fbpx

“อยากเข้าถึง Target สายครอบครัว ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป” ไขข้อสงสัย ทำไมแบรนด์ต้องเลือกใช้ KOL Parenting?

Writer : Mneeose
: 17 มิถุนายน 2564

รู้หรือไหมว่า? ทำไม KOL Parenting สำหรับกลุ่มแม่และเด็ก ถึงเป็นเทรนด์ที่ทุกแบรนด์ต้องพูดถึงในยุคนี้? นั่นเป็นเพราะปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อของส่วนใหญ่กว่า 70% มาจากการรีวิว และซื้อของตามผู้อื่นที่บอกว่าดี 

ซึ่งล่าสุด Parents One ได้เปิดตัวบริการใหม่ “KOL Service” ซึ่งให้บริการแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ ผ่านทาง Micro และ Nano Influencer จำนวนมาก

โดย Parents One ได้เปิดเผยเหตุผลที่หลายแบรนด์หันมาเลือกใช้กลยุทธ์ “KOL” (Key Opinion Leader) ทั้ง Micro Influencer (มีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน) และ Nano Influencer (มีผู้ติดตาม 500 – 10,000 คน) มาโปรโมท หรือรีวิวสินค้าต่างๆ ไปร่วมไขความลับของกลยุทธ์นี้กันเลย

1. ใกล้ชิดผู้บริโภค เป็นกันเอง และเข้าถึงง่ายกว่าคนดังหลายเท่า

ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย KOL ก็คือ คนธรรมดาทั่วไปที่สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ แต่มีความชื่นชอบเฉพาะทางนั้นๆ จึงทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน ชื่นชอบของเหมือนๆ กัน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็คล้ายกันอีก 

จึงส่งผลให้ผู้บริโภคยิ่งรู้สึกเข้าถึงตัวตนของ KOL ได้ง่าย และอยากติดตามชีวิตว่าเขาเป็นอยู่อย่างไร จนอาจไปถึงขั้นของการตัดสินใจซื้อสินค้าตามกันเลยก็มี 

 

2. ค่าใช้จ่ายน้อย แต่ได้ Brand Awareness ที่เกินความคาดหมาย

ถึงแม้ว่าผู้ติดตามจะไม่ได้เยอะเท่ากับคนดัง แต่ KOL กลับมีกลุ่มผู้ติดตามที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันรวมตัวกันอยู่ แน่นอนว่าเมื่อ KOL โพสต์อะไรไปบนโลกออนไลน์ ย่อมได้ Brand Awareness (การรับรู้ต่อแบรนด์) ที่เกินความคาดหมายเป็นผลตอบแทนกลับมา

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไม KOL ส่วนใหญ่จึงมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับศิลปิน คนดัง หรือบางกิจกรรมอาจมีการให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นค่าตอบแทนก็มี ทำให้แบรนด์สามารถจ้าง KOL ได้พร้อมกันทีละหลายๆ คน และสามารถโปรโมทได้หลากหลายช่องทาง ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้เพิ่มมากขึ้น

 

3. Content สร้างสรรค์สุดปัง และไม่ซ้ำใคร 

คอนเทนต์ของ KOL ส่วนใหญ่จะมาจากความเข้าใจหัวอกของการเป็นพ่อแม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละคน ซึ่งนำเสนอออกมาในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น คลิปวิดีโอที่สนุกสนานชวนให้ติดตาม หรือเป็นบทความแชร์ประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกจนมีผู้ติดตามแบบเเฟนตัวยง 

จะเห็นได้ว่า คอนเทนต์จะเน้นไปที่เรื่องราวใกล้ตัว ความใกล้ชิดของครอบครัวที่ส่งผ่านความรักของคุณพ่อคุณแม่ไปยังลูกสุดน่ารักอย่างชัดเจน จึงทำให้มีผู้ติดตามอย่างเหนียวแน่น 

 

4. “Positive Brand Experience” ใช้จริง รีวิวจริง 

ในโลกออนไลน์ที่ใครก็สามารถโพสต์อะไรลงไปก็ได้ “ความจริงใจ” กลับกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจากแบรนด์มากที่สุด เพียงเพราะแค่อยากรู้ว่าสินค้าตัวไหนที่ใช้แล้วดีจริงจนต้องบอกต่อ 

ซึ่ง KOL จะมาช่วยการันตีคุณภาพของสินค้าในประเภทนั้นๆ ตามแบบฉบับของตัวเอง เหมือนกับกลยุทธ์  “Positive Brand Experience” ที่ใช้จริง รีวิวจริง ซึ่งทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความจริงใจของ KOL ที่มีต่อแบรนด์สินค้านั้นอย่างชัดเจน

 

5. สร้างการรับรู้ที่จริงใจ ทำให้ผู้บริโภคเชื่อถือ และตัดสินใจได้ง่าย

เหตุผลง่ายๆ ที่ KOL มักจะตีตลาดได้มากกว่าคนดังหลายเท่า ก็คือ การที่พวกเขามีบทบาทในการทำให้คนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ติดตามสามารถเชื่อถือ เเละทำให้คล้อยตามในเรื่องที่พวกเขาต้องการที่จะสื่อ

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ KOL จะสามารถโน้มน้าว หรือมีอิทธิพลในการเลือกซื้อสินค้า รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดกระกวนการในการตัดสินใจซื้อสินค้าชนิดหนึ่งได้อย่างง่ายดายนั่นเอง

 

เกี่ยวกับบริการ Parents One : KOL Service

Parents One เว็บสำหรับครอบครัวที่มาแรงที่สุดเว็บหนึ่งในไทย เปิดตัวบริการใหม่ “KOL Service” ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์มีทางเลือกมากขึ้น ด้วยกลุ่ม Micro และ Nano Influencer แม่และเด็กในเครือกว่าร้อยคน !!

โดยบริการ Parents One : KOL Service มีรายละเอียดดังนี้

  • ให้บริการ Micro และ Nano Influencer ในสายแม่และเด็ก
  • มีคุณพ่อ คุณแม่ และน้องๆ ในเครือข่ายกว่า 100 คน
  • เป็นลักษณะ One Stop Service คุยที่เดียวจบ ติดต่อ, ดูแลคอนเทนต์, รวมสถิติ, ส่ง Report ให้ครบ
  • พร้อมบริการคำแนะนำเรื่องคอนเทนต์ จากทีม Creator ที่ดูแลคอนเทนต์แม่และเด็กในเว็บ Parents One
  • แบรนด์สามารถเลือก KOL จากในเครือข่ายของ Parents One ได้เอง
  • พร้อมบริการแชร์เนื้อหาลงในเพจ Parents One ที่มียอด Engagement สูงอันดับต้นๆ ของกลุ่มสื่อแม่และเด็กในไทย
  • บัดเจ็ทเริ่มต้นที่ 150,000 – 250,000 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

E-MAIL : sale@thezero.co.th
TEL. : 098-995-9784
WEBSITE : www.parentsone.com
FACEBOOK Page : Parents One

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



คำชม
9 กรกฏาคม 2564
7 กิจกรรม ทำร่วมกันได้ในครอบครัว
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save