fbpx

ยุงกัดลูกบ๊อยบ่อย จะหาวิธีหลีกเลี่ยงหรือป้องกันอย่างไรดี

Writer : giftoun
: 29 มกราคม 2561

ยุงนั้นมีอยู่ทุกที่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน สามารถกัดทุกคนในบ้านจนคันและเกิดโรคได้โดยเฉพาะกับลูกน้อยของคุณแม่เอง จะมีวิธีใดบ้างที่สามารถหลีกเลี่ยงหรือป้องกันไม่ให้ยุงมากัดลูกได้ มาดูวิธีเหล่านี้กันค่ะ

พยายามให้อยู่ในที่โล่ง ไม่อยู่ในมุมอับ

ยุงนั้นจะชอบอยู่ในที่มืด อับชื้น และไม่ชอบแสงสว่าง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้คุณแม่ควรพาลูกไปในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอและโล่งแจ้งจะดีที่สุดค่ะ

ไล่ยุงด้วยน้ำมันสกัดจากตะไคร้หอม

ผลวิจัยที่เว็บไซต์ Huffington Post ได้เผยเอาไว้แสดงให้เห็นว่า น้ำมันสกัดจากตะไคร้หอมจะช่วยป้องกันไม่ให้ยุงเข้ามายุ่มย่ามกับคุณได้นานกว่า 20 นาที ซึ่งน้ำมันตะไคร้หอมจะเป็นตัวเลือกที่หาง่ายและน่าใช้เพราะตอนนี้ก็มีตะไคร้หอมในรูปแบบสเปรย์มาให้เราฉีดป้องกันยุงกันแล้วค่ะ

ทายากันยุงเมื่อจำเป็น

เมื่อต้องไปเที่ยวข้างนอกและไม่สามารถคาดการณ์อะไรล่วงหน้าได้ ทางที่ดีแนะนำให้คุณแม่ทายากันยุงให้ลูกจะดีที่สุดค่ะ อย่างไรก็ตามควรทายากันยุงซ้ำให้ลูกบ่อยๆ และเลือกใช้ยากันยุงที่อ่อนโยนเหมาะกับเด็กจะดีที่สุดค่ะ

ใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว

เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพียงแค่ให้ลูกน้อยของคุณแม่ใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เพื่อป้องกันยุงมากัด อาจเสริมด้วยการใส่ถุงเท้าหรือผ้าพันคอเพิ่มเติมก็ได้แล้วแต่สภาพอากาศค่ะ

เลือกใส่เสื้อผ้าสีอ่อนๆ

จากผลการวิจัยพบว่ายุงจะชอบเสื้อสีเข้มๆ มากกว่าสีอ่อนๆ อันเนี่องมาจากยุงนั้นจะชอบอยู่ในที่มืด อับชื้น และไม่ชอบแสงสว่าง ลองให้ลูกใส่เสื้อสีอ่อนๆ จะช่วยไม่ให้ยุงมากัดได้ส่วนหนึ่งค่ะ

กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในบ้าน

ยุงเป็นสัตว์ที่วางไข่ในน้ำ โดยเฉพาะแอ่งน้ำที่เน่าขัง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อับ มืด และอบอุ่น ซึ่งยุงจะรู้สึกปลอดภัยมาก ดังนั้นควรสำรวจบริเวณรอบๆ บ้านของคุณแม่เองว่า มีแอ่งน้ำขังอยู่ตรงบริเวณไหนบ้าง และหากพบก็จัดการเทน้ำที่ขังอยู่ทิ้งให้หมดจะได้ไม่มีที่ให้ยุงมาวางไข่ค่ะ

อยู่ใกล้พัดลมให้มากที่สุด

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอฟันธงมาแล้วว่ายุงไม่ใช่สัตว์นักบินที่ดีนัก แค่แรงพัดลมก็ทำให้ยุงบินเซได้แล้วล่ะค่ะ ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้วคุณแม่ก็พาลูกน้อยอยู่ใกล้พัดลม ให้ลมจ่อไล่ยุงดีกว่านะคะ

นอกจากยุงจะทำให้ลูกน้อยเกิดอาการคันและทิ้งร่องรอยตุ่มสีแดง ๆ ให้ดูต่างหน้าแล้ว น้ำลายยุงก็เป็นพาหะนำโรคร้ายอย่างไข้เลือดออกและโรคมาลาเรียอีกด้วย ถ้าครอบครัวไหนที่ลูกโดนยุงกัดบ่อยๆ สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ได้เลยค่ะ

ที่มา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



เตรียมตัวเป็นแม่ เตรียมตัวเป็นแม่
14 สิงหาคม 2561
การ์ตูนชุดที่ให้ข้อคิดดีๆ กับเด็ก
กิจกรรมของครอบครัว
6 สถานที่ที่เหมาะพาลูกไปปั่นจักรยาน
กิจกรรมของครอบครัว
อยากพาลูกไปกางเต้นท์ เตรียมตัวอย่างไรดี
กิจกรรมของครอบครัว
กิจกรรมช่วงปิดเทอมสำหรับเด็ก
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
20 ธันวาคม 2560
7 เหตุผลที่ควรพาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่น
กิจกรรมของครอบครัว
20 คำที่ไม่ควรพูดกับลูก
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save