fbpx

สัญญาณไหนที่กำลังบอกว่า เราเอาใจลูกเกินไปในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

Writer : OttChan
: 20 ตุลาคม 2564

คงเป็นปกติที่พอเราเลี้ยงลูกมานาน มห้ทั้งความรักและความเอาใจใส่ อะไรที่เป็นเรื่องของลูก เราก็มักจะปกป้องไปเสียหมด แต่ทว่าในบางครั้งเราก็เผลอตามใจหรือรีบโอ๋เกินไปจนเราอาจทำสิ่งที่ทำร้ายจิตใจผู้อื่นหรือลืมนึกถึงเหตุผลไปบ้างในการสอนในสิ่งที่ถูกต้อง

ดังนั้นเราจะมาลองทดลองกันดูนะคะว่าเรามีสัญญาณที่จะกลายเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เอาใจลูกเกินจำเป็นหรือเปล่าซึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าเกินไปนั้นมีดังนี้

ตีโต๊ะ ตีพื้นเวลาลูกหกล้มหรือกระแทกโดน

การทำแบบนี้จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตนเองไม่เคยผิดเพราะพ่อแม่มักจะโทษสิ่งอื่นๆ แทนการอธิบายกับลูกว่าต้อวิ่งหรือเดินด้วยความระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอ และแน่นอนว่าการพูดนั้นก็ต้องการการปลอบดีๆ เช่นกัน ไม่ใช่ดุด่าว่าเซ่อซ่าหรือซุ่มซ่าม ซึ่งหากเกิดเหตุการณืขึ้นสิ่งที่ควรทำคือ

  1. เข้าไปถามไถ่ว่าเจ็บมากหรือเปล่า
  2. หากมีบาดแผลให้ทำแผลให้สะอาดพร้อมปลอบโยน
  3. แนะนำให้ระวังตัวมากขึ้น หรือในกรณีสิ่งของมันทำให้สุ่มเสี่ยงจริงๆ อาจมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือแก้ไขให้พื้นที่ตรงนั้นปลอดภัยยิ่งขึ้น

พูดติดปากว่า ” เขายังเด็ก ” “อย่าถือสาเด็กเลย ” “เป็นผู้ใหญ่ใจดีกับเด็กหน่อยสิ ” เพื่อปกป้องลูกเวลาลูกทำผิดโดยไม่สนใจเหตุผลของผู้อื่น

ในบางเวลาที่ออกไปนอกบ้าน หรืออยู่ในที่สาธารณะและลูกของเราไปทำอะไรที่อยู่นอกสายตาเข้า อาทิ หยิบของคนอื่นมาอย่างไม่ตั้งใจ, หัวเราะหรือกรี๊ดเสียงดังรึแม้แต่การพบเจอเด็กคนอื่นและเข้าไปหยอกแกล้งจนอีกฝ่ายร้องไห้ และเรามักจะใช้ข้ออ้างว่าเป็นดังพูดที่ได้ยกตัวอย่างไปในการปกป้องลูกของเรา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำมากๆ เพราะแบบนั้นลูกจะไม่เกิดการเรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ไม่ควร และยังทำให้คนรอบข้างตำหนิลูกเราหรือเราได้ว่าไม่เข้าใจการอยู่ร่วมกัยผู้อื่น ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ

  1. ถามที่มาที่ไปของสาเหตุในประเด็นนั้น
  2. หากเห็นแล้วว่าลูกของเราเป็นฝ่ายเริ่ม ต้องขอโทษเสมอ ไม่หาข้ออ้างบ่ายเบี่ยง
  3. ไม่หักหน้าดุลูกต่อหน้าคนอื่นแต่เมื่ออยุ่ในพื้นที่ส่วนตัว ต้องพูดคุยและปรับความเข้าใจกับลูกให้เข้าใจถึงสิ่งที่ผิดว่าต้องปรับปรุง

ด้อยค่าเด็กคนอื่น เพื่อชมลูกตนเอง

แม้เราจะเห้นอยู่บ่อยครั้งที่พ่อแม่มักบอกลูกตนเองแย่กว่าลูกของคนอื่น แต่ในแบบตรงข้ามเองก็มีเช่นกันที่ข่มหรือวิจารณ์เรื่องรูปร่าง และหน้าตาของบุคคลอื่นเพื่ออวยหรือชมลูกตนเอง ซึ่งไม่ว่าแบบไหนก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทั้งสิ้น การเชยชมควรก่อให้เกิดผลบวกต่อทั้งตัวลูกของเราเองและผู้อื่น ไม่มีใครสมควรถูกโดนด้อยค่าลงเพื่อยกยอคนอื่น ซึ่งประโยคตัวอย่างที่ไม่ควรพูดคือ ” โถ ลูกคุณทำได้แค่นี้เหรอ แต่ลูกฉันน่ะทำได้ดีกว่านั้นอีก ” ” ไม่เหมือนลูกของผมเลย ทำนี่ได้ดีกว่ามาก ” ” รู้มั้ยลูกของฉันน่ะ สอบได้ A ตลอดเลยนะ ลูกเธอทำได้รึเปล่า ”

