fbpx

ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร

Writer : OttChan
: 4 พฤศจิกายน 2563

เคยเจอปัญหานี้กันไหมคะ ลูกชอบพูดแทรกเวลาเราคุยธุระหรือกำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนฝูงจนทำให้การพูดคุยนั่นมีสะดุดไปและสร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับคู่สนทนาด้วย และบางครั้งถ้าเราทำทีไม่ฟังคิดว่าเดี๋ยวคุยเรื่องของเราจบค่อยหันไปสนใจก็ได้ เจ้าตัวแสบของเราก็จะเรียกร้องความสนใจทุกทางทั้งโวยวาย, เขย่าหรือดึงเราแรงๆ เพื่อให้หันมาสนใจและที่ทำให้ต้องตกใจที่สุดคืออาจทำลายข้าวของด้วยความน้อยอกน้อยใจ จนเราต้องละจากทุกสิ่งจริงๆ ไปจัดการ

หากใครกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ ต้องมาอ่านแล้วล่ะค่ะกับบทความนี้เพื่อทำความเข้าใจและแก้ปัญหาไปด้วยกันกับปัญหา การชอบพูดแทรกของลูก จะเป็นอย่างไรนั้น อ่านไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ!

ทำไมลูกถึงชอบพูดแทรก

เป็นปัญหาที่มีความเห็นที่หลากหลายมากๆ ว่าทำไมเด็กบางคนถึงต้องพูดทุกครั้งในเวลาที่เรายกหูโทรศัพท์หรือตอนที่เรากำลังพูดคุยอยู่กับผู้อื่นแต่เวลาปกติก็ไม่เห็นจะเข้ามาพูดคุยหรืออยากให้เราฟังสิ่งที่เขาเล่าเลย ซึ่งในแต่ละอาการมีเหตุผลในการเข้ามาพูดคุยที่ต่างกันออกไปค่ะซึ่งสามารถแบ่งได้ 3 ลักษณะ มาลองสังเกตกันนะคะว่าเด็กๆ ในบ้านเราเข้าข่ายพฤติกรรมไหนมากที่สุด

มีอาการสมาธิสั้น

อาการสมาธิสั้นเป็นหนึ่งให้เหตุผลที่ทำให้ลูกไม่มีความอดทนหรือไม่รู้จักการรอคอย แต่อาการนี้จะมีสิ่งอื่นที่พ่วงเข้ามามากกว่าแค่การชอบพูดแทรกคือ เหม่อลอย, ไม่สามารถอยู่กับกิจกรรมอะไรได้นานๆ , อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย, ขี้หลงขี้ลืม ฟังอะไรได้ไม่จบ ซึ่งถ้าหากลูกเข้าข่ายอาการนี้ต้องรีบหาทางแก้ไขอย่างจริงจังเพราะภาวะสมาธิสั้นจะมาพร้อมกับความไม่อยู่นิ่งจนน่าเวียนหัว

เรียกร้องความสนใจ

ในบางครั้งถ้าลูกของเราเลือกที่จะงอแงหรือชวนเราพูดคุยแค่เวลาที่เราพูดคุยกับผู้อื่นหรือกำลังคุยธุระทางโทรศัพท์กับคนอื่น แต่ในเวลาที่แตกต่างออกไป เขากลับไม่ได้มีความสนใจหรือเข้าหาแบบตอนที่เราต้องสนทนาก็อาจแปลได้ว่า ลูกกำลังเรียกร้องความสนใจ ไม่อยากให้เราสนใจคนอื่นมากกว่าเขาค่ะ

ไม่เข้าใจสถานการณ์และคิดว่าไม่ใช่เรื่องผิด

เพราะเด็กก็คือเด็กทำให้เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าเวลาไหนควรหรือไม่ควรในการเข้ามาพูดคุย เพราะคิดว่าสามารถทำหรือพูดได้ในทันทีแบบทุกครั้งและเขาก็อาจเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากพูดคุยและแสดงความเห็นต่างๆ กับประเด็นที่กล่าวถึง ทำให้จังหวะการพูดคุยธุระของพ่อแม่ต้องมีสะดุดไปบ้าง และอาจส่งผลให้แย่ลงหากทุกครั้งที่มีการเรียกและผู้ปกครองหันลงไปสนใจและทำการพูดคุยกับเขาด้วย เขาก็จะยังคงไม่รู้ต่อไปว่าจังหวะไหนสามารถแทรกได้หรือไม่ได้

