fbpx

NEWS: ผอ.ชี้แจง ประเด็นร้องไห้หักคะแนน กุมารแพทย์ชี้ทารุณกรรมเด็ก

: 4 กุมภาพันธ์ 2565

จากดราม่าร้องไห้หักคะแนนที่เป็นที่พูดถึงในอินเตอร์เน็ตกันอย่างกว้างขวาง หลังผู้ปกครองได้แชร์ประกาศของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม เนื่องด้วยเงื่อนไขการรับสมัครนักเรียนชั้นอนุบาล 1 – 3 โดยมีข้อปฏิบัติในการทดสอบ 3 ข้อ ดังนี้:

  1. นักเรียนต้องเข้าทดสอบทุกฐาน
  2. หากนักเรียนที่เข้าทดสอบร้องไห้ ให้หักคะแนนฐานที่ร้องไห้ฐานละ 3 คะแนน
  3. ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าห้องสอบทุกกรณี

ซึ่งหลังจากประกาศดังนั้นได้ถูกกระจายออกไป ก็ได้รับคำติเตียนและคำวิจารณ์จากอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมากกับประเด็นร้องไห้หักคะแนนผู้ปกครองจำนวนมากต่างตั้งคำถามว่าจะบังคับให้เด็กไม่ร้องไห้ได้อย่างไร เพราะธรรมชาติเด็กก็ร้องไห้เมื่ออยู่ในสถานาการณ์กดดันอยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามฝ่ายประถม รศ.ดร.สุนันท์ สายกระสุน ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามมาชี้แจงประเด็นดังกล่าว

ซึ่งทางผู้อำนวยการได้ชี้ว่ากฎระเบียบนี้ได้ถูกกำหนดไว้มานานแล้ว เพื่อสร้างความเสมอภาพให้เด็กที่เข้าทดสอบคนอื่น เพราะการร้องไห้สร้างความรบกวนให้แก่สมาธิของนักเรียนคนอื่น ๆ ทำให้เพื่อนคนอื่นร้องตาม ไม่สามารถเข้าทดสอบได้

ในขณะเดียวกันหมอเดวรศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ได้โพสต์ความเห็นที่มีผู้ใหญ่ส่งมาถามว่าทำอย่างนี้ได้ด้วยหรือ ซึ่งหมอเดวได้เผลว่าทำไม่ได้ และไม่ควรมีใครเอาอย่าง

โดยการสอบวัดผลแบบ high stake test ที่มีผลลัพธ์อย่างสอบผ่าน สอบตก ได้คะแนนหรือหักคะแนนเพื่อนำไปประเมินผลนั้นเป็นการทารุณเด็กโดยไม่ใส่ใจ เห็นใจจิตใจของเด็ก การสอบวัดผลต่าง ๆ ในช่วงปฐมวัยนั้นผิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการทั้งหมด และเน้นย้ำว่าการใช้ระบบนี้ในการทดสอบเด็กนั้นจัดเป็นระบบทารุณกรรมเด็ก ผิดหลักการตามเจตนารมณ์ของ พ...เด็กปฐมวัยอีกด้วย

คุณพ่อคุณแม่คิดเห็นอย่างไรกับประเด็นดังกล่าวนี้บ้างคะ มาแบ่งปันความคิดเห็นกันค่ะ

อ้างอิงจาก https://www.bangkokbiznews.com/news/986540

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save