fbpx

YES NO OK! สอนให้ลูกรู้จัก consent

: 16 กุมภาพันธ์ 2564

ด้วยเจ้าหนูที่ยังเป็นเด็กน้อย อาจทำให้เราคิดว่าเรื่องเพศๆ นั้นเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเด็ก แต่ด้วยความเป็นเด็กนี่ล่ะที่อาจทำให้เจ้าหนูตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศได้ ด้วยวัยที่ยังน้อยเกินกว่าจะเข้าใจความหมายและการกระทำที่ล่วงละเมิดในตัวเขา บางทีเขาอาจไม่เข้าใจว่าการที่คนแปลกหน้า หรือคนรู้จักมากอด จูบเขาโดยไม่ยินยอม

วันนี้ Parents One เลยอยากแนะนำให้รู้จักกับคำว่า consent หรือการยินยอมตกลงใจทั้งสองฝ่าย เพื่อสอนให้กับลูกน้อยให้เข้าใจขอบเขตของการกระทำสิ่งต่างๆ กับผู้อื่น และเรียนรู้ที่จะปกป้องตนเองได้เมื่อรู้ว่าผู้อื่นล่วงละเมิดเกินความสมัครใจของเขาค่ะ

Consent คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

Consent คือการยินยอมให้อีกฝ่ายทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วย ถึงแม้ส่วนมากมักจะใช้กับการมีเพศสัมพันธ์ (ตย. นางสาว A ยินยอมให้นาย B มีเพศสัมพันธ์ด้วย) แต่ consent นั้นสามารถใช้ได้ในหลายบริบท สำหรับเจ้าตัวน้อย อาจหมายความว่า เขาหรือเพื่อนเล่นยินยอมให้สัมผัสหรือไม่ หรือยินยอมให้ญาติผู้ใหญ่หอมแก้มรึเปล่า

การสอนให้เจ้าตัวน้อยรู้จัก consent นั้น จะสามารถช่วยให้เขารู้ขอบเขตของตัวเองได้ ทำให้เขาเข้าใจว่าการกระทำแบบไหนควรไม่ควรทำต่อผู้อื่นและตนเอง และเรียนรู้ที่จะขออนุญาตเพื่อความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายก่อน เรียนรู้ที่จะถนอมความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น อีกทั้งยังช่วยปกป้องจากคนที่ล่วงเกินเขาได้ด้วยค่ะ

แล้วเราจะสอนให้เจ้าหนูรู้จัก consent ได้อย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

 

เรียนรู้การขออนุญาต

ขั้นตอนนี้ต้องช่วยเจ้าหนูสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่โรงเรียน หรืออยู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก หัดให้เจ้าหนูถามเพื่อนเล่นของเขาว่าต้องการให้สัมผัส หรือกอดไหม ยกตัวอย่างเช่นถามเพื่อนซิลูก ว่าเขาอยากให้กอดบ๊ายบายกันรึเปล่าถ้าอีกฝ่ายปฏิเสธ ก็อธิบายให้เขาเข้าใจว่าการปฏิเสธนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี และหาสิ่งอื่นที่ทำแทนแล้วสบายใจทั้งสองฝ่าย อยากเช่นโบกมือบ๊ายบาย หรือส่งจูบลาก็ได้ค่ะ

แต่อย่าลืมสอนให้เขาเข้าใจว่า ในสถานการณ์ที่เพื่อนกำลังเดือดร้อน เราอาจขอ consent เขาทันทีไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรรีรอที่จะตรงไปช่วยเขานะคะ

 

ไม่ก็คือไม่

อธิบายให้เจ้าหนูเข้าใจว่าการปฏิเสธก็คือการปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นคำปฏิเสธจากเขาหรือเพื่อนๆ ก็ตาม หากถูกบอกว่าไม่หรือไม่ชอบ ควรหยุดการกระทำนั้นๆ ทันที ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนของลูกไม่อยากให้จั๊กจี๋แล้ว หากเขาปฏิเสธ ควรจะเลิกจั๊กจี๋เขาทันทีค่ะ

คำว่าไม่นั้นเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าหนูควรจะรับรู้ด้วยว่าการปฏิเสธของเขาก็มีความหมายด้วยเช่นกัน หากเจ้าหนูไม่ชอบอะไรแล้วเพื่อนของเขายังยื้ออยู่ ควรสอนให้เขาพูดคุยกับเพื่อนของเขา และทำความเข้าใจความรู้สึกตนเองว่าสิ่งที่เพื่อนคนนั้นทำ ทำให้เขารู้สึกไม่ดี ไม่ปลอดภัยอยู่รึเปล่า ให้เขาได้รับรู้ถึงขอบเขตและความต้องการของตนเองค่ะ

 

หัดอ่านสีหน้าและสถานการณ์

สอนให้เขาเข้าใจหัดดูสีหน้าต่างๆ และสถานการณ์ อย่างเช่นกลัว มีความสุข โกรธ เสียใจ กระวนกระวาย สามารถเล่นกันเป็นเกมให้เขาหัดประเมินสถานการณ์ก็ได้ค่ะ ว่าสีหน้าแบบนี้เป็นยังไงกันนะ?

การสอนให้เจ้าหนูหัดอ่านสถานการณ์นั้นก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นเดียวกันค่ะ พยายามย้ำให้เจ้าหนูเข้าใจว่าหากสถานการณ์ไหนเขา “รู้สึก” ว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือทำให้เขากลัวขึ้นมา เขามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธและหาทางออกจากเหตุการณ์นั้นๆ ค่ะ

 

ร่างกายของเราต้องปกป้องให้ดี

เวลาสอนลูกเรื่องอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย อย่าลืมท่ีจะสอนเขาเรื่องอวัยวะเพศ ให้เขาเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างร่างกายของเพศชายและเพศหญิง

แต่สิ่งที่สำคัญคือสอนให้เขารู้ว่าร่างกายของเขานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรักและปกป้องไว้ อย่าให้ใครมาแตะต้องหรือล่วงเกินโดยที่ตัวเขาไม่ยินยอม โดยเฉพาะอวัยวะเพศที่ควรสงวนไว้เป็นพิเศษค่ะ

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
2 กุมภาพันธ์ 2564
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save