fbpx

แม่รู้ไหม? 7 สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศอื่นๆ! เด็กๆ ควรได้รับอะไรบ้าง?

Writer : Mneeose
: 6 กันยายน 2565

สวัสดิการสำหรับเด็กเล็ก หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าในแต่ละประเทศ ก็มีสวัสดิการให้เด็กเล็กสุดว้าววว! ที่แตกต่างกันไป รวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

วันนี้ ParentsOne จะพามาทำความรู้จักกับสวัสดิการสำหรับเด็กเล็กของประเทศต่างๆ กันค่า จะมีประเทศไหนที่ให้สวัสดิการเด็กๆ ที่ดีแก่คุณพ่อคุณแม่บ้าง เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ไปเจาะลึกกันเลย

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศสวีเดน

ในส่วนของประเทศสวีเดน สวัสดิการที่เด็กๆ ได้รับจะค่อนข้างครอบคลุมในหลายๆ ด้านของชีวิต ไปจนกระทั่งเด็กโตถึงอายุ 21 ปี เลยนะ โดยเด็กและเยาวชนที่อายุไม่เกิน 21 ปี จะได้รับการนัดหมายให้ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ทันตกรรม และตรวจวัดสายตา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยค่ะ 

นอกจากนี้ รัฐบาลสวีเดนยังให้คุณพ่อคุณแม่สามารถลาหยุด เพื่อเลี้ยงลูกได้ถึง 480 วัน ต่อลูก 1 คน โดยสามารถใช้สิทธินี้จนกระทั่งลูกอายุ 8 ขวบ

และยังมีสิทธิได้เงินอุดหนุน เมื่อลูกป่วยด้วยนะ โดยจะจ่ายเงินให้พ่อแม่เด็กลาอยู่บ้าน เพื่อดูแลลูกจนหายดี อีกทั้งพ่อแม่ยังได้รับในส่วนของเงินช่วยเหลือสำหรับการเลี้ยงดูจนลูกอายุครบ 16 ปี กันเลยทีเดียว และหากครอบครัวไหนมีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไปก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอีกค่า บอกเลยว่ามีลูกประเทศนี้ คือคุ้มไม่ไหว

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศเดนมาร์ก

ในเดนมาร์ก สวัสดิการสำหรับเด็กเล็กนั้นจะครอบคลุมในหลายๆ ด้าน โดยในส่วนของเงินเบี้ยเลี้ยงนั้น แค่เพียงเด็กและพ่อแม่อาศัยอยู่ในเดนมาร์กก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงโดยอัตโนมัติแล้ว ซึ่งจำนวนเงินนี้ จะขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละครอบครัวและอายุของเด็ก 

นอกจากนี้ หากพ่อแม่บ้านไหนที่ไม่มีเวลาว่างสำหรับการเลี้ยงดูลูกขนาดนั้น ทางรัฐบาลท้องถิ่นยังจัดสรรสวัสดิการในการรับดูแลเด็กที่มีอายุ 26 สัปดาห์ขึ้นไป สำหรับพ่อแม่ที่เป็นพลเมืองเดนมาร์ก หรือสหภาพยุโรปอย่างถูกกฎหมายได้ในวันทำงาน 

และหากรัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถจัดการได้ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเรียกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กเพิ่มเติมได้ 

และยังมีเงินอุดหนุนสำหรับด้านการเงินของครอบครัวที่มีลูกอีกด้วย หากเกิดการลาเพื่อไปเลี้ยงดูบุตร (ตามเวลาที่กำหนด) จะได้รับค่าเลี้ยงดูไม่เกิน 4,355 DKK หรือประมาณ 22,000 บาทต่อสัปดาห์กันเลยทีเดียวค่ะ

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สวัสดิการของสวิตเซอร์แลนด์ จะถูกจัดสรรโดยรัฐบาลท้องถิ่น โดยสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีการลางานเพื่อไปเลี้ยงลูกนั้น จะมีเบี้ยเลี้ยงระหว่างการขาดงาน มากถึง 80% ของรายได้ปกติกันเลยทีเดียว แต่ก็จะไม่เกิน 196 CHF หรือประมาณ 6,900 บาทต่อวัน โดยจะให้เป็นเวลา 14 สัปดาห์นับตั้งแต่ให้กำเนิดบุตร

ยังไม่หมดแค่นั้น! เพราะยังมีสวัสดิการเบี้ยเลี้ยงแก่ครอบครัว โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เบี้ยเลี้ยงสำหรับครอบครัวในภาคการเกษตร และเบี้ยเลี้ยงสำหรับครอบครัวภาคอื่นๆ 

ซึ่งประเภทแรกจะเป็นเบี้ยเลี้ยงสำหรับการเลี้ยงดูเด็ก (child allowance) โดยจะให้แก่พ่อแม่ และให้จนกว่าเด็กจะสามารถหางานทำและมีรายได้เป็นของตนเอง แต่จะไม่เกินอายุ 20 ปี 

และอีกประเภท คือ Vacational training all owance หรือก็คือ เบี้ยเลี้ยงสำหรับเด็กที่กำลังฝึกงาน จนกว่าจะอายุ 25 ปี ซึ่งสำหรับครอบครัวการเกษตรก็จะได้รับอัตราเบี้ยเลี้ยงที่มีความแตกต่างกับครอบครัวในภาคส่วนอื่นๆ

