fbpx

Iceberg Model เจาะภูเขาน้ำแข็ง สำรวจพฤติกรรม เข้าใจเรา..เข้าใจลูก

Writer : Phitchakon
: 16 กันยายน 2565

บ่อยครั้งที่พ่อแม่อย่างเราๆ สุดแสนจะเหนื่อยใจกับพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของลูก ไวกว่าความคิด เราเอ่ยปากตำหนิ ว่ากล่าว หรือแม้กระทั่งลงโทษ โดยไม่ทันได้ทบทวนให้ดีว่า “อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกแสดงออกแบบนั้น”

หรือแม้กระทั่งเราเองที่ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ พลั้งเผลอทำตัวไม่น่ารักกับลูก จนต้องมานั่งกุมหัวคิดวกวนตั้งคำถามกับตัวเองว่า “นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ย!”

วันนี้ Parents One มีเคล็ดลับมาบอกต่อ! ขอเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาเจาะลึกพฤติกรรมผ่านภูเขาน้ำแข็งของซาเทียร์ ขุดให้เจอต้นตอปัญหา ทำความเข้าใจตัวเองและผู้คนรอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าตัวน้อยที่เป็นดังแก้วตาดวงใจ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน

และนี่เป็นเพียงบทเรียนหนึ่งจากกิจกรรม Family Learning Class ห้องเรียนอ่านลูก ของ Club Sunshine x Daisy Ray ซึ่งที่นี่ยังคงมีกิจกรรมดีๆ อีกมากมาย รอให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาเรียนมารู้เพื่อสร้างเสริมความเข้าใจ เชื่อมสายสัมพันธ์ในครอบครัวให้แข็งแรง สามารถติดตามได้ที่เพจ Daisylearninggarden

ถ้าพร้อมแล้ว คว้ากระดาษและปากกา มาเริ่มขุด เจาะ กะเทาะ ค้นหาความจริงจากภูเขาน้ำแข็งกันเลย!

ภูเขาน้ำแข็งของเวอร์จิเนีย ซาเทียร์

เวอร์จิเนีย ซาเทียร์ เป็นนักจิตวิทยาหญิงชาวอเมริกัน ผู้ได้รับการขนานนามว่า “มารดาแห่งจิตบำบัดครอบครัว” มีชีวิตอยู่ระหว่างปีค.ศ.1916-1988 เธอมองว่าคนเราก็เหมือนภูเขาน้ำแข็ง มองกันแต่ภายนอกก็เห็นเพียงยอดเล็กจิ๋ว แต่ตัวตนและความรู้สึกที่แท้จริงนั้นยิ่งใหญ่อยู่ใต้น้ำต่างหาก และที่สำคัญ คน=คน ถ้าเราหงุดหงิด โมโห มีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็น ลูกเองก็ไม่ต่างกัน

สำหรับ Iceberg Model ของซาเทียร์จะใช้ภูเขาน้ำแข็งเป็นตัวแทนจิตใจ ถอดความซับซ้อนในจิตใจออกมาเป็นชั้นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจพฤติกรรมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำเพื่อทบทวนตัวเองหรือทำความเข้าใจลูกก็ได้ค่ะ

พฤติกรรม (Behaviour)

คือ พฤติกรรมที่แสดงออก หรือท่าทีที่ใช้รับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า อาจจะเป็นพฤติกรรมไม่ดีที่เรารู้สึกไม่พอใจ ไม่ชอบในตัวเอง-ตัวลูก หรือเหตุการณ์ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างกันในครอบครัว ให้เขียนเอาไว้บนยอดภูเขาน้ำแข็ง ตั้งเป็นโจทย์ แล้วเราจะมาหาที่มาที่ไปของพฤติกรรมนี้ตามระดับชั้นที่ลึกลงไป

ความรู้สึก (Feeling)

ความรู้สึกเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ทำบางสิ่งบางอย่าง และเมื่อไรก็ตามที่เกิดเหตุการณ์อะไรสักอย่างก็ทำให้เราเกิดความรู้สึกต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน ลองพิจารณาดูนะคะว่าพฤติกรรม หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราหรือลูกรู้สึกอย่างไรบ้าง เช่น หงุดหงิด เหงา เศร้าใจ โมโห เจ็บปวด

ความรู้สึกต่อความรู้สึก (Feeling about Feeling)

นอกจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเราทำพฤติกรรมดังกล่าว อาจมีหลายๆ ความรู้สึกต่อเนื่องมาด้วย ให้พยายามหาความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อจากความรู้สึกเหล่านั้น หลังจากโกรธ แล้วรู้สึกผิดด้วยหรือเปล่า น้อยใจ เสียใจที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วยหรือไม่ เราจะเริ่มเข้าใจตัวเองและลูกมากยิ่งขึ้น

การรับรู้ ทัศนคติ (Perception)

มาสำรวจตัวเองกันว่าเรามีมุมมองต่อสิ่งต่างๆ อย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีความคิดเห็นแบบไหน โดยแบ่งเป็นทัศนคติที่มีต่อตัวเอง คนอื่น รวมถึงโลกและบริบทรอบตัว ซึ่งทัศนคติเหล่านี้มาจากประสบการณ์ในชีวิตที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราจนทุกวันนี้ ในขณะเดียวกัน ลูกที่มองเราเป็นต้นแบบอยู่เสมอก็จะได้รับอิทธิพลจากทัศนคติเหล่านั้น และมีความคิด ความเชื่ออะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับเรา แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวนะคะ ถ้าได้ลองพูดลองคุยอาจจะได้ทำความรู้จัก ทำความเข้าใจลูกมากขึ้นก็เป็นได้

