียนราวกึ่งหนึ่งอาศัยในประเทศที่ยังมีการลงโทษเด็กด้วยการตี ซึ่งเด็กประมาณ 720 ล้านคนต้องอยู่ในบรรยากาศการเรียนที่เต็มไปด้วยความกลัวจากครูและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน

อีกทั้งยังมีเด็กนักเรียนราว 158 ล้านคนอาศัยในประเทศที่มีปัญหาการสู้รบ สำหรับเด็กเหล่านี้เเล้ว ห้องเรียนไม่มีความปลอดภัยเช่นเดียวชุมชนที่อาศัยอยู่ สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญมีทั้งเป็นเป้าในการโจมตีของสงคราม และเหตุกราดยิงในโรงเรียน

ขณะนี้ยูนิเซฟกำลังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ออกกฏหมายเเละนโยบายเพื่อสร้างความปลอดภัยเเก่นักเรียนภายในโรงเรียนและโลกออนไลน์ โดยได้มีการรณรงค์ผ่าน #ENDviolence เพื่อสร้างความตื่นตัวและแรงหนุนจากสังคมเพื่อต่อสู้กับความรุนแรงต่างๆ ในโรงเรียน

อ้างอิงจาก

voathai.com/

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save