fbpx

5 เทคนิค เลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปง่ายๆ ให้โดนใจ และเหมาะกับวัยเจ้าตัวน้อย

Writer : Mneeose
: 20 กันยายน 2562

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเป็นของใช้ที่จำเป็นมากๆ สำหรับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตคุณพ่อคุณแม่ให้ไม่ต้องนั่งเฝ้าลูกน้อยขับถ่ายตลอดเวลา หรือต้องมานั่งทำความสะอาดผ้าอ้อมอยู่บ่อยๆ นั่นเอง คุณพ่อคุณแม่มือใหม่คงยังไม่ชิน และไม่รู้วิธีการในการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูกๆ อย่างถูกวิธี ซึ่งต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน และใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะผ้าอ้อมนั้นเปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของลูก ซึ่งอยู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลา

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเลือกผ้าอ้อมให้เป็น เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าต้องใช้เกณฑ์เลือกผ้าอ้อมอย่างไร ชีวิตครอบครัวต้องวุ่นวายแน่นอนค่ะ อย่ารอช้า!! เราไปดู 5 เทคนิค เลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปง่ายๆ ให้โดนใจ และเหมาะสมกับวัยเจ้าตัวน้อยกันเลย

1. เลือกขนาด และรูปแบบให้เหมาะสมกับก้นของลูกน้อย

สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึง เมื่อต้องตัดสินใจเลือกซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้เจ้าตัวน้อย นั่นก็คือ ขนาด (Size) และรูปแบบของผ้าอ้อม ซึ่งมีทั้งแบบเทป และแบบกางเกง โดยดูจากน้ำหนัก และช่วงวัย ให้พอดีกับก้นของลูกน้อย อย่าเลือกให้หลวม หรือคับจนลูกอึดอัดเกินไปนั่นเองค่ะ

เช่น ผ้าอ้อมแบบเทปจะเหมาะกับเด็กทารกวัยแรกเกิดไปจนถึง 6 เดือน เพราะลูกในวัยนี้จะมีการขับถ่ายบ่อย และอยู่ในท่านอนตลอดเวลา ดังนั้น จึงควรเลือกผ้าอ้อมแบบเทป เพื่อเปลี่ยนให้ลูกน้อยได้บ่อยครั้ง ทำให้สะดวกในการถอดทำความสะอาด และสวมใส่ เพราะมีเมจิกเทปที่สามารถปรับระดับได้ตามความเหมาะสม

ผ้าอ้อมแบบกางเกง จะเหมาะกับลูกน้อยวัย 5 หรือ 6 เดือนขึ้นไป เพราะลูกในวัยนี้จะเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้มากขึ้น หรือลูกน้อยของเราเริ่มไม่อยู่นิ่งแล้วนั่นเอง การใช้ผ้าอ้อมแบบกางเกงก็จะทำให้ง่าย และสะดวกมากกว่าแบบเทปค่ะ

 

2. ระบายอากาศได้ดี โปร่ง โล่ง สบาย ไม่อับชื้น

การระบายอากาศที่ดีเยี่ยมของผ้าอ้อมสำเร็จรูป เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่สำคัญในการเลือกผ้าอ้อม เพราะช่วยให้ก้นของลูกไม่อับชื้น จึงไม่เกิดผดผื่น หรือรอยแดง รวมทั้งอาการแพ้ผ้าอ้อมของลูก ทำให้ลูกน้อยสดใส อารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวัน

ตามหลักแล้วเราควรเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยทุกครั้งที่ขับถ่าย  หรือทุกๆ 4 ชั่วโมง แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน หากเรามีผ้าอ้อมที่สามารถซึมซับได้อย่างยาวนาน โปร่ง ระบายความอับชื้นได้ดี ย่อมดีกว่าแน่นอน เพราะจะทำให้ก้นของลูกน้อยแห้งสบายยาวนาน และช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเงินในกระเป๋าไปอีกค่ะ  