ความคาดหวัง (Expectations)

ทุกวันนี้เราคาดหวังอะไรบ้างนะ อยากทำอะไร อยากเป็นอะไร อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดำเนินไปแบบไหน แบ่งออกเป็นความคาดหวังที่มีต่อตัวเอง คนอื่น โลกและบริบทรอบตัวเช่นเดียวกันกับทัศนคติ

เราควรจะรู้เท่าทันความคาดหวังของตนเองเพื่อหาสมดุล ไม่ผูกติดกับความคาดหวังมากจนเกินพอดี เพราะหากเราผิดหวังขึ้นมาอาจเป็นบาดแผลฝังลึก ย้อนกลับมาทำร้ายเราได้เรื่อยๆ และอย่าลืมที่จะช่วยลูกรับมือกับความคาดหวังของเขาด้วยนะคะ

ตัวตน (Self)

ชั้นสุดท้ายท้ายสุดของภูเขาน้ำแข็ง คือตัวตนลึกๆ ที่เป็น ซึ่งซาเทียร์เรียกว่า “พลังชีวิต” และบางคนเรียกว่าจิตวิญญาณ หรือความสามารถในการรับรู้ ไม่ใช่แค่สิ่งที่เราแสดงออก ไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่พยายามจะเป็น แต่คือสิ่งที่เราเป็นจริงๆ

เติมอาหารใจ เพิ่มพลังชีวิต

ร่างกายจะเติบโตแข็งแรงก็ต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ต่างอะไรกับจิตใจที่ต้องการสารอาหารหล่อเลี้ยงให้แข็งแรงเหมือนกัน และเมื่อเราเจาะภูเขาน้ำแข็งจนถึงชั้นสุดท้าย เราจะค้นพบสิ่งที่เราหรือลูกต้องการ

ทางแก้ไข คือเติมอาหารใจในส่วนที่ขาด หมั่นให้อาหารใจครบทุกหมู่อย่างเหมาะสม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และต้องไม่ลืมเติมอาหารใจให้กับตัวเองด้วยนะคะ เพราะถ้าเราขาดอาหารใจ พลังชีวิตหดหาย ลูกเราก็อาจสั่นคลอนตามไปด้วย ใจเราไม่แข็งแรง ลูกก็ไม่แข็งแรงตาม

โดย อาหารใจ 10 หมู่ ได้แก่

  • ความรัก
  • การเห็นคุณค่า
  • การยอมรับ
  • การชื่นชม
  • ความใกล้ชิด
  • เชื่อมโยงสัมพันธ์ทางใจ
  • อิสระเสรี
  • ความเป็นพวกเดียกวัน
  • ความมั่นคง
  • ความสงบ

เข้าใจเรา..เข้าใจลูก

  • วาดภูเขาน้ำแข็ง
  • จับเข่าพูดคุย
  • ตรวจสอบความเข้าใจ
  • เสริมอาหารใจ

การเขียนภูเขาน้ำแข็งทำให้เราเข้าใจการกระทำของตัวเองมากขึ้น ก่อนที่จะรู้ตัว อารมณ์คุกรุ่นอาจจะเบาบางลง และหายไปขณะกำลังเขียนภูเขาน้ำแข็งก็ได้ แต่ในการทำความเข้าใจลูกอาจจะไม่เพียงพอ เพราะเราเขียนภูเขาน้ำแข็งของลูกขึ้นมาด้วยความคิดเห็นของเราเอง คิดว่าลูกจะรู้สึกแบบนั้น คิดว่าลูกจะมีทัศนคติแบบนี้

ฉะนั้น แทนที่จะด่วนสรุปตัดสิน เราควรหยิบสิ่งที่เขียนขึ้นมาได้ มาตั้งคำถามพูดคุยกับลูกเพื่อสะท้อนความรู้สึกที่แท้จริง เช่น “ลูกรู้สึกโกรธอยู่ใช่ไหม” (ความรู้สึก) “นอกจากโกรธแล้ว หนูยังเสียใจที่รู้สึกโกรธด้วยใช่หรือเปล่า” (ความรู้สึกบนความรู้สึก) “หนูไม่ชอบทำการบ้านเหรอคะ” (ทัศนคติ)

ยิ่งเราให้เวลากับการตั้งคำถามพูดคุยมากเท่าไร ก็ยิ่งค้นพบสิ่งซ่อนเร้นที่อยู่ภายในใจของลูก ยิ่งรู้จักลูกมากขึ้นเท่านั้น ในช่วงแรกอาจจะยากลำบากไปบ้าง แต่ถ้าอาศัยการฝึกฝนเป็นประจำสม่ำเสมอ คุณพ่อคุณแม่ก็จะใช้ภูเขาน้ำแข็งได้เชี่ยวชาญและเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสามัญประจำบ้านที่จะได้หยิบมาใช้บ่อยๆ แน่นอนค่ะ

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save