fbpx

"ไม่เห็นต้องสนใจ กับคนที่ไม่ได้รู้จักตัวตนเราจริงๆ" เทคนิคหยุดความคิดของตัวเองเมื่อโดนบูลลี่ของ น้องแพรพาเพลิน

Writer : Mneeose
: 28 กุมภาพันธ์ 2563

คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเพจ “น้องแพรพาเพลิน” เมคอัพอาร์ทิสต์ตัวน้อยที่ตอนนี้โด่งดังทั้งในประเทศไทย และได้ไปเฉิดฉายบนเวทีในต่างประเทศให้ทุกคนได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จที่ไม่ได้มาง่ายๆ แต่ต้องอาศัยความพยายามและความใจสู้ของน้องแพร และครอบครัวของเธอก็คอยสนับสนุนเป็นกำลังใจ พร้อมกับส่งเสริมในทุกๆ สิ่งที่ลูกชอบทำอย่างไม่มีข้อมาโต้เเย้งตลอดมา

มีคนชอบ ก็ต้องมีคนไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา Parents One ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์กับน้องแพรพาเพลิน ในประเด็นของการโดนกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ และเทคนิคหยุดความคิดของตัวเองเมื่อโดนบูลลี่จาก น้องแพรพาเพลินจะเป็นอย่างไร ไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

จุดเริ่มต้นในการทำ YouTube?

น้องแพรพาเพลิน : แพรเริ่มต้นจากการเล่นเกมแต่งหน้าในไอแพดแล้วรู้สึกชอบ แล้วก็ไปดูวิดีโอสอนแต่งหน้าในยูทูป แล้วรู้สึกว่าอยากทำตาม พอแม่ซื้อเครื่องสำอางชุดนึงมาแต่งหน้าให้แพรเวลามีงานโรงเรียน แพรก็เลยเอาเครื่องสำอางชุดนั้นมาแต่งหน้าตัวเองแล้วก็อัดคลิปไปด้วย ก็คือตั้งไอแพดไว้บนเตียงแล้วเอาเครื่องสำอางเซ็ตนั้นมาแต่งหน้าตัวเอง แล้วก็พูดตามที่เราเคยฟังแล้วก็เคยดูค่ะ 

แพรถ่ายคลิปครั้งแรกตอนอายุ 4 ขวบ ตอนนั้นชอบมาก อัดคลิปเกือบทุกวันเลย แล้วแม่ก็เป็นคนลงให้ ระยะเวลาที่ทำยูทูปมา 7 ปี มีช่วงนึงที่ไม่ได้ลงคลิปนานมาก เพราะจะมีช่วงแรกที่ลงแล้วโดนดราม่าก็พักไปประมาณ 2-3 เดือนแล้วก็กลับมาทำอีก แล้วก็หายไปอีกรอบนึง เพราะตอนนั้นเหมือนมีเพจเข้ามา แพรก็เข้าไปจัดในเฟซบุ๊กไลฟ์ ก็เลยไม่ได้เข้ามาทำยูทูป แล้วก็แพรก็ตัดต่อคลิปไม่เป็น ไม่รู้ว่าต้องมีหน้าปกคลิปยังไง ก็เลยมีทีมที่ทำเรื่องแบบนี้ให้ค่ะ แล้วช่วงนี้ก็ค่อยกลับมาทำ 

แบ่งเวลาเรียน เล่น และทำงานอย่างไร?

น้องแพรพาเพลิน : ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอม วันเสาร์อาทิตย์ถ้าทำการบ้านเสร็จแล้วไม่ได้มีนัดกับเพื่อนไปไหน แพรก็จะมาทำงานอยู่ในห้องของแพรเอง แต่ถ้าเป็นช่วงปิดเทอม ไม่ได้รับงานอะไรก็ทำงานอย่างเดียวเลยค่ะ

ตอนที่เริ่มต้นทำคลิป คุณแม่เป็นคนลงคลิปให้ พอหนูโตแล้วตัดสินใจจะทำคลิปต่อ

คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนเราให้ทำคลิป อย่างไรบ้าง?

น้องแพรพาเพลิน : คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุนแพรตลอดค่ะ แม่เป็นคนหาทีมตัดต่อให้ ดูเรื่องหางาน และเป็นคนจัดการตารางเวลาต่างๆ ส่วนพ่อก็ดูเรื่องห้อง ทำไฟ ซื้อกล้อง ดูเรื่องอุปกรณ์เป็นหลัก ซึ่งทั้งสองคนก็คอยเป็นกำลังใจให้แพรตลอดค่ะ

ตอนเริ่มทำยูทูปช่วงแรก เวลาไปโรงเรียน เพื่อนๆให้ความสนใจกับเราเพิ่มบ้างคะ?

