fbpx

8 เทคนิคเลือกของเล่นให้เด็กวัยหัดเดิน

Writer : buubae
: 10 สิงหาคม 2561

ของเล่นกับเด็กถือว่าเป็นของคู่กันเวลาที่คุณพ่อคุณแม่เดินห้างไปในโซนของเล่นก็มีของเล่นหลายๆอย่างที่น่าซื้อให้ลูกเล่นแต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าของเล่นแบบไหนถึจะเหมาะกับเด็กเล็กวัยหัดเดินล่ะวันนี้ลองมาดูเทคนิคการเลือกกันดีกว่า

เลือกของเล่นที่เล่นได้หลายแบบหลายวิธี

เด็กๆ ในวัยนี้รักในการจับต้องของต่างๆ ทั้งประกอบ ต่อเติม ดึงเข้า ดึงออก เพราะฉะนั้นของเล่นที่เลือกควรจะเป็นของเล่นที่สามารถเล่นได้หลายแบบเพื่อเสริมจินตนาการเด็กๆ เช่น ของเล่นจำพวกตัวต่อต่างๆ หรือบล็อคไม้เพื่อให้เด็กๆ ต่อเป็นถนน สวนสัตว์ สะพาน หรือแม้กระทั่งยานอวกาศ ก็ยังได้

เลือกของเล่นที่เด็กโตขึ้น สามารถเล่นได้อยู่

คุณพ่อคุณแม่มักเจอปัญหาที่พอซื้อของเล่นแล้วลูกๆ ก็เล่นแค่วันสองวันก็เบื่อ แล้วไม่กลับไปเล่นอีกเลย เพราะฉะนั้นควรซื้อของเล่นที่สามารถเล่นได้หลายช่วงวัย เช่น ถ้าซื้อของเล่นพวกโมเดลสัตว์ตัวเล็กๆ เด็กวัยหัดเดินก็จะเล่นสนุกในแบบของเขา อาจจะมีการสร้างบ้านให้สัตว์ต่างๆ แต่พอเด็กโตขึ้นมาอีกหน่อย ก็อาจจะใช้สัตว์ตัวเล็กๆ มาแต่งเรื่องราวต่างๆ ตามความคิดและจินตนาการนั่นเอง..

เลือกของเล่นที่เสริมทักษะการสำรวจและการแก้ไขปัญหา

การเล่นทำให้เด็กๆ ได้รับโอกาสฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ของเขา และของเล่นก็จะเป็นส่วนช่วยฝึกฝนทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจ ตรวจสอบว่าของเล่นที่ตัวเองเล่นคืออะไร วิธีเล่นเป็นแบบไหน อาจจะมีการสอนวิธีเล่นจากคุณพ่อคุณแม่บ้างเล็กน้อย หรือบางอย่างเด็กๆ ก็จะเรียนรู้วิธีเล่นเองก็มี เช่น ของเล่นที่ให้เด็กๆ เรียนรู้ถึงรูปทรง ขนาด ว่าอะไรเป็นอะไร อันไหนใส่ช่องไหน หรือพวกของเล่นที่มีกลไกเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ถึงวิธีการใช้งาน ที่ของเล่นบางอย่างอาจจะเป็นการให้เด็กคุ้นเคยกับการออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนเล็กๆ ไปด้วย

เลือกของเล่นที่สร้าง จินตนาการให้เด็กๆ

ในช่วงอายุ 3 ขวบ เด็กๆ เริ่มมีจินตนาการเพิ่มมากขึ้น และแสดงออกมาในรูปแบบของนักเล่าเรื่องที่มักจะหยิบจับสิ่งของต่างๆ มาเล่า หรือมาเล่นบ่อยขึ้น ของเล่นที่คุณพ่อคุณแม่ที่หามาให้เด็กๆ เล่นในช่วงอายุนี้ก็ควรจะเป็นของเล่นที่สามารถต่อยอดจินตนาการเด็กๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นพวกตุ๊กตาที่เปลี่ยนชุดได้ โมเดลของเล่นชิ้นเล็กๆ ต่างๆ นานา หรืออาจจะชวนเด็กๆ มาทำของเล่นด้วยกันก็ได้ อย่างเอากระดาษลังมาทำเป็นบ้าน หรือเอาตระกร้ามาทำเป็นปราสาทก็แล้วแต่ความคิดของเจ้าตัวเล็กนั่นเอง