วิธีแก้ปัญหาที่ลูกชอบพูดแทรก

พอเราได้รู้สาเหตุแล้วว่าทำไมลูกถึงชอบพูดแทรกก็ได้เวลามาดูกันแล้วค่ะ ว่าหากลูกของเราเข้าข่ายอาการนี้มากที่สุดจะต้องแก้อย่างไร

วิธีแก้อาการสมาธิสั้น

อาการสมาธิสั้นนั้นเกิดขึ้นได้จากทั้งกรรมพันธุ์, พฤติกรรมและการเลี้ยงดูดังนั้นวิธีในการแก้นั้นจึงมีการแก้ที่แตกต่างกันออกไปซึ่งการแก้จะแบ่งออกไปตามจุดเริ่มต้นของอาการสมาธิสั้นค่ะ

  • เกิดจากการเลี้ยงดู, พฤติกรรมส่วนตัว คุณพ่อคุณแม่จะต้องหากิจกรรมที่ช่วยพัฒนาการด้านการเสริมสร้างสมาธิเช่น, การวาดภาพ, การปั้นหรือแม้แต่การชักชวนมาอ่านนิทานก็ช่วยได้เช่นกัน และหากอยากให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ไม่ควรให้ลูกอยู่ติดหน้าจอเป็นเวลานานเพราะจะยิ่งทำให้อาการสมาธิสั้นเป็นหนักมากกว่าเดิม และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการมีเวลาให้เขาให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจกับอาการของลูก
  • เกิดจากกรรมพันธุ์, มีอาการมาตั้งแต่แรกเกิด จำเป็นต้องพบกับกุมารแพทย์เพื่อทำการประเมินอาการว่าอยู่ในระดับน่ากังวลหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ อาจได้ยามาให้เด็กๆ ทานเพื่อด้วยปรับสมดุลของอารมณ์อีกด้วยค่ะ แต่การพบแพทย์ต้องเป็นการพบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การรักษาเกิดความต่อเนื่อง ดังนั้นต้องใส่ใจมากๆ เลยค่ะ
วิธีแก้การเรียกร้องความสนใจ

ในปัญหานี้นับว่าเป็นปัญหาที่พบเจอได้มากที่สุดและสามารถแก้ไขได้ง่ายที่สุดค่ะซึ่งการแก้นั้นต้องค่อยๆ ทำทีละขั้นไป เรามาดูกันดีกว่าว่าจะต้องรับมืออย่างไร

  • ต้องพูดคุยกันเป็นกิจลักษณะ ทำให้รู้ว่านี่คือเรื่องจริงจังที่เราให้ความใส่ใจ
  • สอบถึงเหตุผลที่ลูกต้องการให้เราสนใจหรือเอาใจใส่ในเวลานั้น ให้ลูกได้ระบายความรู้สึกให้เราฟัง
  • ทำข้อตกลงกับลูกเวลาเราติดธุระพูดคุยกับบุคคลอื่น, คุยทางโทรศัพท์ ต้องอดทนรอได้ และต้องเน้นย้ำเสมอว่าเราเองก็ให้ความสำคัญกับเขา
  • เมื่อลูกรอได้ให้ชมเชยแสดงความจริงใจว่าเราชื่นชมจริงๆ กับการที่เขาทำตามข้อตกลงได้
  • รักษาสัญญาให้ได้หลังเขายอมรอ เช่นสัญญาว่าหากรอได้จะเล่นด้วย, จะทำอาหารที่ชอบให้ ก็ต้องทำตามสัญญาไม่เบี่ยงเบนหรือทำลืมไป
วิธีแก้การไม่เข้าใจสถานการณ์

เป็นธรรมดาที่ลูกนั้นยังเล็กเกินกว่าจะแยกได้ว่าแบบไหนคือการเสียมารยาท แบบไหนเป็นการร่วมวงสนทนาด้วย ซึ่งแน่นอนว่า เด็กๆ มักต้องการความสนใจ ทำให้เพวกเขาคิดว่าเขาสามารถพูดคุยได้กับทุกสถานการณ์และทุกคนก็ต้องฟังเขาด้วย หากมีการไม่ยินยอมฟังหรือใส่ใจ ความน้อยอกน้อยใจหรือปมด้อยต่างๆ อาจเกิดขึ้นมาได้โดยง่าย ดังนั้นจากลูกไม่รู้จังหวะควรแก้ไขดังนี้

