fbpx

NEWS: ระวังเด็กจมน้ำ อย่าปล่อยเด็กไว้ที่แหล่งน้ำตามลำพัง พบเด็กจมน้ำเสียชีวิต 15 รายในต้นปีนี้

: 12 กุมภาพันธ์ 2564

วันหยุดแล้ว แน่นอนว่ากิจกรรมที่เด็กๆ ชื่นชอบก็คงไม่พ้นกับการเล่นน้ำหรือว่ายน้ำ แต่ถ้าหากไม่ระวังก็อาจเกิดอุบัติเหตุจมน้ำได้ อีกทั้งแล้วยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 จากการรวมตัวของเด็กๆ อีกด้วยค่ะ

กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรคได้เผยว่าต้นปี 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ พบเหตุเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ตกน้ำ จมน้ำ เป็นจำนวน 18 เหตุการณ์ ซึ่งในนั้นเสียชีวิต 15 ราย และไม่เสียชีวิต 6 ราย และส่วนมากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 – 9 ปีที่เป็นผู้เสียชีวิต

สำหรับผู้ปกครองที่นำเด็กออกไปประกอบอาชีพที่ต้องอยู่ใกล้แหล่งน้ำ กรมควบคุมโรคได้แนะนำให้เด็กพกอุปกรณ์ลอยน้ำที่หาได้ง่ายติดตัวด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถึงแกลลอนพลาสติกเปล่าปิดฝา เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินให้นำมากอดไว้บริเวณหน้าอกให้ลอยตัวอยู่บนน้ำ แล้วจึงค่อยตะโกนขอความช่วยเหลือค่ะ

อีกทั้งยังแนะนำมาตรการตะโกน โยน ยื่นหากพบเด็กหรือคนตกน้ำ ไม่ควรกระโดดลงไปช่วยเพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ค่ะ ซึ่งมาตรการตะโกน โยน ยื่นมีดังนี้:

  1. ตะโกน: ตะโกนขอความช่วยเหลือ โทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669
  2. โยน: โยนวัสดุลอยน้ำได้ให้คนตกน้ำให้เกาะจับพยุงตัว อย่างเช่น ถังแกลลอน พลาสติกเปล่า
  3. ยื่น: ยื่นไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับแล้วดึงขึ้นมาจากน้ำ

นอกจากนี้แล้ว กรมควบคุมโรคยังได้พัฒนาสื่อมัลติมีเดียสอนการช่วยเหลือคนจมน้ำที่ถูกต้องได้ด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/dip/video.php

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

ระวังเด็กจมน้ำ อย่าปล่อยเด็กไว้ที่แหล่งน้ำตามลำพัง พบเด็กจมน้ำเสียชีวิต 15 รายในต้นปีนี้

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3aftgyh

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save