fbpx

พาทัวร์หลักสูตรที่เรียนด้วยความสุข ความสนุกสนานผ่านเสียงดนตรี ไปกับโรงเรียนอนุบาล Mark For Future

Writer : Mneeose
: 11 กันยายน 2562

ถ้าหากความสุขของลูกๆ คือ เสียงดนตรี ทำไมเราไม่ลองผสมผสานระหว่างความเป็นวิชาการ และการเล่นสนุกผ่านเสียงดนตรีลงไปในโรงเรียน และพาลูกไปอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้น เพื่อให้พวกเขาได้เรียนอย่างมีความสุขกันล่ะคะ

โรงเรียนอนุบาล ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ต่างๆ ของวัยเด็กน้อย ซึ่งพวกเขาต้องการเล่น และมีความสุข รู้สึกสนุกสนานกับชีวิตมากที่สุด วันนี้ Parents One ขออาสาพาทัวร์โรงเรียนอนุบาล Mark For Future (MFF) โรงเรียน 2 ภาษา เอกดนตรีแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งสอนให้เด็กๆ เรียนรู้สิ่งรอบตัวอย่างรวดเร็วด้วยขบวนการดนตรี ซึ่งเด็กๆ จะได้เล่นดนตรีแบบจริงๆ ถือเป็นการ เสริมทักษะด้วยพัฒนาการทางด้านดนตรี และทำให้เด็กๆ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

คุณพ่อคุณแม่คนไหนกำลังมองหาโรงเรียนที่อยากลูกเรียนวิชาการแบบเข้มข้น และเรียนดนตรีควบคู่ไปด้วยกัน อย่าลืมโรงเรียนอนุบาล MFF ซึ่งตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครทั้งชั้นอนุบาล และชั้นประถมศึกษาอยู่นะคะ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใด อ่านบทความนี้แล้วสนใจ สามารถพาลูกๆ ไปสมัครกันได้เลยค่ะ บรรยากาศโรงเรียน และการเรียนของเด็กๆ จะสนุกแค่ไหนไปทัวร์หลักสูตรกันเลย

จุดเด่นของโรงเรียนอนุบาล Mark For Future เรียนด้วยความสุข สนุกสนานผ่านขบวนการดนตรี 

ก่อนที่เราจะพาไปชมโซนต่างๆ ของโรงเรียน เราขอพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับโรงเรียนอนุบาล Mark For Future กันแบบคร่าวๆ ก่อนนะคะ

  • เป็นโรงเรียน 2 ภาษา (Bilingual) อย่างแท้จริง

หลักสูตรของโรงเรียนถูกรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ จึงถือว่าเป็นโรงเรียนสามัญ หลักสูตร Bilingual  ซึ่งมีการเรียนการสอนแบบ 2 ภาษา นั่นก็คือ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย มีตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล จนถึงชั้นอนุบาล 3 และในอนาคตโรงเรียนอนุบาล MFF ได้มีการขยายเพิ่มในปี 2564 เป็นระดับชั้นประถมศึกษา 1 – 6 โดยใช้หลักสูตรเดิมนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ คุณครูต่างชาติไม่ได้เพียงแค่สอนเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่จะมีคุณครูต่างชาติอยู่กับเด็กๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ผ่านแบบเรียนที่ทันสมัย พร้อมรูปแบบการสอนที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับเด็กตามวัย

ดังนั้น จึงทำให้เด็กได้มีการพูดคุย ฝึกบทสนทนาต่างๆ การหาคำศัพท์ คำทักทายอย่างใกล้ชิดในทุกๆ กิจกรรม คุณพ่อคุณแม่หายห่วงเรื่องภาษากันได้เลยค่ะ

  • การเรียนการสอนรับรองด้วย หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ

แผนการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาล MFF ดำเนินไปตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ MFF แตกต่างจากโรงเรียนอนุบาลอื่นๆ ก็คือ วิธีการ และรูปแบบการสอนที่น่าสนใจ ซึ่งได้มีการนำดนตรีมาเป็นเครื่องมือหลักตัวช่วยหลักให้เด็กได้มีแรงจูงใจ รวมทั้งรู้สึกสนใจในสิ่งต่างๆ แม้จะเป็นวิชาการ ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายเมื่อใช้เสียงดนตรี และบทเพลงเข้ามาช่วยนั่นเองค่ะ

