fbpx

นาฬิกาปลุกประจำตัว! 5 วิธีปลุกของเจ้าตัวเล็กที่ปลุกแม่จนตาตื่น!!

Writer : Lalimay
: 8 ตุลาคม 2563

สำหรับคุณแม่ลูกอ่อนแล้วการนอนเป็นเรื่องที่สำคัญและเราต้องการมากๆ เพราะเมื่อก่อนก่อนที่จะมีลูกเราอาจจะนอนยาวๆ หรือถ้าอยากตื่นตอนไหนก็ตั้งนาฬิกาปลุกได้ แต่ตอนนี้พอมีลูกเท่านั้นแหละ การนอนยาวคืออะไรไม่เคยรู้จัก นาฬิกาปลุกก็ไม่จำเป็นต้องตั้ง เพราะมีนาฬิกาปลุกประจำตัว นั่นก็คือ ลูกสุดที่รักกกกก ที่ปลุกเก่งงงงและมีชุดความคิดที่ว่า “ถ้าหนูตื่น ทุกคนในบ้านต้องตื่นนน” เรามาดูกันดีกว่าว่านาฬิกาปลุกที่เรียกว่าลูกจะมีวิธีปลุกคุณแม่แบบไหนบ้าง

1. ร้องจ๊าก

วิธีแรกที่เจ้าตัวเล็กจะปลุกคุณแม่ให้ตื่นได้ก็คือ “การร้องจ๊าก” วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลแบบ 100%  เพราะเมื่อคุณแม่ได้ยินเสียงลูกร้องก็จะสะดุ้งตื่นโดยอัตโนมัติด้วยความเป็นห่วง ซึ่งส่วนมากการที่ลูกร้องจ๊ากก็จะเป็นเพราะเขาหิว หรือผวาตื่นนั่นเองค่ะ

 

2. คลานมาตีหน้า

วิธีที่ 2 ก็คือการคลานมาตีหน้าของคุณแม่ค่ะ วิธีนี้จะแอดวานซ์กว่าวิธีแรกขึ้นมาหน่อย บางทีก็ตีเหมือนสะกิด แต่ถ้าวันไหนลูกกะน้ำหนักมือไม่ดีก็คงมีหน้าแดงกันไปข้าง วิธีนี้ค่อนข้างเจ็บแต่คุณแม่จะตื่นได้ง่ายทีเดียว

 

3. คลานมาดูดนม

วิธีที่ 3 คือคลานมาดูดนม เจ้าตัวเล็กที่ใช้วิธีนี้อาจเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย พอหิวก็จะหานมกินเอง ซึ่งเขาก็จะคลานมาที่คุณแม่ เปิดเสื้อ และเข้าเต้าด้วยตัวเองได้เลย วิธีนี้ช่วงแรกๆ คุณแม่ก็อาจตกใจตื่น แต่ถ้าลูกทำบ่อยๆ เข้าก็อาจเคยชิน พอเขาจะมาดูดนมก็เผลอหลับต่อได้ง่ายๆ เลยค่ะ

 

4. ปาของ

วิธีที่ 4 คือ ปาของ วิธีนี้ใช้กลยุทธ์ที่ทำให้คุณแม่สะดุ้งตกใจด้วยการใช้เสียง เพราะลูกอาจจะคว้าข้าวของอะไรที่อยู่ใกล้มือแล้วปาออกไปด้วยแรกอันน้อยนิด บางทีก็อาจจะตกอยู่แค่ที่ข้างเตียง แต่ถ้าเป็นของที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก หรือส่งเสียงเวลาตกก็ทำให้ตกใจได้อยู่เหมือนกัน

 

5. เล่นของเล่นที่มีเสียง

วิธีสุดท้ายก็คือการเล่นของเล่นที่มีเสียง เจ้าตัวเล็กอาจมีของเล่นชิ้นโปรดที่มักจะวางไว้ใกล้ๆ เตียง พอเขาตื่นขึ้นมาปุ๊บก็หยิบของเล่นมาเล่นปั๊บ และโดยปกติของเล่นที่เด็กเล็กชอบก็จะเป็นพวกของเล่นที่มีเสียงกุ๊งกิ๊งๆ หรือมีเสียงที่ค่อนข้างดัง เลยเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดีที่ทำให้คุณแม่ตื่นได้นั่นเองค่ะ

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ไม่เป็นไร
26 สิงหาคม 2563
สิ่งสำคัญคือตัวเรา
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save