สวัสดิการของสวิตเซอร์แลนด์นั้น จะมีความครอบคลุมไปจนกระทั่งเด็กโต โดยหากเทียบกับประเทศอื่นๆ จะเห็นได้ชัดว่าแม้เด็กๆ จะโตจนฝึกงานแล้ว แต่ระหว่างนั้นก็จะมีเบี้ยเลี้ยงให้อีกด้วย

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศเกาหลีใต้

สวัสดิการของเกาหลีใต้นั้น ทางรัฐบาลจะมีการสนับสนุนตั้งแต่ 0 ขวบกันเลยทีเดียว โดยเด็กเล็กวัย 0-5 ขวบ จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยไม่มีการคำนึงถึงรายได้ครอบครัว! รวมไปถึงเด็กที่มีภาวะทุพพลภาพ ในวัยก่อนเข้าเรียนที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของเงินอุดหนุนการศึกษา โดยจะมีให้ตั้งแต่อายุ 3-5 ขวบ และหากครอบครัวไหน ที่สะดวกจะเลี้ยงเด็กๆ เองที่บ้าน ไม่ได้ส่งไปสถานรับเลี้ยง ก็จะมีในส่วนของเงินเบี้ยเลี้ยงให้ด้วย

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศสิงคโปร์

ในสิงคโปร์จะมีสวัสดิการรองรับตั้งแต่ที่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ และเลี้ยงดูบุตร ในสัปดาห์ที่ 9-12 และสำหรับบุตรคนที่ 2-4 ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเช่นกัน แต่จะเป็นในจำนวนที่น้อยกว่าบุตรคนแรก ลดหลั่นกันลงไป 

และหากครอบครัวใดต้องการฝากลูกไว้กับสถานรับเลี้ยง ทางรัฐบาลสิงคโปร์เขาก็มีเงินสำหรับอุดหนุนค่าธรรมเนียม ในส่วนนี้ให้อีกด้วย โดยให้แก่เด็กอายุตั้งแต่ 2-7 เดือนกันเลยทีเดียว 

รวมไปถึงเงินอุดหนุนค่าเล่าเรียนในโรงเรียนรัฐ เพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่ในอีกทางด้วยเช่นกัน 

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศเยอรมนี

เงินอุดหนุนในด้านสวัสดิการแก่เด็กนั้น ในตอนแรกเยอรมันยังไม่ได้มีมาตรการที่เข้มแข็งมากขนาดนั้น จนเมื่อในปี 2012 ได้เกิดเงินอุดหนุนเด็กแบบถ้วนหน้าขึ้น ทำให้ครอบครัวใดที่มีบุตรจะได้รับเงินอุดหนุนกันหมด โดยไม่จำกัดรายได้ของครอบครัว คือไม่ว่าครอบครัวไหนก็ได้รับเงินอุดหนุน หรือจะสามารถเลือกไม่รับเงินได้ และสามารถเปลี่ยนเป็นค่าลดหย่อนภาษีสำหรับเด็กแทนได้เช่นกัน

โดยเงินอุดหนุนก้อนนี้จะจ่ายจนเด็กอายุครบ 18 ปี หรืออาจจะถึง 25 ปี ถ้าหากเด็กยังคงศึกษาอยู่ นอกจากนี้ สิทธิที่ว่านี้ยังครอบคลุมถึงที่ไม่ได้มีสัญชาติเยอรมันที่อาศัยอยู่ในเยอรมัน ผู้ลี้ภัย รวมถึงเด็กเยอรมันที่อยู่ต่างประเทศอีกด้วย

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศไทย

ในส่วนของประเทศไทย สวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กนั้นจะจ่ายให้เด็กอายุตั้งแต่ 0-6 ปีขึ้นไป เป็นจำนวนเงิน 600 บาทต่อคนต่อเดือน ให้แก่บุตร 1 คน แต่ไม่เกิน 3 คนต่อครอบครัว และต้องเป็นครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี  

ตอนแรกในปี 2558 ได้เกิดเงินอุดหนุนสวัสดิการสำหรับเด็กแรกเกิด แต่จะให้เฉพาะในเด็กครัวเรือนยากจน หรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจนเท่านั้น โดยจะเป็นการจ่ายแบบรายเดือน ภายใต้เงื่อนไข คือ รายได้ของผู้เลี้ยงดูต้องไม่เกิน 32,000 บาท ต่อคนต่อปี แต่ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนเงื่อนไข จากเดิมที่จำกัดอายุเด็กจากไม่เกิน 3 ปี เป็น 6 ปี และขยายฐานรายได้เป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปี

ทำให้ปัจจุบัน ในประเทศไทยยังไม่มีการจ่ายสวัสดิการสำหรับเด็กเล็กแบบถ้วนหน้านั่นเอง นอกจากนี้ ในเด็กที่อายุระหว่าง 7-18 ปี จะมีสวัสดิการเรียนฟรีถ้วนหน้า ในระยะเวลา 15 ปีในโรงเรียนรัฐอีกด้วย

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูล

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save