ส่วนชั้นประถมศึกษาที่กำลังจะเปิดในปี 2564 นี้ จะเน้นความเข้มข้นของตัวหลักสูตร และผลลัพธ์ในการเรียนเป็นหลัก ทั้งเรื่องของวิชาการ และดนตรีค่ะ

  • การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวิชาการ และความเข้มข้นในวิชาดนตรี

แม้จะเป็นโรงเรียนที่ใช้ดนตรีเข้ามาใช้ในสื่อการเรียนการสอนต่างๆ แต่โรงเรียนอนุบาล MFF ก็ยังเน้นในเรื่องของวิชาการอย่างเข้มข้นไม่แพ้กัน โดยใช้วิธีการสอนที่หลากหลายมาผสมผสานร่วมกัน จึงได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งเน้นให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ และประยุกต์ ที่สำคัญ คือ ไม่เน้นให้เด็กท่องจำ และมีความสุข รอยยิ้ม และความสนุกสนานในการเรียนค่ะ

วิชาดนตรีหลักๆ นั้นจะมีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ

  • วิชาดนตรีที่เป็น Major

จะถือเป็นวิชาหลักที่มีการเรียนดนตรีอย่างเข้มข้น และให้เด็กเรียนในทุกวัน วันละคาบ ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับวิชาหลักอื่นๆ ของกระทรวง โดยมีคุณครูซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านดนตรีโดยเฉพาะ ความพร้อมของสถานที่ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องดนตรีที่ครบครัน ทำให้เด็กๆ ได้เรียนดนตรีอย่างจริงจังนั่นเองค่ะ

  • ใช้เสียงดนตรี เป็นเครื่องมือในการสอน

ดนตรีส่วนที่ 2 นี้ เป็นการใช้ดนตรีเพื่อเป็นวิธีการ และเป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งมาช่วยสอนเด็กๆ จำในหมวดวิชาการต่างๆ เช่น หมวดไทย หรือหมวดการทำอาหาร โดยมีการแต่งเพลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชานั้นๆ แต่ละเรื่อง ดนตรีจึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เด็กมีสมาธิ เปิดรับในสิ่งต่างๆ ที่แปลกใหม่ ให้เขาได้อยู่กับสิ่งที่คุณครูอยากให้ได้อยู่นานๆ แบบไม่ต้องท่องจำค่ะ

ในส่วนของความแตกต่างของชั้นอนุบาล และชั้นประถมศึกษา นั่นก็คือ เด็กประถมจะมีการเริ่มเรียนเครื่องดนตรีที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยให้เขาได้เลือกเครื่องดนตรีหลักของตัวเอง 1 ชิ้น พร้อมเรียนรู้แบบเจาะลึกนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ ที่โรงเรียนอนุบาล MFF นักเรียนทุกคนต้องได้เรียนเครื่องดนตรีกลาง นั่นก็คือ เปียโน เพราะถือว่าเป็นเครื่องดนตรีพื้นฐานที่เด็กนักเรียนทุกคนต้องเล่นเป็นค่ะ สุดท้ายก็จะมีการฝึกแบบ Band Performance ซึ่งเด็กๆ จะได้มีวงดนตรีเป็นของตัวเอง และได้เล่นเครื่องดนตรีที่ตัวเองรัก ทำให้กลายเป็นเด็กที่กล้าแสดงออก รวมทั้งกล้าคิดวิเคราะห์สิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุมีผลค่ะ

  • อัตราส่วนของเด็ก เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

โรงเรียนอนุบาล MFF ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญถึงเรื่องอัตราส่วน หรือสัดส่วนของจำนวนเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นตัวชี้วัดถึงคุณภาพ รวมทั้งประสิทธิภาพในการเรียนของเด็กๆ ในอีกหลากหลายแง่มุม เช่น สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณครูจะสามารถดูแลเด็กได้ทั่วถึง รวมทั้งจัดการบริหารในเด็กแต่ละคนได้หรือไม่ ?

