Parents One

รู้จักลูกให้มากขึ้นด้วยการใช้ “นพลักษณ์” ศาสตร์แห่งการเข้าใจคน

Enneagram (เอ็นเนียแกรม) หรือที่เรียกกันว่า “นพลักษณ์” เป็นศาสตร์ที่ใช้เพื่อเข้าใจตัวเองเเละเข้าใจผู้อื่น ซึ่งตามตำราบอกไว้ว่าเราเเบ่งประเภทของคนออกได้เป็น 9 ประเภท ลองมาดูกันว่าลูกของเราจะเป็นเด็กลักษณ์ไหนกันนะ

[เด็กลักษณ์ที่ 1] คนสมบูรณ์แบบ

ลักษณะ : มองว่าโลกนี้ไม่สมบูรณ์แบบ อยากให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางตลอดเวลา ถ้ามีห้องส่วนตัวเด็กลักษณ์นี้ก็มักจะจัดให้เรียบร้อยอยู่เสมอ จัดโต๊ะเป็นระเบียบ พับผ้าเรียบร้อย คลุมเตียงสวยงาม เพราะเขาอยากให้โลกเพอร์เฟค การใช้ชีวิตจะเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ ชอบไปเรียนตรงเวลา ไม่ชอบมาสาย เเละมักจะเป็นนักเรียนคนโปรดของครูอาจารย์ นิสัยเสียคือเป็นคนขี้บ่น จู้จี้จุกจิก ชอบจับผิด ชอบแก้ไข

วิธีการเลี้ยงดู : พ่อเเม่ควรชื่นชมในความมีวินัยสูงที่เด็กลักษณ์นี้มี เเละควรส่งเสริมให้เขาทำงานที่ใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเด็กลักษณ์ที่ 1 สามารถทำได้ดี นอกจากนั้นก็ช่วยเหลือด้านอารมณ์ สอนให้เด็กผ่อนคลาย ไม่ต้องเครียดกับทุกสถานการณ์ เเละหมั่นบอกเขาว่าบางอย่างนั้นสามารถยืดหยุ่นได้

[เด็กลักษณ์ที่ 2] ผู้ให้

ลักษณะ : ว่ากันว่าเป็นเด็กที่มีตาสวยที่สุดจากทั้ง 9 ลักษณ์ ค่อนข้างยึดติดกับภาพลักษณ์เเละต้องการการยอมรับสูง เลยเเสดงออกด้วยการใส่ใจผุ้อื่น มีความเก่งในการสังเกตว่าพ่อแม่ เพื่อน ชอบอะไร เเละภูมิใจเมื่อได้ให้ อยากให้คนอื่นเเสดงท่าทีตอบรับอย่างยินดี สิ่งสำคัญที่สุดที่เด็กลักษณ์นี้อยากได้คือการรู้สึกว่าถูกรัก ถูกเห็นความสำคัญจากคนใกล้ชิด

วิธีการเลี้ยงดู : คุณพ่อคุณเเม่ควรเเสดงความรักกับลูกบ่อยๆ ชื่นชมในจุดที่เป็นเด็กน่ารัก มีน้ำใจ เเละควรสอนไม่ให้เขาคาดหวังกับผู้อื่นมากเกินไป พยายามบอกลูกว่าให้มีความสุขจากภายในด้วยการรักตัวเองก่อน เเล้วเขาจะเติบโตเป็นผู้ให้ที่มีความสุข

[เด็กลักษณ์ที่ 3] นักแสดง

ลักษณะ : เป็นเด็กมีเป้ามหมายมาตั้งแด่เด็ก เช่น ถ้าพ่อเเม่อยากให้เรียนเก่ง ก็จะตั้งใจเรียนจนเป็นเด็กเรียนเก่ง ถ้าพ่อเเม่อยากให้เข้าคณะนี้ ก็จะพยายามจนสอบเข้าได้ เพื่อให้พ่อเเม่ยอมรับ เมื่อเริ่มโตขึ้นก็ขยายความคาดหวังที่จะได้รับการยอมรับกว้างขึ้นไปที่ เพื่อน ครู คนรอบข้าง เเละมักไม่พูดถึงความล้มเหลว มักมีวิธีเปลี่ยนวิธีการเพื่อไปถึงเป้าหมาย โตขึ้นเขาอาจกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เเต่การที่สนใจเป้าหมายมากเกินไปอาจทำให้ลืมใส่ใจสิ่งรอบตัวได้

