fbpx

ลองดูไหม? อยากมีลูกชายหรือลูกสาวเราเลือกได้ด้วยวิธีธรรมชาติ

Writer : Lalimay
: 14 กุมภาพันธ์ 2562

ใครว่าเพศของลูกกำหนดไม่ได้? เมื่อสร้างครอบครัวแล้วอยากจะมีเจ้าตัวเล็กเป็นสร้อยทองคล้องใจ คู่สามี-ภรรยาก็คงเคยคุยกันใช่ไหมคะว่าอยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย ซึ่งจริงๆ แล้วเพศของลูกเราอาจจะใช้สูตรกำหนดได้ด้วยนะคะ โดยวิธีเหล่านี้เป็นวิธีธรรมชาติที่อ้างอิงจากวิทยาศาสตร์ล้วนๆ และได้ผลประมาณ 70-80% เลยค่ะ เราไปดูกันดีกว่าว่าจะทำยังไงได้บ้าง (แต่ไม่ว่าลูกจะเป็นเพศไหนยังไงเราก็ยังรักอยู่ดีแหละเนอะ)

อะไรที่เป็นตัวกำหนดเพศลูก ?

สิ่งที่เป็นตัวกำหนดเพศของลูกคือโครโมโซมเพศของ “ผู้ชาย” ค่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่ามนุษย์เพศชายและเพศหญิงมีโครโมโซมเพศที่ต่างกัน โดยผู้หญิงจะมีโครโมโซมเพศเป็น XX ส่วนผู้ชายจะมีโครโมโซมเพศเป็น XY

ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าผู้ชายมีโครโมโซมเพศที่แตกต่างกัน เลยเป็นผลให้ในน้ำอสุจิของผู้ชายมีตัวอสุจิด้วยกัน 2 ชนิด คือทั้งที่เป็นโครโมโซม X ที่ทำให้ได้ลูกสาว และโครโมโซม Y ที่ทำให้ได้ลูกชายนั่นเอง เมื่อมีการปฏิสนธิเกิดขึ้นอสุจิตัวไหนเจาะได้ก่อนก็จะส่งผลให้ลูกที่เกิดมาเป็นเพศนั้น โดยมีอัตรา 50-50 เลยค่ะ

ความแตกต่างระหว่างอสุจิเด็กหญิง (X) และอสุจิเด็กชาย (Y)

เด็กหญิง : อสุจิ X จะตัวใหญ่ เคลื่อนไหวช้า ตายยาก มีความอดทน ทนต่อสภาพความเป็นกรดได้ดี อาจเปรียบได้ว่าเป็นนักว่ายน้ำมาราธอน

เด็กชาย : อสุจิ Y จะตัวเล็ก เบา ผอมเพรียว เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว มีความอดทนน้อย ตายง่าย ชอบสภาพความเป็นด่างมากกว่าความเป็นกรด อาจเปรียบได้ว่าเป็นนักว่ายน้ำความเร็วสูง

สุขภาพของพ่อ

เด็กหญิง : ถ้าพ่อเป็นคนเครียด นอนน้อย ไม่ค่อยออกกำลังกาย สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มาก สุขภาพไม่แข็งแรง จะทำให้การสร้างอสุจิมีน้อยลง และอสุจิ Y ที่อ่อนแอก็จะตายง่าย ทำให้ตัวที่แข็งแรงกว่าอย่างอสุจิ X มีมากกว่า

เด็กชาย : ถ้าพ่อสุขภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ จำนวนอสุจิก็จะมีมากและไม่ลดโอกาสในการลูกชาย สุขภาพดีเมื่อไหร่ อยากได้ลูกชายลูกสาวก็ได้หมดเลยค่ะ

อุณหภูมิที่เด็กหญิงและเด็กชายชอบแตกต่างกัน

เด็กหญิง : อสุจิ X จะอยู่ในอุณหภูมิที่สูงได้มากกว่าอสุจิ Y ถ้าอยากได้ลูกสาวก็ให้อาบน้ำอุ่น หรือแช่น้ำอุ่นนานๆ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้อสุจิ X มีมากกว่า

