fbpx

NEWS: ครูทำเกินกว่าเหตุ ลงโทษตีมือเด็ก จนพบรอยผิดปกติที่กระดูกมือ

Writer : Lalimay
: 22 มิถุนายน 2564

พบอีกแล้วกับเหตุการณ์ที่คุณครูทำโทษเด็กเกินกว่าเหตุ โดยในครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนในจังหวัดอ่างทอง คือมีคุณครูคนหนึ่งลงโทษเด็กนักเรียนชั้นป.5 ด้วยการตีมือของเด็กจนต้องเข้าเฝือก

โดยมีนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.อ่างทองถูกคุณครูประจำชั้นทำโทษใช้ไม้ตีที่มืออย่างรุนแรง เหตุผลจากครู คือ เด็กส่งการบ้านไม่ครบ จึงใช้ไม้ตีบริเวณมือทั้ง 2 ข้าง จำนวน 3 ครั้ง หลังจากถูกตีพบว่าเป็นการเข้าใจผิดเนื่องจากเด็กสับสน คิดว่าเป็นหนังสือการบ้านอีกเล่มหนึ่งจึงหยิบมาผิดเล่ม

หลังจากถูกตี เด็กชายรู้สึกเจ็บที่มือ จนช่วงพักกลางวันไม่สามารถตักข้าวกินเองได้ มีอาการปวดจนมือสั่นอยู่ตลอดเวลา โดยมือมีอาการบวมแดงและอักเสบ ช่วงเย็นพ่อแม่จึงพาไปพบแพทย์อละได้รับการเอกซเรย์ พบว่าบริเวณมือซ้ายมีความผิดปกติ มีจุดดำบริเวณกระดูก เบื้องต้นจึงทำการเข้าเฝือกไว้ และรอดูอาการอีก 5 วัน เอกซเรย์ซ้ำหากบริเวณจุดดำมีรอยของคราบหินปูนเกาะ แสดงว่ากระดูกหัก

ทางด้านพ่อแม่ของเด็กรู้สึกว่าคุณครูทำเกินกว่าเหตุ มันไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการทำร้ายร่างกาย ในนตอนแรกจึงได้เข้าพบกับผอ. เพื่อชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้น และคุณครูประจำชั้นก็ได้เข้ามาพูดคุยพร้อมกล่าวคำขอโทษ โดยมีการพูดถึงค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา ซึ่งทางครอบครัวของเด็กชายก็ปฏิเสธที่จะรับ เพราะแค่อยากให้ครูแสดงความรับผิดชอบเฉยๆ

แต่เรื่องกลับไม่จบเท่านั้น เพราะมีเด็กนักเรียนที่เป็นเพื่อนกับลูก แจ้งว่าคุณครูคู่กรณี สั่งเด็กๆ ในห้อง ถ้าใครมาถามให้บอกว่า ครูไม่ได้เป็นคนทำ และลูกตนไม่ได้รับบาดเจ็บจริง ใบรับรองแพทย์ก็ไม่มี จึงทำให้มีเพื่อนร่วมห้องบางคนแสดงอาการบูลลี่เด็กชาย ไม่คุยด้วย ใช้คำพูดเหมือนเด็กชายเป็นเด็กโกหก 

ดังนั้นทางครอบครัวจึงได้มีการไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อให้คุณครูมาพูดความจริงที่เกิดขึ้น ให้นักเรียนในห้องได้รับทราบว่า สิ่งที่เด็กชายพูดและถูกกระทำนั้นเป็นเรื่องจริง เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นความจริง เพราะถ้าครูไม่แสดงความรับผิดชอบ ตนและครอบครัวจะเดินหน้านำหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับคุณครูผู้ก่อเหตุต่อไป

ทางด้านคุณครูพอได้ทราบเรื่องก็ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายร่างกายเด็กและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นผอ.โรงเรียนได้ตักเตือนคุณครูและย้ายให้ไปสอนนักเรียนชั้นอื่นแทน

 

อ้างอิงจาก

https://www.thairath.co.th/news/local/central/2120920

https://news.ch7.com/detail/494464

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save