  • แสดงสัญญาณทางร่างกายเช่นยกมือเล็กน้อยหรือบอกให้หยุดแต่ไม่มีท่าทีจะดุจะด่า
  • ขอให้ลูกรอก่อน และสัญญาจะรีบมาพูดคุยด้วย
  • เมื่อพูดคุยจบ ขอปลีกตัวออกมาเพื่อพูดคุยถึงเนื้อหาที่ลูกต้องการสื่อสารกับเรา ว่ามีเนื้อหาอะไรบ้าง และสอนลูกว่าหากต้องการพูดคุยต้องรู้จักรอให้คนอื่นพูดจบก่อนจึงค่อยขอออกความเห็น
  • หากลูกบอกว่าต้องการจะร่วมวงสนทนาด้วย ควรพูดคุยให้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องมารยาทในการสนทนากับผู้อื่น
  • สอนถึงสิ่งที่ควรทำเวลาอยู่กลุ่มพูดคุยเพื่อปูให้เป็นมารยาทพื้นฐานที่ลูกสามารถนำไปใช้ได้กับทุกสังคมและทุกสถานการณ์

 

 

ที่มา : pobpad , themagicalkidsamarinbabyandkidsmgronline

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
3 มกราคม 2563
Update
Banner Banner
Live Action เรื่องล่าสุดจาก Disney ที่หลายๆคนรอคอยไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เคยรับชมการ์ตูนในวัยหวานหรือแม้แต่คุณน้องคุณหนูที่หลงรักโลกใต้ท้องทะเลก็ตาม ใช่แล้วล่ะค่ะ เรากำลังพูดถึง “The Little Mermaid” หรือ “เงือกน้อยผจญภัย” ที่หยิบยกกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชันคนแสดงในปีนี้ โดยมีนักร้องสาว “ฮัลลี เบลลีย์” รับบทนางเงือกน้อย “แอเรียล” พร้อมเป็นตัวแทนส่งเสียงบอกกับเด็กหญิงชายทั่วโลกว่า “ใครก็เป็นเจ้าหญิงได้”  หยิบกลับมาทำใหม่ ตีความใหม่ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อย ข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือไม่ ลองไปดูกันเลย! เรื่องราวของนางเงือกน้อยแสนซน “แอเรียล” ธิดาคนสุดท้องของราชาไตรตันเจ้าแห่งโลกใต้สมุทรเธอมีความหลงใหลในโลกมนุษย์และใฝ่ฝันว่าอยากจะเดินเหินอย่างผู้คนบนดินแม้พ่อจะพยายามกีดกันเธอเท่าไรก็ตาม วันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบกับ “เจ้าชายอีริค” และตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง เธอจึงได้ทำข้อตกลงกับแม่มดทะเล “เออซูลาร์” เพื่อแลกเสียงอันไพเราะกับขาอย่างมนุษย์โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชายไม่เช่นนั้นเธอจะกลับมาเป็นเงือกและกลายเป็นทาสของเออซูลาร์ตลอดไปการออกเดินทางทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่ฝันจึงได้เริ่มต้นขึ้น เติมเต็มหัวใจที่ยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำของวัยเยาว์ ส่งต่อความกล้าหาญให้หนูน้อยเชื่อมั่นในตัวเอง และสิ่งที่ฝัน จูงมือลูกรักไปดู “The Little Mermaid” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์! ชมตัวอย่าง : https://www.youtube.com/watch?v=AS0vop2rgFo การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป แม้จะมีเค้าโครงเรื่องหลักๆ มาจากการ์ตูนเงือกน้อยแอเรียลแบบต้นฉบับทั้งหมด แต่พอมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ทวีคูณความจริงจังให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมพื้นเพตัวละคร เสริมเนื้อเรื่องเพิ่มประเด็นให้มีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม จึงบอกได้ว่าเป็นเวอร์ชันที่ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กๆ เท่าไร ถึงอย่างนั้นเด็กๆก็ยังสามารถสนุกสนานกับกลิ่นอายของเทพนิยายชวนฝันเพลิดเพลินกับภาพบรรยากาศโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามสุดแสนจะแฟนตาซี รับประกันว่ากระตุ้นจินตนาการเรียกความตื่นตาตื่นใจจากเจ้าตัวน้อยแน่นอน เรื่องที่ต้องระวัง มีความรุนแรงและฉากน่ากลัว อย่างที่บอกไปว่า Live Action เวอร์ชันนี้ มีความดาร์ก ความสมจริงเพิ่มเข้ามา เรื่องความรุนแรงต่างๆ ฉากต่อสู้ ฉากปะทะ หรือหน้าตาของเหล่าสัตว์ร้ายใต้ทะเล อาจทำให้เด็กๆ ไม่สบายใจ หรือตื่นกลัวได้ แถมยังมีจังหวะตกใจ (Jump…
25 พฤษภาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save