fbpx

NEWS : BBC เตือน! พบ MIS-C อาการอักเสบรุนแรงในเด็ก หลังติดเชื้อ Covid-19 ที่อินเดีย-สหรัฐ

Writer : Mneeose
: 29 มิถุนายน 2564

สุติ พิศวาส ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำอินเดีย ได้มีการรายงานว่า พบกลุ่มอาการอักเสบของอวัยวะหลายระบบในเด็ก (multi-system inflammatory syndrome หรือ MIS-C) ซึ่งมักเกิดขึ้น 4 – 6 สัปดาห์ หลังจากเด็กและวัยรุ่นหายป่วยจากโควิด-19 ในประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่าเป็นอาการที่มีความรุนแรง และวิกฤต โดยส่วนใหญ่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis)

แม้ว่าการระบาดระลอกที่ 2 ของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง แต่กุมารแพทย์ในอินเดียกลับรายงานการพบอาการป่วยที่พบได้ยากแต่รุนแรงเช่นนี้เพิ่มขึ้น แต่ในสหรัฐฯ ได้มีการรายงานว่าพบผู้ป่วยกลุ่มอาการอักเสบของอวัยวะหลายระบบในเด็ก 3,742 ราย และเสียชีวิตแล้ว 35 ราย

ซึ่งอาการของเด็กที่ป่วยเป็น MIS-C เช่น มีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง มีผื่นขึ้นที่ผิวหนัง ตาแดง ต่อมน้ำเหลืองบวมโต ปวดท้อง ความดันโลหิตต่ำ ปวดเมื่อยเนื้อตัว และง่วงซึม โดยบางอาการคล้ายกับโรคคาวาซากิ (Kawasaki disease) หากอาการอักเสบรุนแรงก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อกจากการติดเชื้อ ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ เช่น หัวใจ ตับ ไต โรคระบบประสาท และสมองอีกด้วย

อาการที่ควรพาลูกไปพบแพทย์

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (ซีดีซี) แนะนำให้ผู้ปกครองรีบพาบุตรหลานไปพบแพทย์ทันที หากเด็กแสดงอาการที่เป็นสัญญาณเตือนดังต่อไปนี้

  • หายใจลำบากมาก
  • มีอาการเจ็บ หรือบีบคั้นที่หน้าอกต่อเนื่องไม่หายไป
  • มีอาการสับสน
  • มีอาการตื่นยาก หรือไม่ยอมหลับ
  • ริมฝีปาก หรือเนื้อใต้เล็บเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน หรือสีซีด แล้วแต่โทนสีผิว
  • มีอาการปวดท้องรุนแรง

เพราะเรื่องที่น่ากังวลที่สุด ก็คือ คนไข้เด็กราว 90% ที่ติดโควิดโดยที่ไม่แสดงอาการป่วยใด ๆ แต่จะเริ่มล้มป่วยด้วยอาการ MIS-C ราว 2-6 สัปดาห์ หลังจากหายจากโควิดแล้ว ฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ และผู้ปกครองจึงต้องช่วยกันดูแลบุตรหลานให้ดีๆ โดนหมั่นสังเกตว่าลูกเรามีอาการข้างต้นหรือไม่ ถ้ามีควรรีบพบแพทย์ด่วนที่สุดนั่นเองค่ะ ถึงแม้ว่าอาการ MIS-C จะยังไม่ได้พบผู้ป่วยในประเทศไทย แต่ก็ต้องช่วยกันระมัดระวังไปพาลูกเสี่ยงอออกไปข้างนอกกันด้วยนะคะ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ

ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิง : www.khaosod.co.th

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save