fbpx

14 วิธีรักษาชีวิตคู่ ให้ยืนยาวเเละยั่งยืน

Writer : Mookky TCN
: 9 กุมภาพันธ์ 2561

 

ความรักก็เหมือนต้นไม้ ที่เมื่อนำมาปลูกเเล้วต้องดูแล รดน้ำ ให้เติบโตไปอย่างสวยงาม วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ในการดูเเลชีวิตคู่ให้ยืนยาวยั่งยืนมาฝากกันค่ะ

1. ให้เวลาส่วนตัว

อนุญาตให้เเฟนของคุณมีเวลาของตัวเอง เพื่อให้อีกฝ่ายได้ใช้เวลากับเพื่อน ครอบครัว ของตัวเอง ถึงเเม้ว่าจะไม่ได้ตัวติดกันตลอด เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการทิ้งกัน เราควรแบ่งเวลาออกเป็น “เวลาของเธอ” “เวลาของฉัน” เเละ “เวลาของเรา” เพราะการมีเวลาส่วนตัวสำหรับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว ของเเต่ละฝ่ายสำคัญมาก การได้ใช้เวลากับคนที่สนิททำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา เเละมีสุขภาพจิตที่ดี ผ่อนคลาย

2. ไม่พยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่น

อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคู่ของคุณ เพราะทุกคนมีเอกลักษณ์ ความคิด เป็นของตัวเองอยู่เเล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเคยบอกเอาไว้ว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ แนวคิด ความเชื่อทางศาสนา ความสนใจ เเละงานอดิเรกที่สำคัญได้ ให้พยายามเปิดใจยอมรับความเป็นตัวตนของกันเเละกันแทน

3. อย่าลืมความมีชีวิตชีวา

หมั่นสร้างความสนุกให้กับชีวิตคู่อยู่เสมอ ถึงเเม้จะเป้นคู่ที่อยู่ด้วยกันมานานเเล้ว เเต่ก็สามารถหาอะไรสนุกๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีสาระทำร่วมกันได้ อาจจะเล่นมถขฮาๆ ใส่กัน หรือเล่นสนุกด้วยแบบเด็กๆ ก็ได้นะ

4. ใช้คำว่า “เรา”

นักวิจัยพบว่าการที่คู่รักใช้คำว่า “เรา” จะมีความสุข ความสบายใจ มากยิ่งขึ้นเมื่อต้องสื่อสารกัน เเละยังทำให้พอใจในความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้นกว่าการใช้คำว่า “เธอ” , “ฉัน” เพราะเมื่อพูดถึงคำว่า “เรา” จะเหมือนการเชื่อมโยงในจิตใต้สำนึกให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องของ “เธอกับฉัน” แทนคนใดคนหนึ่ง นั่นทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักเเข็งเเกร่งมากขึ้น

5. ใช้สัดส่วน 3:1

คนทั่วไปเข้าใจกันว่าในหนึ่งวันย่อมมีทั้งประสบการณ์บวก เเละประสบการณ์ลบ เเต่ขอเพียงเเค่ตัวเองมีประสบการณ์เชิงบวกมากกว่าลบก็พอเเล้ว เเต่ผลการวิจัยพบว่าอัตราส่วนที่ดีสำหรับความสัมพันธ์คือ 3: 1 นั่นคือคุณต้องมีประสบการณ์ที่ดีสามส่วนกับคู่รักของคุณ ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าประสบการณ์เชิงลบ อัตราส่วนนี้ทำให้ความรักราบรื่น เเละมีความสัมพันธ์ที่ดี

6. มองจุดดี

ดร. Terri Orbuch ได้ดำเนินการศึกษาระยะยาวตั้งแต่ปีพ. ศ. 2529 เกี่ยวกับการสร้างความสุขของคู่รัก จากผลการวิจัยเธอพบว่าคู่รักที่มีความสุขจะมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่กำลังดีในความสัมพันธ์มากกว่าการมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หรือหากเมื่อมีเหตุการณ์ลบๆ เกิดขึ้น คู่รักก็จะพูดถึงในทางบวกมากกว่าเเทน ซึ่งเทคนิคนี้สามารถนำมาปรับใช้ได้กับความสัมพันธ์ของเรา เช่น  ถ้าคู่ของคุณเป็นคนไม่เป็นระเบียบเเทนที่จะบ่นก็ลองพูดกับเขาว่า  “ฉันมีความสุขมากกับการได้กลับมานอนในบ้านที่เป็นระเบียบ เรามาช่วยกันจัดบ้านให้น่าอยู่กันเถอะ “

7. ฟังอย่างตั้งใจ

ตั้งช่วงเวลาเวลาดีๆ ที่เหมือนเป็นของขวัญให้กันเเละกัน โดยตั้งชั่วโมงสำหรับรับฟังคู่รักของคุณ ทำให้เป็นทางการทุกสัปดาห์ โดยอาจเป็นในบ้านของคุณเองหรือในสถานที่เล็ก ๆ ที่เงียบสงบ การฟังกันเเละกันจะทำให้เข้าใจกันมากขึ้น