วิธีการเลี้ยงดู : พ่อเเม่ควรชื่นชมลูกในความเป็นคนมีความพยายาม เเละสอนให้เขาเข้าใจว่าโลกนี้ไม่ได้มีเเค่การเเข่งขัน เอาชนะ เเค่อย่างเดียว เเต่ยังมีเรื่องการทำงานเป็นทีม เเละบอกลูกว่าในการทำงานเราสามารถไปเข้าเส้นชัยหรือไปถึงเป้าหมายเเบบเป็นทีมได้

[เด็กลักษณ์ที่ 4] ศิลปิน

ลักษณะ : ชอบที่จะรู้สึกว่าตัวเองมีความ “พิเศษ” เเตกต่างจากคนอื่น ชอบตามหาสิ่งพิเศษที่ขาดหายไปในชีวิต เเสดงออกทางอารมณ์เเบบเข้มข้น ถ้าดีใจก็ดีใจสุดถ้าเศร้าก็เศร้าจะสุด เด็กลักษณ์ 4 มักมีความคิดสร้างสรรค์ มีไหวพริบ ชอบคิดอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ บางครั้งชอบแยกตัวออกจากคนอื่น อารมณ์บอบบางอ่อนไหว เเเละด้วยความเป็นคนอ่อนไหวจึงเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้ดี

วิธีการเลี้ยงดู : พ่อแม่ควรส่งเสริมให้เด็กลักษณ์นี้ทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เขาจะมีความสุขมากหากรู้สึกว่าได้สร้างสิ่งพิเศษๆ ให้กับโลกใบนี้ เเละจะพัฒนาไปได้ไกล นอกจากนั้นควรดูเเลเรื่องอารมณ์ของลูก สอนไม่ให้เขาคิดมากจนเกินไป หัดมองโลกตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

[เด็กลักษณ์ที่ 5] นักสังเกตการณ์

ลักษณะ : ชอบหาข้อมูลเรื่องที่ตัวเองสนใจ บางครั้งเราจะเห็นเด็กลักษณ์นี้หลงใหลคลั่งไคล้บางอย่างมากๆ เช่น เด็กบางคนที่ชอบเทคโนโลยีก็จะหมกหมุ่น ศึกษาข้อมูลแบบลงลึกจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือชอบสะสมสิ่งของ มักเก่งในการวิเคราะห์ จัดระบบความคิด จุดที่สังเกตง่ายๆ คือเป็นเด็กไม่พูดมาก จนบางครั้งคนอื่นก็สงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันเเน่นะ ไม่ชอบสัมผัสกับความรู้สึก มักอธิบายสิ่งต่างๆ ด้วยเหตุผล เหมือนเป็นคนช้าๆ เเต่ความจริงกำลังหาข้อมูลในการตัดสินใจ เเละมักช่วยกู้สถานการณ์ได้ในช่วงเวลาคับขันขณะที่คนอื่นกำลังตื่นตกใจ

วิธีการเลี้ยงดู : พ่อเเม่ควรส่งเสริมให้ทำงานที่ใช้การวิเคราะห์ เพราะเด็กลักษณ์นี้จะทำได้ดี เเละฝึกฝนให้พัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร ถึงเเม้เด็กลักษณ์ 5 จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย เสียพลังงาน เเละกลัวเสียความเป็นส่วนตัว เมื่อต้องคุยกับคนเยอะๆ เเต่ก็ควรบอกเขาว่าการพูดคุยกับคนอื่นๆ ช่วยให้เขาได้ข้อมูลที่น่าสนใจจากสิ่งรอบตัว เเละสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ เพื่อที่ลูกจะมีทัศนคติที่ดีในการเข้าสังคม

[เด็กลักษณ์ที่ 6] นักตั้งคำถาม

ลักษณะ : สำหรับเด็กกลุ่มนี้มักตังคำถามกับทุกเรื่อง จนบางครั้งโดนหาว่าเป็นเจ้าหนูจำไม เพราะชอบคาดการณ์สถานการณ์เรื่องราวในอนาคต ชอบที่จะเช็คให้มั่นใจว่าตัวเองปลอดภัยจริงๆ เพื่อเตรียมการณ์หาวิธีในการจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ค่อนข้างไว้ใจคนยาก สำหรับเด็กกลุ่มนี้ต้องใช้ความคุ้นเคย น่าเชื่อถือระดับหนึ่งถึงจะยอมเปิดใจ เช่น ถ้าสัญญาว่าจะไปเที่ยวก็ต้องพาไป สัญญาว่าจะให้รางวัลเมื่อสอบได้ก็ต้องให้ เเละหากมีความเปลี่ยนแปลงเขาก็มักจะตกังวลว่ามีอะไรไม่เหมือนเดิมหรือเปล่านะ

