fbpx

5 ขั้นตอนรับมือเมื่อลูกถูกคุณครูทำโทษเกินกว่าเหตุ

Writer : OttChan
: 11 กันยายน 2563

 

ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไหร่คุณพ่อคุณแม่ทุกยุคสมัยมักจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์ชวนให้รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับการถูกทำโทษของลูกซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า สิ่งเหล่านั้นเหมาะสมหรือถูกต้องแล้วหรือไม่กับการถูกคุณครูทำโทษเอา และยิ่งมีข่าวลงอยู่ทุกวันว่าโทษที่ได้รับอาจไม่ใช่แค่การตักเตือนแต่ลามไปถึงการละเมิดสิทธิบนร่างกายของลูกเรา อาทิการตัดผม, ทำร้ายร่างกายเกินกว่าเหตุเช่นการตีจนเขียวช้ำ, เกิดฮ้อเลือดถลอก, ริบของหรือทำลายข้าวของที่เป็นสมบัติของลูก และวาจาเองก็เช่นกันในการละเมิดอย่างการล้อเลียนรูปร่างและดูแคลนสติปัญญาของเด็ก

ส่งผลให้ความมั่นใจในตัวลูกลดลงรวมไปถึงสภาพจิตใจที่บอบช้ำนำไปสู่สภาวะเศร้าซึม, เก็บตัว, ไม่ยอมเข้าสังคมจนไม่อยากไปโรงเรียน

แบบนี้คงต้องทำอะไรซักอย่างแล้วเพื่อให้ลูกเรามีสุขภาพกายและจิตที่ดีขึ้น มาลองดูวิธีช่วยเหลือลูกไปด้วยกันเลยค่า

เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่อง ต้องถามไถ่แสดงความใส่ใจ

โดยปกติเมื่อเห็นลูกกลับมาแล้วบอกว่าถูกลงโทษหรือสังเกตได้จากความเปลี่ยนทางร่างกายและสีหน้า ส่วนมากเรามักจะถามลูกว่าไปทำอะไรผิดมาล่ะเลยโดน , เกเรอะไรมารึเปล่า, ทำเรื่องไม่ดีมาใช่ไหม ซึ่งจริงๆ แล้วคำเหล่านี้เป็นคำที่ไม่ควรนำมาใช้ถามนักเพราะแม้สิ่งที่เราคิดว่าเราถามไปเพราะอยากรู้ข้อเท็จจริงจะได้พูดคุยต่อ มันกลับกลายเป็นการทำให้ลูกรู้สึกต้องผิดไปตั้งแต่แรกทั้งที่เขายังไม่มีโอกาสได้บอกเราว่าเกิดอะไรขึ้น

ดังนั้นสิ่งที่ควรถามควรใช้ประโยคเหล่านี้แทนเช่น

  • เล่ามาได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น
  • เจ็บ/กลัวไหม มาให้พ่อ/แม่ดูหน่อย
  • โอบกอดไว้และถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า, อยากระบายไหม

เมื่อลูกยอมพูดและเล่าถึงเหตุกาณ์แล้วต้องไม่ซ้ำเติมหรือมองว่าเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยเพราะเขายังเด็กและเรียนรู้โลกภายนอกมาน้อยกว่าเราที่เป็นพ่อเป็นแม่มาก ฉะนั้นแล้วใช้ความเข้าใจเขาให้มากและบอกเสมอว่าจะอยู่เคียงข้างเพื่อให้ลูกรู้สึกสบายใจที่มีเราเป็นที่พึ่ง

 

เจาะลึกให้ครบทุกแง่มุมปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูก

การรับฟังต้องรับฟังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เพียงแค่ถามมาตอบไปสั้นๆ เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้จริง คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะต้องรู้ที่มาที่ไปทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มของการถูกทำโทษ, กฏข้อระเบียบที่เหตุของการถูกทำโทษ, สภาพหรือภาวะทางอารมณ์ที่แสดงออกมาของตัวครูหรืออาจารย์ที่ทำโทษและหากถามเพิ่มเติมได้อาจลองสอบถามด้วยว่ามีใครโดนเหมือนลูกเราบ้างไหมหรือมีเพียงคนของเราที่โดนเพื่อเก็บข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้น

และในเวลาเดียวกันเมื่อสรุปเรื่องได้ทั้งหมดแล้วต้องประเมินที่มาที่ไปของการทำโทษว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไรเพื่อทำไปจัดการในขั้นถัดๆ ไปของการเข้าพบคุณครูเพื่อพูดคุย, ดูแลลูกของเราให้เข้าใจเรื่องราวมากขึ้นว่าทำไมจึงเกิดการทำโทษขึ้น

 