เด็กชาย : อสุจิ Y ชอบอุณหภูมิที่เย็นสบาย และอัณฑะจะผลิตอสุจิได้เยอะเมื่ออยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิเย็นกว่าร่างกายปกติ ดังนั้นถ้าอากได้ลูกชายก็หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นหรือแช่นน้ำร้อน อย่านั่งบนมอเตอร์ไซค์ที่ตากแดดนาน และอย่าใส่กางเกงในที่รัดจนเกินไป

ความสุขของผู้หญิงก็มีผล

เด็กหญิง : ถ้าอยากได้ลูกสาว เวลาทำการบ้านให้รีบทำ รีบจบอย่าให้ผู้หญิงถึงฝั่งฝันก่อน เพราะปกติในช่องคลอดจะมีสภาพความเป็นกรดอ่อนๆ ที่เอื้อให้อสุจิ X ว่ายน้ำได้เร็วกว่า การที่ผู้หญิงถึงฝั่งฝันทีหลัง จะได้ไม่มีเมือกที่เป็นด่างมาเจือจางสภาพกรดนั่นเอง

เด็กชาย : ถ้าอยากได้ลูกชายก็ควรทำให้ผู้หญิงถึงฝั่งฝันก่อนหรือพร้อมๆกัน เพื่อที่ผู้หญิงจะได้หลั่งเมือกที่เป็นด่างมาเจือจางความเป็นกรดในช่องคลอด ที่จะเอื้อให้อสุจิ Y เข้าเส้นชัยได้ก่อน

ระยะทางของการปล่อยตัว (การหลั่ง)

เด็กหญิง : อย่าหลั่งอสุจิให้ลึกมากนัก แค่ภายในช่องคลอดเท่านั้น เพราะอสุจิ X อึดกว่า ว่ายน้ำได้เรื่อยๆ จนไปถึงเส้นชัย

เด็กชาย : หลั่งอสุจิให้ลึกที่สุด เพื่อให้อสุจิสัมผัสกับปากมดลูกโดยตรง อสุจิ Y ที่ว่ายน้ำเร็วกว่าก็จะว่ายเข้าเส้นชัยได้ก่อน

ความถี่ในการทำการบ้าน

เด็กหญิง : ขยันทำการบ้านบ่อยๆ เพราะจะทำให้เชื้ออสุจิน้อยลง อสุจิ Y ก็จะมีน้อยลงไปด้วย จนอสุจิ X มีเยอะกว่า

เด็กชาย : ไม่ค่อยขยัน ทพการบ้านไม่ถี่แต่สม่ำเสมอ พยายามกักตุนเชื้ออสุจิไว้เป็นระยะๆ ปริมาณของอสุจิ Y จะได้เยอะๆ แต่ไม่ต้องนานมากเดี๋ยวอสุจิแก่ (พักการทำการบ้านหรือช่วยตัวเองก่อนสัก 5 วัน)

อาหารที่(ว่าที่)คุณแม่ควรกิน

อาหารแต่ละชนิดทำให้ภาวะในช่องคลอดมีความเป็นกรดหรือด่างแตกต่างกันได้ โดยต้องกินอาหารเหล่านี้อย่างน้อยสองเดือนครึ่งก่อนที่จะลงมือ

เด็กหญิง : เลือกกินอาหารที่มีโพแทสเซียมน้อย เช่น เช่น นม แป้ง ไข่ ผักสีเขียวสดหรือแช่เย็น ผลไม้แห้งและเนยที่ไม่เค็ม ผลไม้ทุกชนิด ยกเว้นสับปะรด และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม ชา กาแฟ เนยเค็ม น้ำผลไม้สด เหล้าองุ่น

เด็กชาย : เลือกกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่สดหรือไม่สุก ปลา ไส้กรอก ผักไม่แช่เย็น ถั่ว มันฝรั่ง กล้วยหอม แยม ผลไม้ตากแห้ง เช่น ลูกพรุน ลูกเกด ขนมปัง ชา กาแฟ น้ำอัดลมที่มีแอลกอฮอล์ ห้ามรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม อาหารที่ทำจากนม กะหล่ำปลีสด ดอกกะหล่ำ ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักสลัด ลูกนัด โกโก้ ช็อกโกแลต และมัสตาร์ด

ข้อมูลอ้างอิงจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ไม่เป็นไร
26 สิงหาคม 2563
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save