fbpx

รู้จักสารทาเลต (Phthalates) ภัยเงียบแอบแฝงในของเล่น!!

Writer : Phitchakon
: 24 สิงหาคม 2565

ภัยอันตรายอยู่รอบตัวเราจริงๆ ค่ะ แม้แต่ของเล่นหน้าตาน่ารักนุ่มนิ่มที่เจ้าตัวน้อยพกติดตัวไปไหนมาไหนก็อาจจะไว้ใจไม่ได้ เผลอๆ ระหว่างที่เรากำลังนั่งยิ้มเอ็นดูลูกคว้ายางกัด คว้าตุ๊กตายางบีบเข้าปาก งับหนุบหนับตามประสาเด็กคันเขี้ยว ลูกของเราอาจกำลังรับสารพิษเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

Parents One อยากจะแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านรู้จักกับสารทาเลต (Phthalates) ที่ชื่อฟังดูแล้วอาจไม่คุ้นหู แต่อยู่ใกล้ชิดเด็กๆ มากจนเราคาดไม่ถึงเลยล่ะค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าทาเลตคืออะไร อยู่ที่ไหนบ้าง นอกจากนี้จะส่งผลอย่างไรกับลูกของเรา จับให้ได้ รู้ให้ทัน เพื่อห่างไกลภัยร้ายซ่อนแอบใกล้ตัวลูกนะคะ

สารทาเลต (Phthalates) คืออะไร

สารทาเลต (Phthalates) คือ สารเคมีชนิดหนึ่งที่ทำให้พลาสติกมีความยืดหยุ่นและอ่อนตัว ช่วยเพิ่มภาวะคืนรูป ทำให้มีความทนทาน แตกหักยาก มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น มักพบจากสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงของใช้สำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะของเล่น

พบสารทาเลตจากที่ไหนได้บ้าง

สารทาเลตมีอยู่ในผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น

  • ของเล่นพลาสติกที่มีเนื้อนิ่ม อ่อนตัวได้
  • ขวดนม
  • ยางกัด จุกหลอก
  • เครื่องสำอาง
  • ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เช่น สบู่ แชมพู น้ำหอม ยาทาเล็บ สเปรย์ฉีดผม
  • ภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร เช่น ถุง ซอง ฟิล์มห่ออาหาร กล่องพลาสติก

สารทาเลตเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไรกันนะ

สารเคมีกลุ่มนี้ ไม่มีพันธะเคมีเชื่อมกับโพลิเมอร์ แต่จะแทรกอยู่ระหว่างโมเลกุลของพลาสติก เพราะฉะนั้นจึงสามารถหลุดออกจากสิ่งของ และเข้าสู่ร่างกายได้ และด้วยธรรมชาติของเด็กที่เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส จึงมีความเสี่ยงได้รับสารพิษชนิดนี้เข้าไปสะสมในร่างกายได้ง่าย

  • หยิบเข้าปาก กัด เคี้ยว
  • สัมผัสหยิบจับ
  • สูดดม เข้าทางลมหายใจ

อันตรายจากสารทาเลต

ยังไม่มีการรายงานอันตรายต่อมนุษย์ แต่มีวิจัยในสัตว์ทดลองว่าหากได้รับสารในปริมาณสูงจะส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะกับสัตว์ทดลองอายุน้อย ถึงสารทาเลตจะไม่ส่งผลเสียกับร่างกายทันที แต่การได้รับสารทาเลตในปริมาณมากๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเป็นผลเสียกับสุขภาพในระยะยาว ดังนี้

  • เป็นพิษต่อระบบต่อมไร้ท่อ และระบบสืบพันธุ์
  • ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ
  • ระคายเคืองระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีผลทำลายอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต กระเพาะปัสสาวะ และทางเดินอาหาร

หลายประเทศจึงควบคุมการใช้สารทาเลต ส่วนประเทศไทยเราเอง คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) มีเกณฑ์ควบคุมปริมาณสารทาเลตในของเล่นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ และของเล่นที่เด็กสามารถนำเข้าปากได้ ต้องไม่เกิน 0.1%

ทำอย่างไรให้ห่างไกลสารทาเลต

คุณพ่อคุณแม่จะต้องใส่ใจกับการซื้อสิ่งของให้เจ้าตัวเล็กมากๆ โดยสามารถทำได้โดย

  • อ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง เลือกให้เหมาะกับวัยของลูก
  • สังเกตสัญลักษณ์ Phthalate-Free หรือ PVC-Free
  • หลีกเลี่ยงของเล่นที่ราคาถูกจนเกินไป ถูกและดีอาจไม่จริงเสมอ แทนที่จะคุ้มค่าอาจได้ของแถมเป็นสารปนเปื้อน
  • หลีกเลี่ยงของเล่นที่มีกลิ่นเคมีรุนแรง

และหากเล่นของเล่นชิ้นไหนแล้วมีอาการปวดหัว ไม่สบาย ให้หลีกเลี่ยงของเล่นชิ้นนั้นทันที

เรื่องของเล่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยใช่ไหมคะ ความจริงแล้วยังมีสารเคมีปนเปื้อนอีกมากมายหลายชนิด ในขณะเดียวกันก็ยังมีอันตรายจากของเล่นที่อาจเกิดขึ้นได้อีกเพียบ การซื้อของเล่น ของใช้ครั้งหนึ่ง ความปลอดภัยจึงเป็นข้อสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาดเลยค่ะ

ที่มา :

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
16 สิงหาคม 2560
5 วิธีที่คุณพ่อเล่นกับลูกได้
ชีวิตครอบครัว
8 เทคนิคเลือกของเล่นให้เด็กวัยหัดเดิน
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save