วิธีการเลี้ยงดู : การมองโลกด้วยคสามระมัดระวังเป็นเรื่องดี เเต่ควรสอนให้เขาไม่ระเเวงจนเกินไป เพราะอาจทำให้เป็นเด็กที่มองโลกเเง่ลบ ไม่มีความสุข คุณพ่อคุณเเม่่ต้องสร้างสภาพเเวดล้อมที่มั่นคงให้ลูกด้วย เขาจะได้มีความรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย

[เด็กลักษณ์ที่ 7] ผู้เสพสุข

ลักษณะ : เป็นเด็กร่าเริง สนุกสนาน มีอารมณ์ขัน เป็นที่รักของเพื่อนๆ เเละเป็นคนคอยสร้างบรรยากาศที่ดีเมื่ออยู่ใกล้ เด็กกลุ่มนี้มองว่าทุกอย่างเป็นเรื่องสนุก บางครั้งลงมือทำได้ไม่นานก็เบื่อ ชอบหันเหไปทำสิ่งที่น่าสนใจกว่า เพราะไม่ชอบทำอะไรซ้ำซาก จำเจ เป็นคนไม่ค่อยวางเป้าหมายมากนัก

วิธีการเลี้ยงดู : พ่อเเม่ควรชื่นชมลูกในความกระตือรือล้น สนุกสนาน ที่เด็กลักษณ์นี้มีโดยธรรมชาติ เเละสอนให้ลูกตั้งเป้าหมายเล็กๆ คอยกระตุ้นให้ไปถึงเป้าหมายได้ทีละนิดๆ สามารถฝึกได้ตั้งเเต่เด็ก เช่น ต่อจิ๊กซอว์ ต่อตัวต่อ เป็นการฝึกให้เด็กค่อยๆ ทำสิ่งต่างๆ จนประสบความสำเร็จในที่สุด

[เด็กลักษณ์ที่ 8] เจ้านาย

ลักษณะ : เป็นเด็กพลังงานเยอะ ดูคล้ายๆ เหมือนเป็นเด็กก้าวร้าว มีความรักความยุติธรรม เวลาเห็นอะไรที่ไม่ชอบธรรมมักจะทนไม่ได้ เช่น เห็นเพื่อนถูกรังแกก็จะเข้าไปช่วย มักปกป้องสิทธิทั้งของตัวเองเเละของคนอืื่น ค่อนข้างเป็นคนพูดตรง ไม่ค่อยประนีประนอม

วิธีการเลี้ยงดู : เเนะนำวิธีการเเสดงออกให้เหมาะสม สอนลูกถึงความประนีประนอม เเละบอกเขาว่าให้ใช้สติแก้ปัญหา อย่าใช้กำลัง

[เด็กลักษณ์ที่ 9] นักประสานไมตรี

ลักษณะ : ดูเป็นเด็กน่ารัก ว่าง่าย ชอบตามใจคนอื่น คนลักษณ์นี้ชอบให้ทุกคนมีความสุข ไม่ชอบความขัดเเย้ง เลยกลายเป็นคนชอบไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นเพื่อนทะเลาะกัน จนบางครั้งกลายเป็นมากเกินไป เพราะเด็กลักษณ์ 9 ค่อนข้างไวต่อความรู้สึก เเละไม่กล้าตัดสินใจเท่าไหร่นัก ชอบที่จะให้คนอื่นตัดสินใจมากกว่า

วิธีการเลี้ยงดู : พ่อเเม่ควรสอนชื่นชมจุดเเข็งในความเป็นคนอ่อนโยน เเละควรทดลองกล้าตัดสินใจหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง จะทำให้เด็กเป็นคนมั่นใจมากขึ้น

การเรียนรู้เรื่องนพลักษณ์ดีต่อทั้งตัวพ่อเเม่ เเละลูก เพราะเป็นการเข้าใจถึงความเเตกต่าง ทำให้เข้าใจพฤติกรรม สามารถพัฒนาตัวเองได้ถูกทาง ไม่ต้องรู้สึกเครียดเมื่อลูกนิสัยไม่เหมือนตัวเอง เเละเรียนรู้ที่จะรักลูกอย่างเข้าใจในเเบบที่เขาเป็น

ลองทำแบบทดสอบกันดูว่าเราเป็นคนลักษณ์ไหน: แบบทดสอบ

ขอบคุณ-  gotoknow   สมาคมนพลักษณ์ไทย