fbpx

ทำไมเด็กสิงคโปร์ถึงเก่งทุกด้าน 12 ข้อเจาะลึกรูปแบบการศึกษา แบบฉบับเด็กสิงคโปร์

Writer : Mneeose
: 31 ตุลาคม 2561

ปัญหาของคุณพ่อคุณแม่สมัยนี้ นอกจากเรื่องสุขภาพของลูกแล้ว การศึกษาก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน หลายๆคน จึงลังเลอยากส่งลูกไปเรียนที่ต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ เพราะประเทศเล็ก แต่มีคุณภาพแห่งนี้มักได้รับการันตี และมีชื่อเสียงที่ดีในการเรียนอยู่แล้ว วันนี้เราจึงจะมาเจาะวิเคราะห์กับระบบการศึกษาของเด็กสิงคโปร์กันค่ะ ว่าที่จริงแล้วเด็กสิงคโปร์เรียนเก่งและเป็นเด็กดีนั้น เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง

1.การเรียน ไม่ใช่ การแข่งขัน

สิงคโปร์ไม่ได้มุ่งเน้นให้เด็กเรียนเพื่อที่จะมาแข่งขันกัน แต่เป็นการเรียนเพื่อที่จะ “รู้” สู่การเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพตลอดชีวิต เกรดจึงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อคุณอายุยังน้อย แต่การเข้าสังคม และทำกิจกรรมต่างหากที่เด็กทุกคนต้องเรียนรู้ เพื่อใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี

2.ไม่มีการจัดอันอันดับลงในสมุดพก

เพื่อให้เด็กไม่ยึดติดกับเกรด/ผลการเรียนมากเกินไป จนเกิดความเครียดสะสมตั้งแต่เด็ก และเพื่อไม่เป็นการกดดันชีวิตเด็ก สิงคโปร์กลับปล่อยให้เด็กมีอิสระในการใช้ชีวิต เรียนรู้สิ่งรอบตัวเสียมากกว่า

3.ไม่ใช้การบังคับ แต่ให้นักเรียนฝึกพัฒนาการเรียนของตัวเอง

เพื่อลดความท้อแท้จากการเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมชั้น สิงคโปร์กลับอยากให้รู้สึกว่าเด็กแต่ละคนเก่งกันคนละแบบ ถนัดคนละเรื่องเท่านั้นเอง เมื่อเด็กมีความสนใจด้านใดด้านหนึ่งเฉพาะ เขาจะมีแรงกำลังใจในการฝึกฝนพัฒนาการของตัวเองไปเรื่อยๆ จนเก่งขึ้นเป็นที่สุดในเรื่องที่พวกเขาชอบ

4.เด็กป.1 ถึงป.3 จะไม่มีการสอบ

เด็ก ป.1 ถึงป.3 จะไม่มีการสอบใดๆ ในชั้นเรียน แต่คุณครูจะมีงานให้ทำในชั้นเรียน เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ และให้ข้อเสนอแนะแทน ซึ่งการวัดผลแบบใหม่จะดูที่พัฒนาการของเด็กตลอดทั้งปี ซึ่งมีรูปแบบหลากหลาย เช่น การทดสอบในห้องเรียน การนำเสนอผลงาน หรือการทำโครงการร่วมกับเพื่อนๆ โดยจะไม่มีการระบุว่าสอบได้ที่เท่าไหร่ของห้อง และชั้น

5.ลดการสอบปลายภาค เพื่อให้เด็กมีเวลาว่าง

เด็กที่มีระดับชั้นที่สูงขึ้น จะมีการทยอยลดการสอบปลายภาค เพื่อให้เด็กได้มีเวลาว่างที่โรงเรียนไปทำในสิ่งที่อยากทำ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความสนุกในการเรียนรู้และการศึกษา รวมทั้งทำให้คุณครูมีเวลามากขึ้นในการพัฒนาทักษะตัวเอง และเตรียมเนื้อหาที่ดีมาสอนให้กับเด็กๆ

6.มีการปรับรายวิชา สร้างแรงผลักดันในการเรียน

การปรับเปลี่ยนรายวิชาบางวิชา เพื่อสร้างแรงผลักดันในการเรียนด้วยตัวเอง เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความสนใจหรือความชอบที่แตกต่างกัน การที่เด็กสามารถเลือกเรียนวิชาด้านที่ตัวเองถนัด ทำให้เด็กรู้สึกอยากเรียน ตั้งใจ และให้ความสนใจมากขึ้น

7.ครูคุณภาพ สร้างเด็กคุณภาพ

อาชีพครูของประเทศสิงคโปร์ถือเป็นอาชีพที่เด็กต้องการทำงานมากที่สุด เพราะครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติสูง และได้รับการยอมรับในสังคมมาก งานดี รายได้ดี แก่ตัวมามีสวัสดิการณ์รองรับ รัฐบาลช่วยเต็มที่ ประเทศสิงคโปร์จึงมีครูที่มีคุณภาพสูง ทำให้เขาสร้างเด็กที่มีคุณภาพได้นั่นเอง อาชีพครู จึงเป็นส่วนสำคัญที่สุดของระบบการศึกษาในสิงคโปร์

