fbpx

วิธีการพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก

Writer : giftoun
: 11 มกราคม 2561

 

เมื่อมีความจำเป็นต้องพาลูกไปต่างประเทศหรือไปต่างจังหวัดครั้งแรก บางทีอาจต้องพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก จะมีวิธีการใดบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ดูความพร้อมของลูกก่อนขึ้นเครื่องบิน

อาจจะลองเริ่มจากพาลูกนั่งรถไปเที่ยวเสียก่อน จะได้ดูความพร้อมของลูกว่าเวลาไปเที่ยวลูกมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง เพราะถ้าขึ้นรถเหนื่อยก็จอดพัก ร้องไห้งอแงยังไงก็อยู่ในรถของครอบครัวตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่มีความกดอากาศให้ลูกหูอื้อ และอื่นๆ อีกมากมายที่อาจทำให้ลูกร้องไห้แบบเอาไม่อยู่ เป็นการดูความพร้อมก่อนว่าลูกเราเลี้ยงง่าย ไม่งอแงง่ายๆ หรือถ้าลูกร้องไห้เรามีวิธีให้ลูกหายร้องไห้

ขอบคุณภาพจาก น้องวชิ Wachi

ลองพาลูกไปทริประยะใกล้ก่อน

ทริปแรกควรเป็นทริประยะใกล้ก่อนก็ดีนะคะ ควรซ้อมบินในประเทศก่อนที่จะบินไปต่างประเทศ เพราะถ้าลองไปทริปต่างประเทศเลย ลูกก็จะงอแงอยู่บนเครื่องหลายชั่วโมงจะรบกวนคนอื่นๆ ลูกก็ไม่สบายตัว จะทั้งเหนื่อยทั้งเครียดกันทั้งครอบครัวเลยล่ะค่ะ

ขอบคุณภาพจาก น้องวชิ Wachi

นอนให้พอก่อนพาลูกขึ้นเครื่อง

เด็กบางคนนอนไม่พอจะงอแงได้ ดังนั้นขอแนะนำคุณแม่ให้พยายามพาลูกไปนอนให้เยอะที่สุดค่ะ เช่น ถ้าบินเช้าตรู่ อุ้มลูกจากเตียงขึ้นรถมาเลย ทำยังไงก็ได้ให้หลับนานๆ ให้ได้ตามเวลานอนปกติของลูก แล้วลูกจะตื่นมาสดชื่นไม่งอแง หรือถ้าบินกลางคืนพยายามให้ลูกนอน เด็กบางคนตื่นที่จะนอนยาก อาจจะต้องพยายามให้เล่นเยอะๆ ตอนกลางวันหรือตอนหัวค่ำก่อนขึ้นเครื่องจะได้เพลียและนอนง่ายขึ้นค่ะ

ขอบคุณรูปภาพจาก cherryjaja

พกของเล่นไปด้วย

ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมของเล่นชิ้นโปรดหรือตุ๊กตาตัวโปรดไปด้วยจะยิ่งดีเลย เพราะถ้างอแงแล้วไม่อยากอยู่กับที่ก็จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจได้ ของให้ลูกเล่นแนะนำให้เน้นชิ้นเล็กๆ เบาๆ จะได้พกพาง่าย เช่น สติ๊กเกอร์ การ์ดภาพ นิทานเล่มเล็กๆบางๆ เป็นต้น

ขอบคุณรูปภาพจาก cherryjaja

เตรียมถุงรองรับเวลาลูกอาเจียน

เพราะลูกมีโอกาสอาเจียนได้เสมอ ให้เตรียมถุงไว้รองเวลาลูกอาเจียนด้วยค่ะ เมื่อลูกอาเจียนแล้วพ่อแม่ต้องนิ่ง อย่าเพิ่งตกใจ ไม่อย่างนั้นเกิดลูกตกใจตามจะร้องไห้ จากนั้นตั้งสติ บอกลูกว่าไม่เป็นไร แล้วทำความสะอาดนะคะ

ขอบคุณภาพจาก น้องวชิ Wachi

อย่าลืมตารางทานข้าวของลูก

บางทีเวลาเดินทางคุณแม่อาจจะวุ่นวายมัวแต่เตรียมเรื่องอื่น ๆ แต่เรื่องกินเป็นเรื่องที่ลืมไม่ได้เลยนะคะ โดยเฉพาะตอนลูกยังเล็กที่ต้องทานนมทุก 2-3 ชม. หรือ 3-4 ชม. ต้องให้ลูกได้ทานเวลาตามปกติ ไม่งั้นถ้าหิว ลูกจะหงุดหงิด ประกอบกับแปลกที่ลูกก็จะงอแงเยอะขึ้นได้ค่ะ

ขอบคุณภาพจาก น้องวชิ Wachi

เลือกที่นั่งติดทางเดินท้ายลำ

ถ้าเลือกได้ อยากให้คุณแม่เลือกที่นั่งติดทางเดินท้ายลำ เพราะถ้าลูกร้องไห้งอแง ให้กินนม กินแล้วแล้วยังเอาไม่อยู่ จะต้องพาอุ้มเดิน เวลาลุกเข้า-ออก จะได้ไม่รบกวนคนที่นั่งติดกันค่ะ

เมื่อรู้วิธีการพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรกแล้ว จะทำให้คุณแม่มือใหม่เตรียมตัวและรับมือเมื่อเจอสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



พาลูกน้อยไปเที่ยวไหนในกรุงเทพดี ?
กิจกรรมของครอบครัว
7 เหตุผลที่ควรพาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่น
กิจกรรมของครอบครัว
เริ่มให้ลูกฝึกปั่นจักรยานตอนไหนดี?
กิจกรรมของครอบครัว
กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
30 พฤษภาคม 2561
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save