fbpx

NEWS: พ่อแม่ต้องเข้าใจ ลูกพูดไม่ชัดแก้ไขได้ ควรเป็นแบบอย่างอย่าล้อเลียน

Writer : Lalimay
: 10 มีนาคม 2563

คุณพ่อคุณแม่คนไหนมีปัญหาเจ้าตัวเล็กพูดไม่ชัดไหมคะ ตามปกติแล้วพัฒนาการในเด็ก อายุ 2-4 ขวบ จะยังพูดไม่ชัดทุกเสียง ถ้า 4 ขวบขึ้นไปแล้วพูดไม่ชัดในเสียงที่ควรจะพูดได้ เช่น เสียงพยัญชนะ ม, น, ห, อ, ค, ย เป็นต้น พ่อแม่ควรจะพาเด็กมาพบนักแก้ไขการพูด

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เด็กเป็นวัยที่มีการเรียนรู้และมีพัฒนาการในการพูด การออกเสียง เป็นไปตามช่วงอายุ แต่อาจพบได้ว่าเด็กบางคนเมื่อถึงวัยที่เหมาะสมกลับพูดไม่ชัด ซึ่งเป็นความผิดปกติของ การเปล่งเสียงพูดทั้งเสียงสระ พยัญชนะ และเสียงวรรณยุกต์ โดยสาเหตุเกิดจาก 

1.ความบกพร่องของอวัยวะในช่องปากและใบหน้า เช่น เอ็นยึดใต้ลิ้นสั้น ปากแหว่ง เพดานโหว่

2.ความบกพร่องในการทำงานของอวัยวะที่ใช้ในการพูด

3.ความบกพร่องของระบบประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว จะมีปัญหากล้ามเนื้อที่ใช้ในการพูด เช่น ลิ้น ริมฝีปาก เพดานอ่อน ฯลฯ อ่อนแรง 

4.ภาวะสมองพิการ พบได้ในเด็กสมองพิการซึ่งมีปัญหาการเคลื่อนไหวร่างกาย จึงส่งผลต่อกลไกการเคลื่อนไหวอวัยวะที่ใช้ในการพูด 

5.ความบกพร่องทางการได้ยิน เด็กที่มีปัญหาการได้ยินเสียงจะทำให้พูดออกเสียง ไม่ชัดด้วย 

6.การเรียนรู้การพูดที่ไม่ถูกต้องเนื่องจากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น เด็กเลียนแบบคนใกล้ชิดที่พูด ไม่ชัดจนติดเป็นนิสัย 

7.ภาวะความบกพร่องอื่นๆ เช่น เด็กที่มีภาวะปัญญาอ่อน เด็กกลุ่มออทิสติก เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เป็นต้น 

เมื่อพบว่าลูกมีอายุถึงช่วงวัยที่ควรจะพูดชัด แต่กลับพูดไม่ชัดก็ควรพาไปพบนักแก้ไขการพูด นอกจากนี้พ่อแม่ก็ควรเป็นแบบอย่างการพูดที่ถูกต้องและชัดเจนให้แก่เด็ก ไม่ล้อเลียน หรือพูดตามอย่างเด็ก เตือนเด็กเมื่อพูดไม่ชัด ถ้าแก้ไขได้ให้พูดใหม่ช้าๆ แต่ไม่ต้องเตือนทุกครั้งหรือบังคับมากเกินไปจนทำให้เด็กเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตนเองและไม่อยากที่จะพูดอีกเพราะกลัวพูดผิด พ่อแม่ควรพาเด็กมาฝึก ตามนัดและกระตุ้นให้เด็กฝึกพูดตามแบบฝึกหัดที่นักแก้ไขการพูดแนะนำอย่างสม่ำเสมอ

.

อ้างอิงจาก

http://www.dms.moph.go.th/Content/Select_Landding_page?contentId=20616

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save