fbpx

สอนลูกวัยเตาะแตะอย่างไรให้ปลอยภัยจากการจมน้ำ

Writer : OttChan
: 23 กุมภาพันธ์ 2565

ทุกวันนี้อีกหนึ่งอุบัติเหตุที่คนเป็นพ่อแม่มักได้รับข่าวที่มาพร้อมกับความสูญเสียเสมอก็คือเรื่องของการจมน้ำ ที่มักเกิดขึ้นในเด็กเล็กหรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบโดยที่บางครั้ง ก็มักจะเกิดขึ้นในตอนที่เราไม่ได้ระวังตัว หรือเกิดขึ้นอย่างฉับพลันจนไม่สามารถยื่นความช่วยเหลือเข้าไปได้ทันท่วงทีจนทำให้เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นก็มักจะเกิดจากการที่เราคลาดสายตาจากลูก หรือลูกอยู่ในจุดอับสายตา

ดังนั้นสำหรับบทความนี้ ทาง Parents one จะมาแนะนำวิธีดูแลลูกในแบบฉบับที่เริ่มจากการระวังของตัวเราเองว่าจะสามารถป้องกันอย่างไรได้บ้าง ซึ่งทุกบ้านสามารถนำไปปรับใช้ได้ตั้งแต่เด็กวัยเล็กเริ่มเดินไปจนถึงวัย 3-4 ขวบเลยนะคะ

หลัก 3 อย่าที่ต้องท่องให้ขึ้นใจ

อย่าใกล้

ทุกครั้งที่เห็นว่ามีแหล่งน้ำ ต้องบอกลูกเสมอว่า อย่าใกล้ หรือเข้าไปใกล้โดยเด็ดขาด รวมถึงตัวผู้ปกครองเองเมื่อเห็นว่ามีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆ ต้องพาลูกออกจากบริเวณนั้นทันที

อย่าเก็บ

เมื่อมีสิ่งของตกลงไปในน้ำ ต้องสอนลูกเสมอว่าอย่าเก็บ มีอะไรให้เรียกพ่อแม่เสมอเมื่อทำของตกลงไปในน้ำ อย่าเก็บเอง หรือหากเห็นเองเลยว่ามีของตก ต้องรีบเข้าไปเก็บแทนลูก อย่าบอกให้ลูกเก็บเอง

อย่าก้ม

เวลาเราทำความสะอาดบ้าน หรือซักผ้าก็มักจะต้องใช้ถังน้ำ หรือกะลามังในการรองน้ำไว้ซึ่งปริมาณน้ำเพียงเท่านั้นก้สามารถทำให้เด็กจมน้ำได้แล้ว ดังนั้นต้องบอกเด็กๆ ไว้เสมอว่า อย่าก้ม ลงไปมองในน้ำเด็ดขาด และตัวเราเองเมื่อมีถังน้ำสูงๆ ในบ้าน ก็ควรนำลูกไปไว้ให้ห่าง หรือแม้แต่บ่อน้ำละแวกบ้านเองก้ต้องระวังไม่ให้ลูกเราเข้าไปเล่นใกล้ๆ

หากเราจำหลัก 3 อย่าได้ขึ้นใจแล้ว ก็จะทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้าน สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้มากเลยล่ะค่ะ แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ต้องหูตาไวอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้ลูกน้อยวัยกำลังซนเดินไปไหนมาไหนคนเดียวโดยที่เราไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ค่ะ ซึ่งระยะที่ปลอดภัยในกรณีที่เราจะพาจอมซนวัยเตาะแตะไปลงเล่นน้ำเองก็มีหลักให้สังเกต และคาดคะเนความอันตรายหรือความเสี่ยงที่จะเกิดได้ดังนี้

เมื่อพาลูกไปเล่นน้ำ

อายุต่ำกว่า 3 ขวบ
  • ต้องอยู่ในระยะวงแขนคว้าทัน
  • ไม่ปล่อยให้คลาดสายตา ต้องคอยมองตลอด
อายุ 3-6 ขวบ
  • อยู่ในระยะเกินวงแขนได้ แต่ต้องสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว
  • ต้องไม่คลาดสายตาเช่นกัน

และเหตุที่ต้องให้เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ อยู่ในสายตาตลอดนั่นก็เพราะเมื่อเด็กทำการลอยตัวขึ้น จนเท้าไม่แตะพื้น การที่เขาจะกลับมายืนได้เหมือนเดิม นับว่าเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะเด็กเล็กจะยังไม่สามารถทรงตัวหรือควบคุมร่างกายได้ดีพอ เราถึงได้เห็นเด็กหลายคนที่ยังจมน้ำ หรือสำลักน้ำแม้ว่าจะว่ายน้ำเป็นแล้วก็ตามค่ะ ฉะนั้นผู้ใหญ่จะคลาดสายตาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อมีเด็กคนอื่นจมน้ำจะสอนลูกอย่างไร

นอกจากที่เราจะต้องระวังลูกเราแล้ว การไปกับเที่ยวเล่นกับเพื่อนเองนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการมีคนใดคนหนึ่งจม และอีกคนพยายามเข้าไปช่วย จนทำให้เกิดเรื่องขึ้น ดังนั้นนอกจากวิธีป้องกันตัวที่เราสอนให้กับเขาและเราแล้ว ยังต้องสอนอีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือเมื่อพบว่าเพื่อนหรือใครจมน้ำอยู่ ต้องยึดหลัก 3 อย่าง

  • ตะโกน เมื่อพบเห็นคนจมน้ำ ให้ตะโกน หรือรีบบอกคนอื่นให้มาช่วย อย่าลงไปในน้ำเอง
  • โยน มองหาสิ่งของที่น้ำหนักเบา สามารถใช้เกาะได้ลงไปอย่าง ห่วงยาง, โฟม
  • ยื่น หาไม้ หรือ เชือกยื่นมาไปให้โดยที่ตัวเรายังคงอยู่บนฝั่ง ระวังตัวอยู่เสมอ ไม่ให่ตัวไถล หรือเข้าใกล้ขอบฝั่งมากเกินไป

ต้องย้ำเตือนลูกของเราให้ขึ้นใจ ว่าเมื่อพบใครก้ตามจมน้ำ อย่าลงไปช่วยเหลือเอง ต้องบอกผู้ใหญ่เสมอ จนกว่าเขาจะโตพอดูแลตัวเองได้ และมีร่างกายที่แข็งแรงมากพอที่จะดูแลตัวเองได้เมื่ออยู่ในน้ำ

 

ที่มา youtubethaincdthaihealth

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
31 มีนาคม 2563
7  วิธี พิชิตการทานยากของเด็ก
ชีวิตครอบครัว
ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
24 ธันวาคม 2562
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save