fbpx

วิธีเล่นกับลูกในครรภ์ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย

Writer : Jicko
: 12 พฤศจิกายน 2561

การเล่นกับลูกในครรภ์ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างหนึ่ง และที่สำคัญยังเป็นการกระตุ้นพัฒนาการลูกน้อยอีกด้วย ในขณะที่ลูกน้อยในครรภ์เจริญเติบโต ทั้งส่วนของร่างกายแล้ว ยังมีการเจริญเติบโตด้านจิตใจควบคู่ไปด้วย และจะสังเกตได้ว่า เด็กๆ ที่ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เมื่อคลอดออกมาแล้ว จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย ฉลาด แถมยังอารมณ์ดีอีกด้วย

โดยการพัฒนาของลูกน้อยนั้นก็พัฒนานับตั้งแต่ คุณแม่ๆ ตั้งครรภ์ได้ 2 – 3 เดือน ภายในช่วงนี้ลูกน้อยจะรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว อีก 3 – 4 เดือน ประสาทหูและตาของลูกน้อยเริ่มทำงานได้ดีขึ้น ทำให้สามารถรับรู้ได้ถึงเสียงและแสงจ้าจากภายนอกครรภ์ได้บ้างแล้ว จนอายุครรภ์ได้ 5 – 6 เดือน เป็นช่วงเดือนที่เรียกได้ว่า ประสาทสัมผัส สมบูรณ์อย่างเต็มที่ ทำให้ลูกน้อยไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ และสามารถเคลื่อนไหวให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้ได้นั้นเอง

วิธีการเล่นกับลูกในท้องที่คุณพ่อคุณแม่นำไปเล่นกับเด็กๆ ได้จะมีอะไรกันบ้าง จะสนุกยังไง ไปดูกันเลยค่ะ

1.พูดคุยกับลูกผ่านผนังท้อง

เด็กๆ สามารถได้ยินเสียงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งระบบการได้ยินของเขา เริ่มพัฒนาเมื่ออายุครรภ์ได้ 24 – 26 สัปดาห์ขึ้นไป โดยเขาจะเร่ิมได้ยินเสียงหัวใจ และจดจำเสียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ลองทักทายด้วยการเรียกชื่อเขาดู ใช้คำที่ต้องใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น พ่อกับแม่รักหนูนะ พูดบ่อยๆ จะช่วยให้เด็กๆ ที่อยู่ในท้องคุ้นเคยกับคำต่างๆ  และมีพัฒนาการทางด้านภาษาและการได้ยินที่ดีอีกด้วยนะคะ

2.อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง

การอ่านหนังสือนิทานเป็นการสร้างความสัมพันธ์อย่างหนึ่งระหว่างแม่กับลูก ถ้าอยากให้เด็กๆ ในท้องได้รับรู้ละก็ คุณแม่อาจจะอ่านหนังสือนิทานสักเล่ม พร้อมกับทำท่าทาง เช่น ท่าปูไต่ หรือทำนิ้วทำท่าคนกำลังเดินบริเวณหน้าท้อง เพื่อเป็นการเล่นกับเด็กๆ ในท้องนั้นเอง นอกจากนี้การอ่านออกเสียงก็เป็นการฝึกพัฒนาการด้านการได้ยินให้กับลูกและด้านอารมณ์ แต่ก็อยู่ที่อารมณ์ของคุณแม่ด้วยนะคะ ถ้าคุณแม่อ่านด้วยน้ำเสียงนุ่ม เด็กๆ ในท้องก็จะสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของคุณแม่และซึมซับสิ่งนั้นได้ด้วย ถ้าคุณแม่อารมณ์หงุดหงิด ก็จะส่งผลเสียกับเด็กๆ ได้ด้วยเช่นกันค่ะ

3.เปิดเพลงเบาๆ หรือฮัมเพลงไปกับลูก

การเปิดเพลงหรือฮัมเพลงเบาๆ ไปกับลูกนั้น คุณแม่อาจจะนำหูฟังไปใส่ที่ท้องหรือสัมผัสที่ท้อง พร้อมเปิดเพลงในเด็กๆ ในท้องฟัง ซึ่งการเปิดเพลงอาจจะเป็นเพลงที่คุณแม่ชอบหรือฟังเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงกล่อมเด็ก หรือเพลงคลาสสิค เท่านั้นนะคะ ลองทำตามดูคุณแม่อาจจะรับรู้ได้ถึงการดิ้นของลูกตามจังหวะเพลงก็ได้ค่ะ แถมการฟังเพลงยังช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายได้อีกด้วยดีทั้งแม่และลูกเลยค่ะ

