ลูกคือดวงใจ... 5 สิ่งที่พ่อแม่ต้อง ‘ใส่ใจ’ ในการเลือกโรงพยาบาลเด็ก

: 31 พฤษภาคม 2563

โรงพยาบาลคือสถานที่สำคัญที่เด็กๆ ต้องแวะเวียนมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือการฉีดวัคซีน ยิ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้หากต้องพาลูกมาโรงพยาบาล พ่อแม่อย่างเราก็ยิ่งเป็นกังวลว่าลูกจะปลอดภัยไหม ดังนั้นเราจึงต้องหาโรงพยาบาลที่ดี และใส่ใจในการดูแลรักษาต่างๆ วันนี้ Parents One เลยมี 5 สิ่งที่พ่อแม่ต้องใส่ใจในการเลือกโรงพยาบาลเด็กมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ

1. แยกโซนเด็กดีและเด็กป่วยอย่างชัดเจน

อย่างแรกก็คือ ความใส่ใจที่จะมีการแยกโซนเด็กดีและเด็กป่วยออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ เพราะโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่เด็กๆ อาจได้รับเชื้อเพิ่มเติมเข้าไปได้ ถ้าลูกเราแค่ไปรับวัคซีน แต่ต้องปะปนกับเด็กที่มาหาหมอเพราะไม่สบายก็คงเป็นเรื่องเสี่ยงน่าดู

จึงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถ้าโรงพยาบาลเด็กนั้นมีโซนแยกเด็กที่ป่วยออกมา โดยแบ่งพื้นออกเป็น 2 โซนอย่างชัดเจน แยกกันตั้งแต่ทางเข้า คือ โซนที่เรียกว่า Well baby clinic คลีนิกเด็กดีปลอดเชื้อ สำหรับเด็กๆ ที่มาหาคุณหมอเพราะจะฉีดวัคซีน หรือมาพบในเรื่องของพัฒนาการเด็ก กับโซนที่เป็นเด็กป่วย มาหาคุณหมอเพราะมีอาการป่วยเกี่ยวกับเรื่องระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ

ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ถ้าเราพาลูกมาฉีดวัคซีน พื้นที่ฉีดวัคซีนจะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย อีกทั้งยังทำให้คุณหมอและคุณพยาบาลสามารถดูแลเด็กได้อย่างทั่วถึง และยังทำให้ควบคุมในเรื่องสุขภาพได้ง่ายขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของจุดคัดกรองก่อนเข้าโรงพยาบาล และก่อนเข้าโซนต่างๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกโรงพยาบาลที่ใส่ใจในสุขภาพของเด็กๆ ตั้งแต่ก้าวขาเข้าโรงพยาบาลมาเลยค่ะ

2. มีแผนกครบถ้วน และแพทย์เฉพาะทาง

เรื่องถัดมา คือ ต้องดูว่ามีแผนกครบถ้วน และแพทย์เฉพาะทางหรือไม่ เพราะการที่โรงพยาบาลเด็กมีแผนกที่ครบครัน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโรงพยาบาลนะคะ เพราะแต่ละโรคก็ต้องการความเฉพาะด้านในการรักษา เพื่อจะได้วินิจฉัยได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้การมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ก็จะทำให้เด็กๆ ได้รับการรักษาที่ครบถ้วน ถูกต้องและมีความปลอดภัย เช่น แผนกทันตกรรมเด็ก แผนกตา แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ แผนกจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น รวมไปถึงแผนกกุมารเวชที่มีการแตกย่อยในแต่ละสาขาอย่างเฉพาะด้าน และหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น ที่โรงพยาบาลยังต้องมีแผนก ER และ ICU สำหรับเด็กป่วยวิกฤติด้วย

ดังนั้นการเลือกโรงพยาบาลที่ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยที่เด็กจะได้รับการรักษาที่ครบถ้วนและถูกต้อง จึงเป็นสิ่งหลักๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูค่ะ