8.รัฐบาลพร้อมสนับสนุน และมีงบประมาณลงทุนให้กับการศึกษา

รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญ และมุ่งเน้นเรื่องการศึกษาอย่างไม่หยุดพัก ลงทุน ลงแรง และให้งบประมาณมากมาย เช่นเดียวกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตของประชาชน ปัจจัยนี้จึงอาจจะเป็นปัจจัยหลักที่ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์มีความโดดเด่นเรื่องการเรียนการสอน จนเด็กประเทศอื่นๆ ต้องแห่มาเรียนกัน

นั่นจึงทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่น่าชื่นชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยที่ทุกโรงเรียนในประเทศสิงคโปร์นั้นควบคุมโดยกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง

9.เรียนฟรี/จ่ายน้อยมาก

สิงคโปร์มีนโยบายว่าเด็กทุกคนจะต้องมีโอกาสในการศึกษาที่ “เท่าเทียมกัน” นั่นส่งผลให้ค่าเทอมในการเรียนแทบจะเป็นศูนย์ หรือเรียนฟรีนั่นเอง หรือหากโรงเรียนต้องการให้จ่ายเพิ่ม จะใช้เงินเพียงเล็กน้อย

10.เด็กสิงคโปร์มีสิทธิ์ในการเรียน เท่าเทียมกัน

เด็กสิงคโปร์จะไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติได้ ถ้ารัฐบาลไม่อนุมัติ เพราะไม่อยากให้เกิดการแบ่งแยก คนรวยไปเรียนนานาชาติ หรือไม่อยากให้รู้สึกว่านานาชาติดีกว่าโรงเรียนรัฐค่ะ ทำให้ทุกคนมีสิทธิ์ในการเรียนโรงเรียนที่มีคุณภาพดีเท่าๆกัน

11. สิงคโปร์เน้นเรียนคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาแม่ เป็นหลัก

“สิงคโปร์” นครรัฐที่มีประชากรเพียง 5.5 ล้านคน มักจะติดอันดับท็อปของโลกเมื่อเปรียบเทียบกันด้วยความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ และยังเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่น่าชื่นชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะเขาเน้น 3 วิชาหลัก นั่นคือ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาแม่ (ใครมีเชื่อสายมาเลย์ ก็เรียนภาษามาเลย์ ใครมีเชื้อสายจีน ก็เรียนภาษาจีน)

สิงคโปร์ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน แม้คนในชาติจะมีทั้งจีน, อินเดีย, มาเลเซีย และอีกมากมาย แต่ทุกคนต้องใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นภาษาหลัก ระบบการแบ่งชั้นเรียนก็คล้ายๆ ไทย คือมีอนุบาล, Primary School 6 ปี (ประถม), Secondary School 5 ปี (มัธยม) และเข้ามหาลัย

ส่วนวิชาวิทยาศาสตร์เด็กจะเริ่มเรียนตอนชั้น ป.3 สำหรับวิชาเสริมอื่นๆ เช่น สังคมศึกษา ประวัติศาสตร์สิงคโปร์ สุขศึกษา ดนตรี ศิลปะ พละ ความรู้ทั่วไป และวิชาที่เกี่ยวกับศีลธรรม เขาจะให้เด็กเรียนโดยที่ไม่เน้นการทดสอบจริงจังแบบ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาแม่ คุณครูอาจจะให้นักเรียนทำรายงานกลุ่ม ทำ Project หรือจัดการแสดง แทนการสอบด้วยข้อสอบ

12.วางรากฐานการศึกษา สำคัญเสมอ

ประเทศสิงคโปร์ได้วางรากฐานการศึกษาและให้ความสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงประถมศึกษา ให้เด็กเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เกิด และใช้ตำราเรียนจากฝรั่ง ทั้งอังกฤษ, อเมริกา ทำให้เด็กที่สิงคโปร์ได้รับการเรียนรู้ในเชิงตำราเท่าเทียมกับเด็กอังกฤษ ไม่เน้นหัวข้อในการเรียน แต่เน้นความลึกของเนื้อหา

จบกันไปแล้วค่ะ สำหรับ 12 ข้อเจาะลึกว่าทำไมประเทศสิงคโปร์เด็กถึงเก่งจนติดระดับโลก เพราะว่าได้รับการให้ความสำคัญอย่างมากจากรัฐบาลนั่นเองค่ะ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาของสิงคโปร์ บอกด้วยว่าโลกในวันข้างหน้า เป็นสิ่งที่ยากแก่การคาดเดา เพราะฉะนั้นการศึกษาที่เตรียมนักเรียนให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง มีทักษะที่ยืดหยุ่น พร้อมปรับตัว และมีมุมมองต่อโลกแบบสากลจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงมุ่งหวังอยากให้ประเทศไทยของเรา เรียนรู้และพัฒนาระบบการศึกษาเช่นเดียวกับสิงคโปร์ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :  Khajochi Blog
motherandcare

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save