fbpx

NEWS: เด็กทารกเสียชีวิต เพราะกินกล้วยบดแทนนม

Writer : Lalimay
: 30 มีนาคม 2561

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณแม่ทุกคนค่ะ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย มีเด็กทารกอายุ 10 วัน เสียชีวิตหลังจากที่ยายพยายามให้หลานกินกล้วยบดแทนนมแม่

เรื่องราวนี้เปิดเผยโดย Lia Imelda Siregar คุณแม่ที่ได้คลอดทารกเพศชาย และด้วยความที่เป็นคุณแม่มือใหม่จึงได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่หลายคนถึงวิธีการดูแลลูกน้อย

โดยแม่ของเธอ (ยายของเด็กชาย) แนะนำให้เธอป้อนกล้วยบดให้ลูกในช่วง 6 เดือนแรกคลอด ซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำตามและยืนยันที่จะให้ลูกทานนมแม่ แต่ยายของเด็กกลับดื้อรั้นและไม่ยอม พยายามที่จะให้หลานชายที่เพิ่งคลอดได้เพียง 10 วันกินกล้วยบดแทน

จากการกระทำนั้นส่งผลให้น้ำหนักจากเดิม 1.8 กิโลกรัม ลดลงเหลือเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานลูกก็เริ่มถ่ายอุจจาระมีกลิ่นฉุนและเลือดปน เธอจึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาล ซึ่งในขณะนั้นเด็กมีอาการสำลักและหายใจลำบาก รวมไปถึงมีเลือดออกทางจมูกและปาก โดยหลังจากถึงโรงพยาบาลไม่กี่ชั่วโมงเด็กก็เสียชีวิต

สาเหตุที่เป็นแบบนี้เนื่องจากก่อน 6 เดือนเด็กยังมีกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่แข็งแรงเต็มที่ ระบบการย่อยยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมเข้าไป อาจมีความผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหารเนื่องจากเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันหลวมๆ ทำให้โปรตีนแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านโปรตีนแปลกปลอม แล้วนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ในอนาคต

นอกจากนี้สารอาหารในกล้วยมีอยู่ประมาณ 20 ชนิด ในขณะที่สารอาหารในนมแม่มีมากกว่า 200 ชนิด ดังนั้นจึงเทียบกันไม่ได้เลยในเรื่องของสารอาหาร แน่นอนว่าผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์เพียงแต่ว่าจะต้องเริ่มกินในเวลาที่เหมาะสม คือเมื่อลูกมีอายุ 6 เดือนขึ้นไปแล้วนั่นเอง

เมื่อลูกมีอายุครบ 6 เดือนแล้ว ก็สามารถให้อาหารเสริมอย่างกล้วยบดได้ แต่แนะนำว่าควรเริ่มจากข้าวบดผักไปก่อนจะดีกว่า เพราะถ้าเด็กรู้จักรสหวานก่อนรสจืด อาจทำให้ติดรสชาติหวานของกล้วยจนไม่ยอมกินผักชนิดอื่นได้

อ้างอิงจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save