เล่นใหญ่ไม่ฟังคนอื่น พอเห็นลูกตัวเองร้องไห้

ลูกของใคร ใครก็รักเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเมื่อเราเห็นว่าลูกของเรามีน้ำตา เราก็จะโทษอีกฝ่ายทันทีว่าเป็นผู้กระทำ ต้องมีการรับผิดชอบรึเอาเรื่องให้ถึงที่สุดซึ่งในความจริงเมื่อเหตุการณ์การขึ้น คุณพ่อคุณแม่ต้องมีสติก่อนอันดับแรกเพื่อทำในสิ่งที่ควรคือ

  1. เข้าไปดูสถานการณ์ให้เร็วที่สุดพร้อมลำดับเหตุการณ์
  2. สอบถามเรื่องราวจากทุกฝ่ายทั้งลูกของเรา และฝ่ายตรงข้ามว่าเกิดอะไรขึ้น
  3. ใช้ความเข้าใจอย่างยุติธรรมที่จะเข้าใจทั้งลูกของตน และผู้อื่น
  4. พยายามจบเรื่องให้ได้ด้วยความสันติที่สุดแต่ในกรณีที่ฝั่งตรงข้ามไม่ยินยอม หรือเรื่องราวมันรุนแรงเกินไป ก็อาจต้องใช้วิธีที่หนักขึ้นไปตามเหตุผลที่เหมาะสม

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กำลังใจที่ไม่เคยสังเกต
ชีวิตครอบครัว
ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
4 พฤศจิกายน 2563
เพราะแม่จะเป็นใครก็ได้
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
Live Action เรื่องล่าสุดจาก Disney ที่หลายๆคนรอคอยไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เคยรับชมการ์ตูนในวัยหวานหรือแม้แต่คุณน้องคุณหนูที่หลงรักโลกใต้ท้องทะเลก็ตาม ใช่แล้วล่ะค่ะ เรากำลังพูดถึง “The Little Mermaid” หรือ “เงือกน้อยผจญภัย” ที่หยิบยกกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชันคนแสดงในปีนี้ โดยมีนักร้องสาว “ฮัลลี เบลลีย์” รับบทนางเงือกน้อย “แอเรียล” พร้อมเป็นตัวแทนส่งเสียงบอกกับเด็กหญิงชายทั่วโลกว่า “ใครก็เป็นเจ้าหญิงได้”  หยิบกลับมาทำใหม่ ตีความใหม่ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อย ข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือไม่ ลองไปดูกันเลย! เรื่องราวของนางเงือกน้อยแสนซน “แอเรียล” ธิดาคนสุดท้องของราชาไตรตันเจ้าแห่งโลกใต้สมุทรเธอมีความหลงใหลในโลกมนุษย์และใฝ่ฝันว่าอยากจะเดินเหินอย่างผู้คนบนดินแม้พ่อจะพยายามกีดกันเธอเท่าไรก็ตาม วันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบกับ “เจ้าชายอีริค” และตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง เธอจึงได้ทำข้อตกลงกับแม่มดทะเล “เออซูลาร์” เพื่อแลกเสียงอันไพเราะกับขาอย่างมนุษย์โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชายไม่เช่นนั้นเธอจะกลับมาเป็นเงือกและกลายเป็นทาสของเออซูลาร์ตลอดไปการออกเดินทางทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่ฝันจึงได้เริ่มต้นขึ้น เติมเต็มหัวใจที่ยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำของวัยเยาว์ ส่งต่อความกล้าหาญให้หนูน้อยเชื่อมั่นในตัวเอง และสิ่งที่ฝัน จูงมือลูกรักไปดู “The Little Mermaid” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์! ชมตัวอย่าง : https://www.youtube.com/watch?v=AS0vop2rgFo การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป แม้จะมีเค้าโครงเรื่องหลักๆ มาจากการ์ตูนเงือกน้อยแอเรียลแบบต้นฉบับทั้งหมด แต่พอมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ทวีคูณความจริงจังให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมพื้นเพตัวละคร เสริมเนื้อเรื่องเพิ่มประเด็นให้มีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม จึงบอกได้ว่าเป็นเวอร์ชันที่ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กๆ เท่าไร ถึงอย่างนั้นเด็กๆก็ยังสามารถสนุกสนานกับกลิ่นอายของเทพนิยายชวนฝันเพลิดเพลินกับภาพบรรยากาศโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามสุดแสนจะแฟนตาซี รับประกันว่ากระตุ้นจินตนาการเรียกความตื่นตาตื่นใจจากเจ้าตัวน้อยแน่นอน เรื่องที่ต้องระวัง มีความรุนแรงและฉากน่ากลัว อย่างที่บอกไปว่า Live Action เวอร์ชันนี้ มีความดาร์ก ความสมจริงเพิ่มเข้ามา เรื่องความรุนแรงต่างๆ ฉากต่อสู้ ฉากปะทะ หรือหน้าตาของเหล่าสัตว์ร้ายใต้ทะเล อาจทำให้เด็กๆ ไม่สบายใจ หรือตื่นกลัวได้ แถมยังมีจังหวะตกใจ (Jump…
25 พฤษภาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save