ให้โอกาสเด็กได้เล่นของจริง หรือของเล่นเลียนแบบของจริง

เด็กๆ ในวัยหัดเดินชอบที่จะจับสิ่งของต่างๆ ที่ตัวเองจับได้ และหาวิธีการใช้สิ่งของนั้นๆ เช่น ของใช้จำพวกรีโมตต่างๆ หรือสวิตช์ไฟ เด็กๆ ก็มักจะจิ้มปุ่มนู่นนี่นั่นเพื่อศึกษาว่าอะไรเป็นอะไร หรือแม้กระทั่งพวกโทรศัพท์มือถือ เด็กๆ ก็มักจะชอบหยิบมาเล่นและทำท่าทางคุยโทรศัพท์เหมือนกับที่ผู้ใหญ่ทำกัน เพราะฉะนั้นของเล่นที่แนะนำก็จะเป็นพวก จานพลาสติก ของกินพลาสติกหรือยาง เครื่องดนตรีอันเล็กๆ หรือพวกไม้กวาดเล็กๆ ที่ตักผงอันเล็กๆ ไซส์เด็กก็สามารถนำมาให้เด็กๆ ลองใช้ ลองสัมผัสดูก็ได้

หาของเล่นที่เตรียมพร้อมให้ลูกฝึกอ่าน

ของเล่นบางอย่างนอกจากจะทำให้เด็กๆ ฝึกเรื่องกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ของพวกเขาแล้ว ยังมีของเล่นที่ช่วยเสริมทักษะในด้านการอ่าน/เขียนก่อนวัย เช่น ตัวอักษรต่างๆ แบบที่มีแม่เหล็กติดอยู่ด้านหลัง ไว้สำหรับให้เด็กๆ เล่นผสมคำ หรือแม้กระทั่งหนังสือวาดภาพระบายสีก็ช่วยให้เด็กเสริมจินตนาการ รวมไปถึงฝึกให้เด็กจับพวกดินสอสีได้ด้วย

เลือกของเล่นที่ทำให้ลูกๆ ได้ออกแรง

แน่นอนว่าเด็กๆ วัยกำลังหัดเดิน มักจะชอบการออกกำลังกายด้วยการเล่น ทั้งกระโดด เดิน วิ่ง หรือแม้แต่กลิ้งหลุนๆ ตามพื้น และการพาเด็กๆ ไปพวกสนามเด็กเล่นก็ช่วยให้เด็กได้สนุกกับการออกกำลัง แต่ถ้าเกิดสนามเด็กเล่นยังดูแล้วยังไม่พร้อมสำหรับเด็กๆ การซื้อของเล่นพวกลูกบอลไซส์ต่างๆ จักรยานสามล้อ สกู๊ตเตอร์คันเล็กๆ โบว์ลิ่งพลาสติก หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์การจัดสวนอันเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้ขุดดินขุดทรายก็ช่วยให้เด็กได้เล่นกันอย่างสนุกได้ด้วยเช่นกันนะ

เลือกของเล่นที่สามารถเล่นได้ทุกวัย

ในเมื่อเด็กและผู้ใหญ่สามารถเล่นด้วยกันได้แล้ว ยังมีของเล่นบางอย่างที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้มีส่วนร่วมระหว่างที่เล่นอีกด้วย ซึ่งเกมที่หามาเล่นกับเด็กๆ ก็จะเป็นจำพวกบอร์ดเกม หรือการ์ดเกมง่ายๆ ที่ผู้ใหญ่เล่นได้ และเด็กๆ ก็เล่นสนุก เช่น เกมจับคู่ เกมความจำ เกมนับเลข ซึ่งการเล่นเกมนอกจากจะได้ความสนุก ความเพลิดเพลิน และสานสัมพันธ์ในครอบครัวแล้ว ยังช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ถึงกฎกติกาต่างๆ และการแพ้ชนะในเกม และชีวิตจริงได้อีกด้วยล่ะ

Ref : zerotothree

 

Writer Profile : buubae

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save