4.เล่นกับเค้าด้วยการลูบท้อง

การลูบท้องเป็นการช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนการรับรู้และการรู้สึกของเด็กๆ ในท้องให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ ในเวลาที่คุณพ่อคุณแม่สัมผัสผ่านหน้าท้อง ผิวของทารกจะสัมผัสกับผนังด้านในของมดลูกและบางครั้งแม่ท้องอาจจะรู้สึกได้ว่า ลูกน้อยมีการโต้ตอบเคลื่อนไหวตามมือที่ลูบท้อง คล้ายกับว่าเขากำลังเล่นอยู่กับเรานั้นเอง ซึ่งวิธีการลูบท้องนั้น อาจจะลูบเป็นวงกลม จากบนลงล่าง หรือจากล่างขึ้นบน แต่อย่าลืมส่งความรักและความรู้สึกส่งผ่านมือของเราไปยังลูกในท้องก็จะดีมากๆ เลยนะคะ

5.ใช้ไฟฉายเล่นจ๊ะเอ๋กับลูกน้อย

คุณพ่อคุณแม่สามารถเล่นกับลูกในท้องได้โดยใช้ไฟฉายส่งไปยังบริเวณหน้าท้อง โดยการเล่นแบบนี้จะได้ผลดีเมื่อลูกเร่ิมดิ้นในท้อง โดยการเล่นจ๊ะเอ๋นี้เด็กๆ ในท้องจะเคลื่อนไหวตามแสงไฟที่ส่อง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่จำเป็นต้องตั้งใจเล็งเพราะกลัวเด็กๆ ในท้องไม่เห็น เพียงแค่ส่องให้ลูกในท้องรู้ว่านี่คือแสงไฟที่ส่องเข้ามาก็พอแล้วค่ะและไม่ต้องใช้ไฟฉายที่มีหลอดแรงสูง แสงจ้าเกินไปเด็ดขาด เพราะจะเป็นอันตรายกับประสาทตาของเด็กๆ ได้นั้นเอง การเล่นแบบนี้หากลูกในท้องมีการตอบสนอง เช่น เตะ หรือดิ้น แปลว่าเด็กๆ รับรู้และเกิดการตอบสนองได้ เป็นการกระตุ้นเรื่องพัฒนาการด้านการมองเห็นนั้นเองค่ะ

6.พาลูกร่วมสนทนากับญาติสนิทมิตรสหาย

คุยกับลูกสองคนคงไม่สนุก ลองชวนคุณสามี หรือญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมคุยกับเด็กๆ ในท้องกัน เพราะมีผลยืนยันมาแล้วว่า เด็กๆ ที่คุณแม่ๆ พาไปพูดคุยหรือมีคนมาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ หลังจากที่คลอดออกมา เด็กๆ มีความฉลาด อารมณ์ดี และเลี้ยงง่ายไม่งอแงกว่ากลุ่มเด็กๆที่ค่อนข้างสันโดษ ก็เพราะเนื่องจากทารกได้รับความรัก และสัมผัสความอบอุ่นจากคนรอบข้างได้มากกว่านั้นเองค่ะ ลองชวนคนสนิทหรือญาติๆ มาคุยเล่นกับลูกในท้องกัน นอกจากจะช่วยเรื่องพัฒนาการของเด็กๆ แล้ว ยังทำให้คุณแม่ๆ ไม่เหงาอีกด้วยนะคะ

 

ที่มา : rakluke, childingeverything

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



5 วิธีที่คุณพ่อเล่นกับลูกได้
ชีวิตครอบครัว
CAR SEAT กับเด็กแต่ละช่วงอายุ
ข้อมูลทางแพทย์
15 คำถาม เพื่อให้เราเข้าถึงใจลูกมากขึ้น
กิจกรรมของครอบครัว
20 เหตุผลที่เราควรพาลูก(และแม่)เที่ยว
กิจกรรมของครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save