คำพูดร้ายๆ พูดเพียงแค่ไม่กี่นาทีคนพูดก็ลืมหมดแล้วก็จริง แต่คนฟังยังจำฝังใจไม่ลืมเลือน ยิ่งเป็นลูกน้อยแล้วการลบคำพูดร้ายๆ ในใจเด็กออกไปถือว่าเป็นงานยากที่หลายบ้านต่างกุมขมับกันเลยทีเดียว จะมีวิธีใดที่ลบคำพูดร้ายๆ ออกไปได้บ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ
ให้ลูกเห็นอกเห็นใจตัวเองมากขึ้น
หลายครั้งที่คำพูดร้ายๆ จะบั่นทอนจิตใจลูกน้อย จนทำให้ลูกคิดว่าเป็นความผิดของลูกเองที่ทำให้เรื่องราวเลวร้ายไปใหญ่ คุณแม่สามารถตั้งคำถามให้ลูกลองคิดดูได้ว่าถ้าเป็นลูกจะพูดแบบนี้ไหม วิธีนี้สร้างให้ลูกกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง คิดและแสดงออกด้วยความเห็นอกเห็นใจตัวเองมากขึ้นค่ะ
ตอบกลับคำพูดร้ายๆ
หากลูกได้ยินหรือนึกถึงคำพูดร้ายๆ ผุดขึ้นมาในหัว คุณแม่สามารถแนะนำให้ลูกตอบโต้เสียงนั้นได้ อาจจะเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจตัวเองและทำให้ตัวลูกเองมั่นใจยิ่งขึ้น จะทำให้คำพูร้ายๆ นั้นเจือจางลงได้ค่ะ
พ่อแม่คอยให้กำลังใจลูก
นอกจากวันร้ายๆ แล้ว คำพูดร้ายๆ ยังชอบโผล่มาในวันที่ลูกต้องทำสิ่งท้าทายใหม่ๆ เพราะทั้งกลัว ตื่นเต้นและไม่มั่นใจ คุณแม่สามารถเข้ามากระตุ้นให้เด็กลงมือทำอย่างกล้าหาญ เพื่อแสดงให้เจ้าอสูรเห็นว่าสิ่งที่พูดมานั้นผิดทั้งหมด บอกลูกดังๆ เลยว่า “ทำเลย…ลูกทำได้”
เปลี่ยนวิธีคิดให้ลูกมองหาสิ่งดีๆ
ลองเปลี่ยนวิธีคิดให้ลูกมองหาสิ่งดีๆ สร้างช่วงเวลาฝึกฝนในเชิงบวก ทำให้ลูกรู้ว่า เขาชอบหรือสนใจทำอะไร และส่งเสริมให้เขาลงมือทำสิ่งนั้นจนสำเร็จ หรือแม้กระทั่งการถามว่า “วันนี้มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง?” ก็ช่วยกระตุ้นให้ลูกเปิดใจ เปลี่ยนวิธีคิดให้เด็กมองหาสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตแทนการคิดถึงคำพูดร้ายๆ
ถ้ายังไม่สำเร็จ บอกให้ลูกค่อยลองดูใหม่
การลบคำพูดร้ายๆ ในใจเด็กออกไปอาจไม่ได้ทำได้ในครั้งแรก คุณแม่สามารถปลอบลูกได้ด้วยคำพูดง่ายๆ เช่น ไว้เรามาลองกันใหม่นะ หนูอยากลองทำอีกเมื่อไหร่บอกแม่นะคะ นี่ทำได้ดีกว่าครั้งที่แล้วอีกนะ แม่ว่าคราวหน้าหนูต้องทำได้ดีกว่านี้แน่ๆ เป็นต้น จะทำให้ลูกใจชื้นและพร้อมพัฒนาไปในทางที่ดีได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม การลบคำพูดร้ายๆ อาจไม่สามารถลบได้ภายในวันสองวัน และเด็กแต่ละคนมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการสอน แนะนำ ส่งเสริม จึงมีความเฉพาะตัว และไม่ควรเอาลูกเราไปเปรียบเทียบกับลูกใครด้วยเช่นกันค่ะ
ที่มา