ในสายตาของลูกๆ บางครั้งคุณพ่อคุณแม่และเหล่าญาติๆ ทั้งหลายก็เป็นฮีโร่ที่ลูกไว้ใจ แต่ถ้าหากเหล่าฮีโร่มาดูแลลูกมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียตามมาด้วย ซึ่งคุณหมอโอ๋ จากเพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน ได้เคนเขียนไว้ในกนังสือ “เลี้ยงบวกลูกบวก” ไว้ด้วย
และวันนี้เรามาสำรวจกันดีกว่าว่า 9 ความช่วยเหลือจากฮีโร่อย่างเราๆ มีแบบไหนบ้างที่อาจจะทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว
ปกป้องลูกแบบผิดๆ
เวลาที่ลูกหกล้มลงกับพื้น หัวไปชนกับโต๊ะด้วยตัวเองแล้วคุณพ่อคุณแม่มาตีโต๊ะตีพื้น หรือดุคุณหมอว่า “เดี๋ยวตีคุณหมอเลย มาทำให้ลูกร้องไห้ได้ยังไง” หรือจะอะไรก็แล้วแต่ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำมากๆ เพราะเป็นการสร้างนิสัยให้ลูก “เจ็บไม่ได้” “ชอบโทษคนอื่น” โดยไม่รู้ตัว
ช่วยลูกทำนู่นนี่นั่นจนเกินไป
การช่วยลูกทำอะไรบางอย่างถือเป็นสิ่งที่ดี แต่การช่วยเหลือที่เราทำให้ลูกนั้นมากเดินไปรึเปล่า? เช่น ลูกอาจจะอยากช่วยยกของก็รีบห้ามลูกไม่ให้ยกแล้วตัวเองก็ยกของขึ้นไปเอง ซึ่งอาจจะส่งผลให้เด็กๆ อาจจะโตขึ้นแล้วทำอะไรไม่ค่อยเป็น หรือส่งผลให้ลูกๆ รู้สึกไม่ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำก็เป็นได้
โอ๋ลูกจนเกินไป
บางครั้งเวลาที่กำลังดุหรือสอนลูกๆ อยู่ อาจจะมีฮีโร่บางคนอย่างเหล่าญาติๆ เข้ามาบอกว่า “ไม่ต้องไปฟังพ่อเค้าลูก.. มาอยู่กับป้าดีกว่า” ซึ่งการกระทำแบบนี้ อาจจะเป็นการแทรกแซงการจัดการอารมณ์หรือการสอนระเบียบวินัยของคนที่เลี้ยงดูอีกคนนึงเป็นได้ เพราะถึงแม้ว่าการเข้าไปโอ๋เด็กแล้วปกป้องแบบผิดๆ ก็เหมือนกับเป็นการฆ่าเค้าช้าๆ ในอนาคต
ตามใจลูกมากเกินไป
“แม่ไม่ซื้อให้ใช่มั้ย….เดี๋ยวพ่อซื้อให้เอง” การกระทำของฮีโร่ป๊ะป๋าแบบนี้ ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในอนาคตได้มากๆ เพราะเด็กๆ จะเข้าใจว่าในเมื่อแม่ไม่ให้ ไปขอพ่อยังไงก็ได้ของ ซึ่งเมื่อถึงจุดๆ นึง ที่พ่อไม่สามารถซื้อของให้ได้เหมือนแต่ก่อน เด็กๆ อาจจะแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมาเพราะไม่ได้ของที่ตัวเองอยากได้ จนกลายเป็นเด็กที่เอาแต่ในในอนาคตนั่นเอง…
แก้ปัญหาแทนลูกมากเกินไป
เวลาลูกๆ ไปโรงเรียนและถูกเพื่อนล้อและเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อแม่ สิ่งที่เหล่าฮีโร่ของครอบครัวลูกๆ ควรทำคือการเข้าไปสอนลูกถึงการรับมือปัญหาต่างๆ รวมไปถึงวิธีแก้ปัญหา ไม่ใช่การบอกว่า “เดี๋ยวพ่อแม่ไปจัดการเคลียร์ที่โรงเรียนเอง” ซึ่งถ้าเรื่องไม่ร้ายแรงขนาดนั้นก็ไม่ต้องไปเคลียร์ที่โรงเรียนก็ได้นะ
สปอยล์ลูกเกินไป
เป็นเรื่องปกติที่พ่อแม่อยากให้ลูกตัวเองมองว่าเป็นฮีโร่สุดเก่งและเจ๋งเป้ง! แต่ถ้าเกิดดันพูดกับลูกว่า “เห็นมั้ย…พ่อ/แม่ บอกแล้ว” ก็อาจจะทำให้เด็กๆ รู้สึกไม่ภูมิใจสิ่งที่ตัวเองทำสำเร็จ หรือในกรณีที่แย่คือ ถ้าเกิดลูกทำสิ่งๆ นึงไม่สำเร็จและเราบอกประโยคนั้นไป ก็จะกลายเป็นการซ้ำเติมเด็กๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นระวังให้มากๆ นะ
ลูกตัวเองถูกเสมอ
การปกป้องลูกโดยที่ไม่สนอะไรเลย แม้ว่าเด็กๆ จะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ซึ่งการกระทำแบบนี้จะทำให้ลูกๆ คิดว่าพ่อแม่จะเป็นศูนย์กลางของจักรวาลให้กับลูกๆ ได้ เพราะฉะนั้นควรสอนลูกในจุดนี้ให้มากๆ ให้ลูกได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำถูก หรือ ผิด และเมื่อผิดจริง ควรจะทำอย่างไร เพื่ออนาคตของลูกจ้า
อ้างสิทธิ์ในความเป็นเด็ก
ข้อดีของความเป็นเด็กคือ ผู้ใหญ่มักจะรู้สึกเอ็นดูง่าย เพียงแต่ว่า การที่เป็นเด็กใช่ว่าจะมีสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่นทุกอย่าง เช่น แซงคิวตอนต่อแถวซื้ออาหารแล้วอ้างว่า “ลูกหิวมากๆ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเราควรฝึกให้ลูกรู้จักความอดทน และเป็นสิ่งที่เด็กๆ ควรเรียนรู้เพื่อการเติบโตในอนาคต
ห้ามลูกเยอะเกินไป
ความช่วยเหลืออันสุดท้ายที่เหล่าฮีโร่ทั้งหลายอาจจะคิดว่าเป็นความปลอดภัยสำหรับเด็กๆ การห้ามต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น “ห้ามวิ่งเดี๋ยวล้มนะ” “ห้ามอ่านการ์ตูนเพราะมันไร้สาระ” ห้ามนั่นห้ามนี่ ซึ่งการทำแบบนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กๆ โดยตรงก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงช่วยลูก ใช้ความเข้าใจ และการฝึกแก้ปัญหา ทุกอย่างจะดีเองจ้า 🙂