8. จำไว้ว่าชีวิตรักของเราไม่ใช่หนัง

ด้วยความที่เดี๋ยวนี้มีหนังรักซึ้งๆ เต็มไปหมด การดูเยอะๆ ก็ทำให้เกิดอาหารอินจนอยากให้ชีวิตรักของตัวเองเป็นแบบนั้นบ้างเหมือนกัน เเต่อย่าลืมว่าในภาพยนต์หนึ่งเรื่องมีความยาวเพียงเเค่ 90 นาทีเท่านั้น เป็นเหมือนการสรุปย่อๆ มารวมกัน เเต่ในชีวิตจริงต้องเจอเรื่องราวหลากหลายปนกันไป ควรพอใจไปกับความสัมพันธ์ของคุณเเละปล่อยความคาดหวังว่ามันจะต้องเป็นเหมือนกับฉากรักโรเเมนติกทิ้งไป

9. เเค่เพราะไม่ชอบ ไม่ได้แปลว่าไม่รัก

บางครั้งอาจจะมีอารมณ์ไม่ชอบในสิ่งที่คู่รักของคุณทำ เเต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่รักเขา เพราะในชีวิตจริงไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปหมด ให้เข้าใจว่าถึงบางครั้งจะมีอารมณ์ไม่ชอบเล็กๆ น้อยๆ ปะปนมาบ้าง เเต่ความรักก็ยังคงอยู่ดี

 

10. ปฎิบัติต่อกันด้วยความเคารพ

ปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ การรักษาซึ่งกันและกันด้วยความเคารพจะช่วยให้คุณและคนอื่น ๆ สร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ยาวนานและมีความสุข ต่อไปนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องอื่น ๆ ของคุณ ให้พยายามทำกับผู้อื่นเหมือนที่ต้องการให้ผู้อื่นทำกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจอะไรก็ควรให้ความสำคัญด้วยการถามความเห็นของอีกฝ่ายอยู่เสมอๆ ด้วย

11. ความรักต้องการการเอาใจใส่

ความรักก็เหมือนต้นไม้ ต้องการการรดน้ำ เอาใจใส่ดูเเลอย่างสม่ำเสมอ การเลือกจะรักใครสักคนเป็นทางเลือกของความสัมพันธ์ที่ต้องการการรดน้ำ ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งพิเศษให้กันทุกวัน เเต่เเค่ทำอะไรเล็กๆ ให้กันบ่อยๆ ก็ดีเเล้ว

12. จัดการเรื่องการเงินให้ดีๆ

เรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่อีกอย่างในชีวิตคู่ ซึ่งคู่รักควรเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องเงินด้วยกัน ไม่ใช่เเค่คนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่ต้องรับภาระเอาไว้ การคิดแบบนี้ยังทำให้มีการทำงานเป็นทีมในการวางแผนด้านการเงิน หรือหากอยากซื้อสินค้าใหญ่ๆ เข้าบ้านก็ควรคุยกันก่อน เพราะถึงเเม่จะเป็นเงินในส่วนของตัวเอง เเต่ก็ควรถามความเห็นว่าคู่รักของเราชอบใจมั้ยที่จะมีทีวีเครื่องใหญ่มาวางไว้ที่บ้าน นอกจากนั้นถ้าเรื่องการเงินเเข็งเเรงก็ช่วยทำให้ความสัมพันธ์เเข็งแรงด้วย ถ้ามีเงินเก็บเพียงพอ สภาพคล่องทางการเงินดี ก็ช่วยให้ชีวิตคู่ราบรื่นไปได้มาก

13. ติดภาพคู่เเสดงความรัก

หาภาพคู่ในโมเมนต์ที่กำลังมีความสุขด้วยกันมาติดไว้ในมุมที่เห็นได้ง่ายๆ เเล้วเขียนโน๊ตติดไว้ข้างๆ โดยอาจจะเขียนคำดีๆ ว่า “ดีใจที่ได้อยู่ด้วยกัน” “ผม/ฉัน มีความสุขมากๆ” “ฉันรักคุณ” ซึ่งการทำแบบนี้เป็นเหมือนการย้ำจิตใต้สำนึกให้คิดถึงเเต่เรื่องดีๆ เพราะเเค่เห็นก็รู้สึกมีความสุขเเล้ว 😀

14. ขอโทษกันเเละกันเสมอ

ถึงเเม้บางครั้งอาจมีเหตุการณ์ที่สั่นคลอนความไว้ใจเข้ามาทดสอบชีวิตคู่บ้างจนทำให้ความไว้ใจที่มีค่อยๆ ลดลง เเต่จงเปิดโอกาสให้คู่ของคุณได้อธิบายตัวเเอง เเละจบด้วยการขอโทษกันเเละกันเสมอ เป็นการปล่อยความโกรธทิ้งไป เเะลโฟกัสที่ความสำคัญของความสัมพันธ์ของคู่เรามากกว่า


daringtolivefully

wikihow

pairedlife

 

Writer Profile : Mookky TCN

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



5 วิธีที่คุณพ่อเล่นกับลูกได้
ชีวิตครอบครัว
สิ่งที่จะทำให้ฉันมีความสุข
ชีวิตครอบครัว
15 สิ่งดีๆ ที่พ่อทำเพื่อแม่ได้
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save