3. บรรยากาศที่เข้าใจทั้งเด็กและพ่อแม่

เรื่องที่ 3 ก็คือ บรรยากาศที่เข้าใจทั้งเด็กและพ่อแม่ คุณพ่อคุณแม่เคยเจอไหมคะ เวลาที่เราบอกลูกว่าจะพามาโรงพยาบาล เขาก็จะงอแง ไม่อยากมา เพราะกลัวคุณหมอหรือไม่ชอบบรรยากาศของโรงพยาบาล ซึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูก่อนเลือกโรงพยาบาลเด็กของลูก คือ บรรยากาศในโรงพยาบาลนั่นเองค่ะ

ซึ่งการเลือกโรงพยาบาลที่มีแนวคิดที่เอาใจเด็กเป็นพิเศษ ด้วยการออกแบบและตกแต่งภายในที่น่ารัก ก็จะทำให้เด็กๆ รู้สึกสบายใจ ไม่เกร็งและหวาดกลัวเมื่อมาโรงพยาบาล นอกจากนี้พื้นที่นั่งรอยังต้องกว้างขวาง เหมาะที่จะรองรับคนในครอบครัวที่ติดตามมาด้วย เพราะคนที่มาโรงพยาบาลไม่ใช่แค่เด็ก แต่พ่อแม่ผู้ปกครองก็มักจะยกกันมาทั้งครอบครัวเวลาที่ลูกป่วย โดยการสร้างบรรยากาศให้คนในครอบครัวรู้สึกสบายใจ ความรู้สึกนี้ก็จะส่งผลไปยังเด็กด้วยเช่นกันค่ะ

นอกจากนี้เวลาไปโรงพยาบาล เด็กๆ ก็มักจะมองหาของเล่นหรือเครื่องเล่นต่างๆ ที่อยู่ในโรงพยาบาล แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องอย่าลืมนะคะ ว่าของเล่นก็เป็นแหล่งรวมเชื้อโรคชั้นดีเลย ดังนั้นโรงพยาบาลไม่มีเครื่องเล่นเหล่านี้ก็ถือเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่า โรงพยาบาลนั้นได้เพิ่มความใส่ใจในส่วนนี้ คือ มองข้ามในเรื่องของความสนุก แต่เห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยในด้านสุขภาพ เพื่อป้องกันการติดเชื้อนั่นเองค่ะ

4. มีคุณหมอประจำ ดูแลตั้งแต่เกิดจนโต

เรื่องที่ 4 คือ ต้องมีคุณหมอประจำที่ดูแลตั้งแต่เกิดจนโต เพราะ ตั้งแต่ที่ลูกออกมาลืมตาดูโลก เขาก็วนเวียนเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว อย่างตอนเป็นทารก ก็ต้องตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน มาหาหมอด้วยความกังวลเล็กๆ น้อยๆ ของเรา พอลูกโตขึ้นมาหน่อย เริ่มเข้าโรงเรียน ก็ไม่สบายบ่อยขึ้น เดี๋ยวติดหวัดจากเพื่อน หรือโรคภัยประจำฤดูกาล ซึ่งยังทำให้เขาต้องมาพบคุณหมอเป็นประจำ

ซึ่งการที่ลูกมีคุณหมอประจำตัวที่ดูแลกันมาตั้งแต่ยังเป็นทารก ก็จะทำให้สามารถติดตามพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้อย่างต่อเนื่อง และลูกก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับคุณหมอมากกว่าการเปลี่ยนคุณหมอไปเรื่อยๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกโรงพยาบาลเด็กที่ใส่ใจในเรื่องของการ Follow up เรื่องต่างๆ ของลูก และสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพของลูกได้ตลอด ถ้าเกิดว่ามีช่องทางการติดต่อผ่านทางออนไลน์ได้เช่น LINE Official หรือ Facebook Fanpage ก็จะเยี่ยมมากๆ เลยค่ะ