และอีก 1 เหตุผล คือ การใส่ผ้าอ้อมที่โปร่ง ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น เหมือนใส่ผ้าอ้อมที่หายใจให้ลูกได้ในตอนกลางคืน ทำให้ลูกน้อยนอนหลับยาว โดยไม่ต้องปลุกลูกมาเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยๆ และคุณพ่อคุณแม่ก็ได้หลับยาว แบบนี้ต้องดีกว่าแน่นอน

อย่างไรก็ตามเพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่จึงควรเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกบ่อยๆ นะคะ ดังนั้น เราควรเลือกผ้าอ้อมที่มีแถบวัดความชื้น โดยใช้การเปลี่ยนสีของแถบผ้าอ้อมเป็นตัวบอกความชื้น ช่วยเตือนให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่า เมื่อไหร่จะถึงเวลาในการเปลี่ยนผ้าอ้อมของลูกให้สบายตัวค่ะ

 

3. หมดห่วงเรื่องการรั่วไหล เพราะซึมซับน้ำได้อย่างรวดเร็ว

คุณสมบัติที่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปจะขาดไม่ได้เลย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เมื่อเจ้าตัวเล็กต้องนอนหลับยาว เพื่อให้ Growth Hormone ทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีของลูกน้อย นั่นก็คือ ประสิทธิภาพในการซึมซับน้ำปัสสาวะ หรืออุจจาระได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ก้นลูกน้อยแห้งสบาย ไม่อับชื้น และไม่เป็นผดผื่น 

คุณแม่จึงหมดห่วงเรื่องการเจริญเติบโตของลูกน้อย เพราะลูกไม่ต้องตื่นกลางดึกมาเปลี่ยนผ้าอ้อม

และสำหรับลูกน้อยในวัยคลาน หรือเดิน ผ้าอ้อมที่ซึมซับได้ดี ไม่รั่วไหล จะช่วยให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ขัดขวางพัฒนาการของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่จึงหมดห่วงเรื่องการซึมเปื้อนค่ะ

 

4. บางกระชับ ยืดหยุ่นได้อย่างอิสระ ลูกวิ่งเล่นได้อย่างสบายใจ

แน่นอนว่าลูกน้อยในวัยหัดคลาน และเริ่มเดินย่อมไม่อยู่นิ่ง ดังนั้น การเลือกผ้าอ้อมที่บางกระชับ ยืดหยุ่นได้ดี จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการเคลื่อนไหวของลูกน้อย ผ้าอ้อมที่ดีต้องใส่แล้วไม่บาดขา หรือทำให้ผิวลูกระคายเคือง รวมทั้งเกิดรอยแดงค่ะ

และเมื่อลูกน้อยของคุณเริ่มโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากหาชุดน่ารักๆ เท่ๆ ให้ลูกน้อยได้สวมใส่ ผ้าอ้อมที่อยู่ด้านใน จึงมีส่วนในการเสริมบุคคลิกภาพของลูก เพราะผ้าอ้อมที่บางกระชับจะทำให้เป้าของลูกไม่ตุงนั่นเองค่ะ

 

5. เนียนนุ่มทุกผิวสัมผัส ไม่ระคายเคืองผิวของลูกน้อย

เพราะผิวของลูกน้อยบอบบาง และน่าปกป้องจากสิ่งระคายเคืองต่างๆ  การให้ความสำคัญกับผ้าอ้อมที่จะมาสัมผัสกับผิวลูกน้อยของเรานั้น จึงสิ่งสำคัญที่สุด โดยต้องเลือกเนื้อผ้าที่มีความนุ่ม และมีความโปร่งของเส้นด้าย เพื่อให้อากาศผ่านเข้าไปได้สะดวกนั่นเอง

 

หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่รู้ว่าต้องซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปยี่ห้อไหนแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ Genki (เก็งกิ) ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งคุณแม่ชาวญี่ปุ่นไว้วางใจมาอย่างยาวนานมากกว่า 140 ปี เพราะผ้าอ้อมมีความอ่อนนุ่มระดับพรีเมี่ยม ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Genki เป็นที่ทราบกันดีว่า ชาวญี่ปุ่นค่อนข้างพิถีพิถันกับทุกผลิตภัณฑ์ และยิ่งกับลูกน้อยแล้วล่ะก็ แม่แม่ต้องเลือกเก็งกิแน่นอน เพราะด้วย 7 คุณสมบัตินี้

