fbpx

5 กิจกรรมฝึกทักษะมนุษย์สัมพันธ์เจ้าตัวเล็กในช่วง Stay at Home

: 27 พฤษภาคม 2563

ถึงแม้ว่าการอยู่บ้านจะช่วยชาติได้ แต่การอยู่บ้านนาน ๆ อาจทำให้ทักษะมนุษย์สัมพันธ์ของเจ้าตัวเล็กนั้นถดถอยเหมือนกัน! แน่นอนว่าเด็กเล็กโดยเฉพาะเด็กวัยเตรียมอนุบาลหรืออนุบาลนั้นเริ่มเรียนรู้ที่จะสร้างสัมพันธ์ เข้าสังคมกับเพื่อน ๆ หรือผู้ใหญ่ได้จากสภาพแวดล้อมและผู้คนที่โรงเรียนหรือสนามเด็กเล่น ซึ่งเป็นทักษะที่ไม่ควรมองข้ามเลย แต่ในเมื่อตอนนี้เราออกไปไหนกันไม่ได้ แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ?

วันนี้ ParentsOne เลยมีกิจกรรมสนุก ๆ และเทคนิคง่าย ๆ ที่จะฝึกเจ้าตัวน้อยฝึกการสร้างสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ พี่น้องในบ้านได้ค่ะ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่เท่ากับการได้ออกไปข้างนอก แต่ก็สามารถทดแทนและช่วยเจ้าตัวน้อยพัฒนา EQ ที่ทั้งแสนง่ายและปลอดภัยในบ้านของเราได้ตามนี้เลยค่ะ

ส่ิงที่เจ้าตัวน้อยได้จากการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น

มนุษย์สัมพันธ์เป็นทักษะที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับเจ้าตัวน้อย และส่วนใหญ่มักจะเรียนรู้ได้ภายในสภาพแวดล้อมโรงเรียนหรือนอกบ้าน ซึ่งเขาสามารถซึมซับได้ระหว่างเล่นกับเพื่อน ๆ หรือคุยกับคุณครู ซึ่งทักษะต่าง ๆ มีดังนี้ค่ะ

  • การแสดงอารมณ์และความรู้สึก
  • การพูดคุยและรับฟังโดยไม่ขัด
  • การแบ่งปัน ผลัดกันเล่น
  • การรับมือกับความผิดหวัง
  • น้ำใจนักกีฬา
  • มารยาทและการวางตัว

ซึ่งถือว่าสำคัญมากสำหรับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเลย ถึงแม้ว่าเจ้าตัวน้อยอาจจะไม่มีโอกาสได้ออกไปข้างนอก แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรใช้เวลาเพื่อฝึกฝนและเล่นกับเขาเพื่อพัฒนาทักษะมนุษย์สัมพันธ์ที่บ้านเช่นกันค่ะ

  

ผลัดกันเล่น

ฝึกการเสียสละและแบ่งปันให้กับเจ้าตัวน้อยได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีนี้ ลูกคนเดียวก็สามารถเล่นได้ โดยให้คุณพ่อคุณแม่นำของเล่นพิเศษหรือของที่เขาอยากจับ อยากเล่นตลอดเวลาให้เขาเล่น แต่จับเวลาไว้อย่างละ 5 นาที หมดเวลาแล้วให้แบ่งให้พี่น้องหรือคุณพ่อคุณแม่ ผลัดทำเป็นรอบ ๆ ให้เขาเข้าใจถึงความสำคัญในการรอเมื่อถึงตาของเขาค่ะ

 