5. การบริการที่ใส่ใจทุกรายละเอียด

และอย่างสุดท้าย คือ การบริการที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เพราะจริงๆ แล้ว เวลาที่เราพาลูกไปหาหมอ เราไม่ได้พบแต่แค่คุณหมอคนเดียว แต่ยังต้องเจอตั้งแต่เจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ คุณพยาบาล ที่ใส่ใจและเข้าใจความต้องการของเด็กและพ่อแม่อย่างแท้จริงเหมือนคนในครอบครัว เพราะการเลือกโรงพยาบาลที่ทำให้ลูกรู้สึกสบายใจ และปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยคนสำคัญที่สุดที่จะสร้างบรรยากาศนี้ในโรงพยาบาลให้เกิดขึ้นได้ ก็คือบุคลากรทุกคนนั่นเองค่ะ

โรงพยาบาลสินแพทย์ ‘เบื้องหลังทุกการรักษา คือความใส่ใจ’

เมื่อทุกอย่างเกิดจากความใส่ใจ แน่นอนว่าลูกก็จะได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด ไม่ใช่แค่จากตัวคุณหมอเอง แต่รวมไปถึงบุคลากรทุกคนของโรงพยาบาล ที่สำคัญคือพ่อแม่อย่างเราก็ได้รับความใส่ใจจากทางโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน เหมือนที่โรงพยาบาลสินแพทย์ ที่ “เบื้องหลังทุกการรักษา คือความใส่ใจ” ตอบโจทย์ทุกสิ่งที่พ่อแม่ต้องดูก่อนเลือกโรงพยาบาลเด็ก

โดยที่โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์มีแผนกเฉพาะทาง มากกว่า 20 แผนก เราจึงมั่นใจได้ว่าลูกจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องเฉพาะทาง นอกจากนี้หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น ที่โรงพยาบาลก็ยังมีแผนก ER และ ICU สำหรับเด็กป่วยวิกฤติรองรับอีกด้วย

ที่มากไปกว่านั้น คือโรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ โดดเด่นมากในเรื่องของความใส่ใจ อย่างในช่วงสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ค่ะ เพราะทางโรงพยาบาลมีการแยกโซนอย่างชัดเจนระหว่างเด็กปกติและเด็กป่วย รวมไปถึงการแยกตึกออกมาอีกตึก นั่นหมายความว่า โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ มี 2 ตึก 3 ทางเข้า โดยที่แต่ละตึกก็จะมีการคัดกรองก่อนเข้าโรงพยาบาล หากมาฉีดวัคซีน ทางโรงพยาบาลก็จะมีรถพาไปยังส่วนที่เรียกว่า Well baby clinic คลีนิกเด็กดีปลอดเชื้อค่ะ

ซึ่ง Well baby clinic คลีนิกเด็กดีปลอดเชื้อ สำหรับวัคซีนและพัฒนาการเด็กนี้ เป็นโซนสำหรับเด็กที่มารับการฉีดวัคซีนตามนัด ตรวจด้านพัฒนาการ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคของต่อมไร้ท่อ หนุ่มสาวก่อนวัย แก้ปัญหาส่วนสูง ฯลฯ และถ้าใครที่พาเจ้าตัวเล็กมาหาคุณหมอในแผนกต่างๆ ก็จะต้องมาที่คลีนิกปลอดเชื้อสำหรับผู้ป่วยเด็กที่ไม่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ซึ่งในนั้นก็จะเป็นแผนกเฉพาะทางด้านต่างๆ ในเด็กที่ครบครัน

ในส่วนของความใส่ใจอีกอย่างหนึ่งก็คือบรรยากาศในโรงพยาบาลที่น่ารักและสดใส ทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกหวาดกลัวบรรยากาศเวลาที่มาโรงพยาบาล รวมไปถึงชุดของคุณพยาบาลที่น่ารักมากๆ นอกจากนี้คุณหมอก็ยังใจดีและเข้าใจเด็กสุดๆ มีการแจกสติ๊กเกอร์น่ารักๆ ให้เด็กๆ เป็นรางวัลหลังตรวจเสร็จด้วยนะคะ เรียกว่าใส่ใจทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างแท้จริงเลย

ดังนั้นพ่อแม่จึงวางใจในความใส่ใจพิเศษของโรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ได้เลยค่ะ เพราะ “เบื้องหลังทุกการรักษา คือความใส่ใจ”