น้องแพรพาเพลิน : ถ้าเป็นช่วงแรกๆ เขาก็ยังไม่ได้เข้ามาขอถ่ายรูป แต่ว่าจะแซวๆ นิดนึง แบบทำท่าทางตาม พูดตามอะไรแบบนี้ (แล้วเรารู้สึกยังไง) ทั้งเขินทั้งดีใจเลยค่ะ

ตอนที่โดนดราม่าบูลลี่ เราผ่านมาได้ยังไง น้องแพรมีวิธีให้กำลังใจตัวเองอย่างไรบ้าง?

น้องแพรพาเพลิน : ช่วงแรกๆ เฟลมากค่ะ คิดไว้ว่ายังไงก็ต้องเลิกทำแน่ๆ มันนอยด์มากเลยค่ะที่เราก็ทำของเราแบบสนุก เราชอบในการแต่งหน้า แต่ว่ามีคนมาว่าเราเยอะแล้วก็แรงขนาดนั้น ก็เลยคิดว่าไม่ทำดีกว่า ถ้ามีคนมาว่าเยอะขนาดนี้ไม่ทำดีกว่า

น้องแพรพาเพลิน : แต่ว่าแพรก็จะได้กำลังใจจากแม่ค่ะ แม่บอกว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องยอมรับ แต่ถ้ามันไม่ใช่ความจริงก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนอะไร เพราะมันก็ไม่ใช่ความจริงอยู่ดี แล้วก็แม่บอกว่าถ้าเราชอบในการแต่งหน้าจริงๆ เราก็พิสูจน์ให้เขาเห็น เราต้องไม่ท้อ เราต้องไม่ถอย ต้องไม่หยุดอยู่แค่นี้ แพรก็เลยคิดว่าโอเค แพรชอบแต่งหน้า ยังไงแพรก็ต้องทำ แล้วก็พิสูจน์ให้คนที่เคยว่าแพรเห็นว่าแพรทำมันได้จริงๆ 

แล้วตอนนี้ยังมีคอมเมนต์เชิงลบอยู่บ้างไหมคะ?

น้องแพรพาเพลิน : ลดน้อยลงมากๆ เลยค่ะ ไม่ค่อยมีแล้วค่ะ

เคยโดนคุกคามทางโซเชียลไหม? แบบมีคนส่งของแปลกๆ มาให้

น้องแพรพาเพลิน : ไม่เคยเลยค่ะ แต่มีบ้างที่ส่วนใหญ่ในเพจก็มีผู้ชายมาทัก มาชวนคุยเรื่องที่ไม่เหมาะสม

(แล้วหนูทำยังไงต่อ)

น้องแพรพาเพลิน : หนูก็ส่งสติ๊กเกอร์แล้วก็ไม่คุยเลยค่ะ ไม่สนใจ 

การเป็นยูทูปเบอร์ทำให้เดินหน้าตามความฝันได้ไกลแค่ไหน?

น้องแพรพาเพลิน : จริงๆ หนูก็ทำไปเรื่อยๆ ยูทูปเป็นเหมือนการทำเสริม เป็นช่องทางให้คนรู้จักเรามาขึ้น เพราะหนูอยากเป็นช่างแต่งหน้า ก็มีคุยกับแม่ไว้เหมือนกันว่าอยากไปทางสายนั้นเลย

และทั้งหมดนี้ก็คือบทสัมภาษณ์และความรู้สึกต่างๆ ที่เราได้จากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ “น้องแพรพาเพลิน” นั่นเองค่ะ อย่างที่ทุกคนเห็นว่าสถาบันครอบครัวนั้นมีความสำคัญมาก การที่ครอบครัวเชื่อใจเรา จะยิ่งทำให้เรานั้นเชื่อใจและมั่นใจในตัวเอง ทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำได้มาก่อนได้สำเร็จนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าครอบครัวนั้น คือเเรงผลักดันให้มีกำลังใจที่ยิ่งใหญ่จริงๆ นะคะ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็อย่าลืมสนับสนุนสิ่งที่ลูกรักลูกชอบด้วยนะคะ ผลักดันให้เขาทำในสิ่งที่อยากทำแล้วเขาจะทำได้ดีเอง

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลำดับคนในครอบครัวของคนจีนมีอะไรบ้าง
กิจกรรมของครอบครัว
6 เหตุผลที่ผู้หญิงอยากแต่งงาน
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save