นอกจากนี้ ยังเน้นดูแลด้านความปลอดภัยของเด็กอย่างใกล้ชิด คือมีคุณครู 2 คนดูแลนักเรียนไม่เกิน 15 คนต่อห้อง ซึ่งจะมีคุณครูจากวิชาต่างๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เป็น 3 – 4 คนต่อห้องเลยทีเดียว เสริมความรู้ และฝึกให้เด็กได้เรียนรู้แบบตัวต่อตัว เพราะเด็กทุกคนล้วนมีความแตกต่างกันนั่นเองค่ะ

จึงทำให้ในระดับชั้นประถมศึกษาที่จะเปิดใหม่ในปี 2564 นี้ จะมีเด็กนักเรียนชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับโรงเรียนอื่นๆ ค่ะ ถือเป็นการเน้นการเรียนแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล

  • เพิ่มพื้นที่จินตนาการให้เด็กๆ ด้วย Open – Close Space

โรงเรียนอนุบาล MFF ไม่สนับสนุนให้เด็กนั่งเรียนอยู่ในห้องอย่างเดียว ดังนั้น จึงมีหลายห้องเรียนที่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ ทั้งส่วนที่เป็น Open Space และ Close Space ซึ่งให้เด็กๆ คอยเดินเปลี่ยนห้องเรียนทุกๆ คาบ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศอยู่ตลอดเวลา เพราะถือเป็นการฝึกการเคลื่อนไหวของร่างกาย และเป็นการออกกำลังกาย โดยที่เด็กยังไม่ทันได้รู้ตัว และไม่เบื่อเลย

“เรียนรู้อย่างรวดเร็ว ด้วยความสนุกสนาน ผ่านขบวนการดนตรี”

 

พาทัวร์หลักสูตรของโรงเรียนอนุบาล MFF โรงเรียน 2 ภาษา เอกดนตรีแห่งแรกในประเทศไทย

วันนี้ Parents One ได้มาเยือนโรงเรียนอนุบาล MFF เป็นครั้งแรก ซึ่งการเดินทางนั้นสะดวกมากๆ เลยค่ะ เพราะมีถนนหลายสายที่สามารถเชื่อมโยงกับโรงเรียนได้ ทั้งถนนทวีวัฒนา , ถนนอุทยาน รวมทั้งถนนพุทธมณฑล สาย 3 และสาย 4 คุณพ่อคุณแม่สามารถขับรถโดยใช้เวลานิดเดียวก็ถึงหน้าโรงเรียนดนตรีสุดน่ารักกันแล้วค่ะ

เมื่อมาถึงน้องๆ ก็เริ่มทยอยกันเข้าโรงเรียนกันแล้ว คาบแรกของที่นี่ เริ่มเวลา 9 โมงเช้าค่ะ เเละเลิกเรียนประมาณบ่าย 2 นั่นเอง เวลาของ 1 คาบเรียน อยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งจุดเด่นของการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาล MFF เลยก็คือ การที่เด็กได้เรียนไปพร้อมกับเสียงดนตรี และบทเพลงค่ะ  ไปดูกันเลยดีกว่า ว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง?

1. Storytelling สอนเด็กเรียนรู้จากเรื่องเล่านิทาน

กิจกรรมเเรกที่เราขอพาคุณพ่อคุณแม่ไปชม มีชื่อว่า “Storytelling” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ ตื่นจากความง่วงหงาวหาวนอนในตอนเช้า กิจกรรมนี้คุณครูจะเเต่งตัวเป็นสัตว์นานาชนิด เพื่อสร้างเรื่องเล่าจากนิทานแสนสนุก ให้เด็กๆ เกิดจิตนาการสร้างเสริมประสบการณ์ในการเรียนรู้ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ เสียงดนตรี ที่เข้ามาผสมผสานตลอดเวลา เพื่อให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกาย และฝึกทักษะการฟังนั่นเองค่ะ

 

2. ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กด้วยวิชา Drum Basic

อย่างที่บอกไปว่าโรงเรียนนี้เน้นการฝึกดนตรีแบบเข้มข้น เพื่อให้เด็กๆ ได้เล่นเครื่องดนตรีเป็นจริงๆ ซึ่งวิชานี้ ก็คือ การตีกลอง เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กของเจ้าตัวเล็ก และเพื่อให้เด็กรู้จังหวะของเสียงดนตรีค่ะ จากที่ดูจากท่าทางของเด็กๆ แล้ว คงจะชื่นชอบกันมากๆ ทั้งเด็กผู้ชาย และเด็กผู้หญิงเลยค่ะ เพราะว่าเขาได้มีอิสระในการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแขนในการตีกลองให้ตรงจังหวะนั่นเอง

 

3. เล่น Ukulele ผ่อนคลายอารมณ์ด้วยเสียงดนตรี

อูคูเลเล่ เครื่องดนตรีไม้ที่มีขนาดเล็ก แต่มีเสียงที่ไพเราะ และมีขนาดเหมาะสมสำหรับเด็กๆ เจ้าตัวน้อย ซึ่งสามารถเล่นได้ในทุกโอกาส โดยคุณครูจะเน้นในเรื่องการดีดอูคูเลเล่ให้ตรงกับตัวโน้ตในแต่ละตัวแบบพื้นฐานให้เด็กๆ ได้ลองเล่นจริง เมื่อเล่นบ่อยๆ ก็จะเกิดเป็นความเคยชิน จนสามารถจดจำ และเล่นเป็นบทเพลงได้นั่นเอง

 

4. ฟอร์มวง สร้าง Band วงดนตรีไปกับเจ้าตัวเล็ก

การมี Band หรือมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง คงเป็นความฝันสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดนตรีอย่างแท้จริง เมื่อคุณพ่อคุณแม่พาลูกมาเรียนที่นี่ ก็มีการฟอร์มวงดนตรีขึ้นมาจริงๆ นั่นเองค่ะ ซึ่งเด็กแต่ละคนจะร้อง และเล่นเครื่องดนตรีที่แตกต่างกันนั่นเอง ขึ้นอยู่กับความถนัดของเด็กว่าเขาอยากจะเลือกเล่นเครื่องดนตรีอะไรค่ะ

ภายในห้องอัดเสียงยังมีไมโครโฟน เพื่อเก็บเสียงของนักร้องตัวจิ๋วอย่างไพเราะ และชัดเจนอีกด้วย ขอบอกเลยว่า ห้องอัดที่นี่เหมือนกับของผู้ใหญ่มากๆ เลยค่ะ เรียกได้ว่า มีอุปกรณ์แบบครบครันจริงๆ

 

5. ฝึกภาษา English สุดเข้มข้นไปกับ Teachers

เนื่องจากโรงเรียนอนุบาล MFF เป็นโรงเรียน 2 ภาษา ซึ่งสอนทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษควบคู่กันไป แต่เมื่อถึงวิชาการฝึกภาษาอังกฤษก็เข้มข้น และสนุกสนานสุดๆ ไม่แพ้กัน เพราะว่าที่นี่มีการเล่นเกมฝึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และทักษะต่างๆ ให้เด็กได้เรียน และเล่นอย่างเต็มที่ค่ะ

การเรียนรู้ที่ดี ไม่ใช่แค่ต้องอาศัยการเตรียมตัวของคุณครูผู้สอนเพียงอย่างเดียว แต่ตัวผู้เรียนก็ต้องมีความพร้อม และสนใจอยากที่จะเรียนด้วยเช่นกันค่ะ

6. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ไปกับวิชาพละ (PE) แสนสนุก

การเล่นเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนใฝ่ฝัน โรงเรียนอนุบาล MFF จึงให้เด็กได้เล่นอย่างที่เขาต้องการ ด้วยวิชาพละศึกษา (PE) แสนสนุก ซึ่งที่นี่ก็มีสนามเด็กเล่น และเครื่องเล่นต่างๆ ที่ปลอดภัย เพื่อรอให้เด็กๆ มาเล่นสนุกกับเพื่อนๆ ฝึกกระชับความสัมพันธ์ในการเข้าสังคมนั่นเองค่ะ

กิจกรรมส่วนใหญ่ ก็คือ การฝึกกล้ามเนื้อแขน และขา รวมทั้งการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ โดยใช้เกมเป็นตัวกลาง เช่น การวิ่งไล่จับผ้าสีของเพื่อน เป็นต้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวล เพราะว่ามีคุณครูดูแลอยู่อย่างใกล้ชิดกับเด็กๆ แน่นอนค่ะ