ไม่ตำหนิหรือซ้ำเติม

บ่อยครั้งที่เรามักใช้ความคิดแบบผู้ใหญ่ตัดสินไปก่อนแล้วว่าหากลูกถูกทำโทษมา แสดงว่าลูกต้องผิดแน่นอนหรือแม้จะฟังแล้ว ก็รู้ได้ว่าเพราะลูกเรามีความประพฤติไม่ดีก่อนจริงจึงสมควรแล้วที่ถูกครูทำโทษมา จึงทำให้เรามักตำหนิเขาหรือสมน้ำหน้าซ้ำไปอยู่ดีแม้จะรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่ว่าในความจริงนั้น แม้ลูกจะมีส่วนผิดหรือทำเรื่องไม่ดีจริงจนถูกทำโทษรุนแรง คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรซ้ำเติมเพราะมันจะเป็นการตอกย้ำว่าตัวลูกนั้น ทำอะไรก็ผิดไปหมด ไม่เคยได้รับการให้อภัยและไม่เคยมีใครเข้าใจความรู้สึกของเขา มันส่งผลให้ลูกรู้สึกเราไม่ใช่ที่พึ่ง และต่อไปมีอะไรเขาก็เลือกที่จะไม่บอกเราอีก

ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือรับรู้เรื่องกอดเขาไว้ให้แน่นๆ บอกว่าไม่เป็นไร ไว้เริ่มใหม่นะในกรณีที่ลูกมีส่วนผิดจริง แต่หากลูกถูกทำโทษโดยไม่สมเหตุสมผล ต้องคอยบอกว่าเราอยู่ข้างเขา, เข้าใจเขา

 

สร้างความมั่นใจกลับมาให้ลูก

ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษแบบไหน ก้มักจะส่งผลให้ลูกรู้สึกด้อยค่าในตนลงไม่ว่าจะเป็นการถูกทำร้ายตามร่างกายจนเกิดรอยพกช้ำ, ทรงผมหรือของใช้บางอย่างที่แหว่งพังไป และสภาพจิตใจที่เจ็บปวดหลังการถูกพูดจาไม่ดีใส่ คุณพ่อคุณแม่ต้องเรียกความมั่นใจเหล่านั้นกลับมาเพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ถูกกระทำมาเป็นเรื่องที่สมควรซึ่งการช่วยเหลือสามารถทำได้ดั้งนี้

  • หากถูกตัดผม ให้พาไปหาร้านตัดผมให้เข้าทรงดีๆ ไม่ปล่อยให้อยู่แบบนั้นนาน
  • พูดและชมด้วยเนื้อหาพลังบวกหากลูกถูกบอกว่าเป็นเด็กไม่ฉลาด, เป็นเด็กเกียจคร้าน, ล้อเลียนเรื่องอ้วนผอมดำขาว เช่นมีความพยายามในการเรียน ,มีความรับผิดชอบดีแล้วในระดับอายุนี้, เป็นคนที่สวยและหล่ออยู่แล้วต้องภูมิใจในตนเอง
  • ถูกริบของหรือทรัพย์สินต้องรีบช่วยเหลือ บอกว่าลูกมีสิทธิ์ที่จะขอของคืนเมื่อถึงเวลาที่ถูกกำหนดในการทำโทษ, ไม่ต้องกลัวหรือไม่กล้าขอ
  • ถ้าลูกถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมหรือถูกกลั่นแกล้ง เปิดใจรับฟังทุกครั้งเพื่อให้รู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็สามารถบอกคุณพ่อคุณแม่ได้ทุกเรื่อง

ไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำ

หากเราสามารถช่วยเหลือให้สภาพจิตใจของลูกดีขึ้นแล้ว อย่าลืมว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติมก็คือเรื่องของสภาพแวดล้อมและตัวบุคคลที่อาจส่งผลให้ลูกเราต้องรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจในเรื่องซ้ำๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่นิ่งเฉยในการเข้าพูดคุยหรือทางโรงเรียนหรือทางตัวบุคคลที่เป็นอาจารย์เพื่อให้ได้มีความเข้าใจตรงกันและบอกให้รู้ถึงข้อที่ควรปรับปรุง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณครูหรือบุคลากรในโรงเรียนนั้นได้มีโอกาสอธิบายมุมมองและความรู้สึกของตนที่ได้ทำลงไปว่าเป็นเช่นไร

และในขณะเดียวกัน หากเหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อไป คุณครูหรือโรงเรียนไม่มีท่าทางใส่ใจมากเท่าที่ควร ก็อาจต้องมีการขอย้ายโรงเรียนหรือการจัดการที่เด็ดขาดขึ้นในแง่มุมทางกฏหมายเพิ่มเติมซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ก็จำต้องความสมัครใจของลูกก่อนเสมอว่าคิดเห็นอย่างไร และต้องการแบบไหนเพราะสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงมากที่สุด คือความสบายใจของลูกในการเล่าเรียน เขาต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมและชีวิตในรั้วโรงเรียนไปอีกหลายต่อหลายปี ดังนั้นโรงเรียนจึงควรเป็นที่ที่ทำให้เขารู้สึกอยากไปใช้เวลาอยู่เสมอ

ที่มา : line, thaipublica

 

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save