สรุป 7 คุณสมบัติพิเศษของผ้าอ้อม Genki ที่คุณแม่ชาวญี่ปุ่นไว้วางใจ และเลือกใช้

  • Cushion Touch เนื้อผ้าหายใจได้ นุ่ม โปร่ง จนอากาศผ่านได้ทุกอณูของเส้นด้าย ดูแลผิวที่บอบบางของลูกน้อยไม่ให้เกิดการระคายเคือง และมีผิวสัมผัสที่อ่อนโยนต่อผิวของลูกน้อย
  •  Breathability ระบายอากาศดีเยี่ยมถึง 3 เท่า เพราะมีรูระบายอากาศ 360 องศา ช่วยให้ก้นของลูกน้อยไม่อับชื้น
  • Ultra Absorbent ซึมซับน้ำได้อย่างรวดเร็ว และเก็บกักน้ำได้ปริมาณมากถึง 8 แก้ว
  • บางกระชับ ไม่เทอะทะ ให้ลูกน้อยเคลื่นไหวได้อย่างอิสระ
  • ป้องกันการรั่วไหล ด้วยขอบขา 2 ชั้น และแนวร่องคู่นูนสูง Double – slit ช่วยซึมซับได้อย่างรวดเร็ว
  • มีแถบวัดความเปียกชื้น ช่วยเตือนคุณแม่เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกน้อย
  • ลดอาการผิวอับชื้น หรือผื่นคัน เพราะมีผิวหน้านูนสูง (มีเฉพาะเเบบเทป) ทำให้ผิวลูกน้อยไม่สัมผัสกับผิวของผ้าอ้อม

 

ผ้าอ้อมสำเร็จรูป Genki มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และหลายขนาดด้วยกัน นั่นก็คือ

  • Genki Tape (สำหรับทารกแรกเกิด – 6 เดือน)

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบเทป ที่มีเนื้อสัมผัสอ่อนโยนต่อผิวของลูกน้อยแรกเกิด สามารถระบายความอับชื้นได้ดี และที่สำคัญ คือ มีเมจิกเทปที่สุดจะนุ่ม สามารถแแกะออก เื่อปรับระดับ และปรับเปลี่ยนได้หลายครั้ง มีทั้งหมด 2 ขนาด นั่นก็คือ

  1. Newborn  :  สำหรับเด็กแรกเกิด – 5 กิโลกรัม
  2. Size S : สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 4-8 กิโลกรัม
  • Genki Pants (สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป)

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกง มาพร้อมกับความสะดวกสบายในการสวมใส่ แม้ว่าคุณจะเป็นคุณแม่มือใหม่ก็สามารถถอดเปลี่ยนผ้าอ้อมได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ ลูกยังสวมใส่ผ้าอ้อมได้แบบกระชับพอดีตัว เเม้ว่าเจ้าตัวเล็กจะซนแค่ไหน ก็มั่นใจได้ว่าปัสสาวะ หรืออุจจาระจะไม่ไหลซึมเปื้อนออกมาอย่างแน่นอน

นั่นเพราะว่า Genki มีขอบยางยืดรอบตัว และรอบขา พร้อมให้ลูกเคลื่อนไหวอย่างอิสระได้ทุกท่วงท่า หายห่วงเรื่องการรั่วซึม เพราะมีระบบป้องกันทุกทางแล้วนั่นเองค่ะ

สำหรับ Genki Pants แบบกางเกง มีทั้งหมด 4 ขนาด นั่นก็คือ

  1. Size M :  สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 7-10 กิโลกรัม
  2. Size L :  สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 9-14 กิโลกรัม
  3. Size XL :  สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 12-17 กิโลกรัม
  4. Size XXL :  สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 13-25 กิโลกรัม

หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนสนใจอยากซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูป Genki ให้เจ้าตัวเล็กในบ้านสวมใส่แล้วล่ะก็ สามารถสั่งซื้อได้ที่ :

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save