 

7. ฝึกการพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ และฝึกเข้าสังคมด้วยวิชาภาษาไทย

แม้ว่าโลกจะหมุนเร็ว และประเทศจะให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษมากแค่ไหน แต่วิชาที่ใช้ภาษาไทยสอน ที่นี่ก็ยังคงเน้นเป็นหลักอยู่ดีค่ะ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ,  วิชาวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งจะใช้วิธีการที่แตกต่างจากการเรียนการสอนในรูปแบบการท่องจำแบบเดิมๆ เพราะนอกจากจะสอนให้เด็กฝึกพูดภาษาไทยให้ชัดถ้อยชัดคำแล้ว ยังฝึกการเข้าสังคมกับคนอื่นๆ ด้วย

 

8. เล่นสนุก ฝึกทุกการเรียนรู้ไปกับการทำอาหารในวิชา Cooking 

นอกจากนี้ยังมีวิชา Cooking ที่สอนให้เด็กๆ รัก และเปิดใจเรียนรู้ในการทำอาหาร กล้าลองทำในเมนูที่แปลกใหม่ ฝึกความประณีต และความละเอียดอ่อน ให้เป็นคนรู้จักใจเย็น พร้อมสนุกสนานกับเสียงดนตรีตลอดทั้งการทำอาหารค่ะ

9. ตะลุยดินแดนวิทยาศาสตร์ เมืองแห่งการทดลอง

อีกหนึ่งวิชาที่โรงเรียนอนุบาล MFF ให้ความสำคัญ ก็คือ วิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งความพิเศษของสถานที่อยู่ที่มีทั้ง Indoor – Ourdoor ค่ะ เพราะบางครั้งหากเด็กๆ มีการทดลองสิ่งเเปลกใหม่ หรือสารเคมีต่างๆ ก็มักจะทำที่แล็บข้างนอก เพื่อให้มีอากาศที่ถ่ายเท และปลอดโปร่งนั่นเองค่ะ

10. มื้ออาหารกลางวันแห่งความอร่อย และความสนุกสนาน

การทานอาหารกลางวันของเด็กๆ จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะมีทั้งคุณครู และคุณป้าแม่บ้านที่ดูแลเรื่องอาหารการกินให้ครบ 5 หมู่อย่างใกล้ชิด และถูกหลักโภชนาการ ที่สำคัญ เด็กๆ ต้องล้างมือก่อนทานอาหารทุกครั้ง เพื่อความสะอาด และปลอดภัยจากเชื้อโรคค่ะ

 

11. ร้อง เล่น เต้น อิ่ม ก่อนกลับบ้าน 

เมื่อถึงเวลากลับบ้านของเด็กๆ เราก็จะพบกับอีกหนึ่งกิจกรรมส่งท้าย นั่นก็คือ ร้อง เล่น เต้น อิ่ม ก่อนกลับบ้านค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กๆ รอกันมาอย่างเนิ่นนานทั้งวัน โดยจะมีคุณครูมาสร้างความบันเทิง พร้อมกับเสียงดนตรี และเสิร์ฟอาหารว่างให้เด็กๆ ทานเล่นระหว่างรอผู้ปกครองมารับกลับบ้านนั่นเอง

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการพาทัวร์หลักสูตรโรงเรียน 2 ภาษา เอกดนตรีแห่งแรกในประเทศไทย เรียนด้วยความสุข หัวเราะผ่านเสียงดนตรี ไปกับโรงเรียนอนุบาล Mark For Future ที่เราได้นำเสนอหลักสูตรการเรียนการสอน และวิชาต่างๆ ซึ่งถูกผสมผสานด้วยแนวคิด และวิธีการที่แตกต่างระหว่างวิชาการ และเสียงดนตรีให้เด็กๆ ได้เรียนอย่างมีความสุขมากขึ้น

หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดสนใจอยากพาลูกมาเรียนโรงเรียนอนุบาล Mark For Future ทั้งชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่แล้วล่ะก็ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : mffkindergarten

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save