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

กิจกรรมง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ตอนอ่านนิทาน ดูหนัง หรือดูการ์ตูนเรื่องโปรดของเขา โดยระหว่างดูให้หยุดสักช่วงหนึ่ง แล้วลองถามดูว่าหนูคิดว่า (ตัวละครนี้) กำลังคิดอะไรอยู่ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ?” ให้เขาตอบคำถามและคุณพ่อคุณแม่ค่อยตอบความเห็นของตัวเองให้เจ้าตัวน้อยได้ค่ะกิจกรรมนี้นอกจากจะช่วยฝึกให้หัดใช้จินตนาการแล้วยังช่วยให้เขาได้รู้จักและแยกแยะอารมณ์กับความคิดของผู้อื่นอีกด้วยค่ะ

เล่นบอร์ดเกม

สำหรับวัยซนที่เริ่มเข้าใจกฏต่าง ๆ ได้แล้ว บอร์ดเกมเป็นตัวเลือกที่ดีในการฝึกทักษะการเข้าสังคมของเจ้าตัวเล็กเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะฝึกให้เขาเรียนรู้เรื่องการรักษากฏแล้ว การเล่นบอร์ดเกมยังช่วยฝึกให้เขารู้จักรอให้ถึงตาตัวเอง รู้จักแพ้ชนะ น้ำใจนักกีฬา อีกทั้งยังได้ฝึกพูดคุยระหว่างการเล่นเกมกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ

ซึ่งบอร์ดเกมที่เจ้าตัวเล็กเล่นได้นั้นควรเป็นเกมที่มีวิธีเล่นไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย เช่นนั้นแล้วเขาจะได้ไม่เบื่อตั้งแต่การอธิบายกฏเสียก่อน ถ้าเป็นเกมที่ทำให้เขาได้ขยับตัว ได้ฝึกไหวพริบด้วยจะดีมากเลย บอร์ดเกมที่เขาเล่นได้นั้นมีทั้งเกมบันไดงู ตัวต่อถล่มตึก (Jenga) อูโน่และอีกมากมายเลยค่ะ

วิดีโอคอลกับเพื่อนๆ

ถึงแม้ว่าจะอยู่บ้าน แต่เรายังมีวิดีโอคอลที่สามารถพูดคุย พบหน้ากันทางออนไลน์ได้ และเจ้าตัวน้อยก็สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้เช่นกันค่ะ ลองปรึกษากับผู้ปกครองของเพื่อนลูกน้อย เพื่อจัดสรรเวลาให้เด็ก ๆ วิดีโอคอลทำกิจกรรมร่วมกันได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนั่งวาดรูประบายสี หรืออ่านนิทานด้วยกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยให้เขารู้สึกเหมือนได้ทำอะไรสักอย่างกับเพื่อนของเขา เพราะในระหว่างการทำกิจกรรมก็ต้องมีพูดคุยกันบ้างเป็นธรรมดา ให้เจ้าตัวเล็กได้แลกเปลี่ยนความคิดหรือพูดคุยกัน หายเหงาไปได้บ้างค่ะ

ตามหาสมบัติ

เกมแสนสนุกที่เล่นได้หลายวิธี คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกใช้วิธีคลาสสิคอย่างเอาของไปซ่อนแล้วให้ช่วยกันตามหาในบ้านก็ได้ หรือถ้าอยากให้เจ้าตัวน้อยร่วมมือกับเพื่อน ๆ ก็สามารถให้เขาวิดีโอคอลกับเพื่อน ให้คำใบ้ถึงของใช้หรืออุปกรณ์ภายในบ้าน แล้วให้เขากับเพื่อน ๆ ช่วยกันคิด ร่วมมือกันหาให้เจอก็สนุกไปอีกแบบค่ะ อีกทั้งยังช่วยให้เขาได้สื่อสาร พูดคุยกับคนอื่นนอกจากครอบครัวอีกด้วย

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



เมื่อผม…
ชีวิตครอบครัว
เมื่อผม…
31 มีนาคม 2563
7  วิธี พิชิตการทานยากของเด็ก
ชีวิตครอบครัว
สิ่งสำคัญคือตัวเรา
ชีวิตครอบครัว
ไม่เป็นไร
26 สิงหาคม 2563
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save