fbpx

เปิดมือถือให้ลูกดูตอนกินข้าว ช่วยให้ลูกกินข้าวได้ง่ายขึ้นจริงไหม?

Writer : Jicko
: 31 สิงหาคม 2564

เชื่อเลยค่ะว่ามีหลายบ้านที่พบเจอกับปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าว แล้วพ่อแม่บางคนที่อดไม่ได้ที่จะใช้วิธีหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นวิธียอดฮิต ที่ใช้เจ้าหน้าจอมือถือ หรือหน้าจอแท็บเล็ตมาหลอกล่อ เพื่อให้ลูกได้กินข้าวได้มากขึ้น

แต่รู้ไหมคะว่า นี่อาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แถมยังส่งผลเสียต่อเด็กๆ หลายอย่างอีกด้วยนะ เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าค่ะ มาปรับเปลี่ยนนิสัยลูกติดจอระหว่างทานอาหารกันดีกว่า ก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ

เปิดมือถือให้ลูกตอนกินข้าวส่งผลเสียอย่างไร

1. เป็นพฤติกรรมที่สร้างเงื่อนไขให้เด็ก ถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่มีจอ ลูกก็จะไม่ยอมกินข้าว

2. เด็กติดนิสัยไม่ช่วยเหลือดูแลตัวเอง เพราะถึงแม้เขาอยู่นิ่งก็จริง แต่พ่อแม่ป้อนข้าวให้ ซึ่งจริงๆ แล้วเด็กๆ สามารถหยิบกินอาหารได้แล้วตั้งแต่ 1 ขวบ

3. ลูกกินข้าวช้า เพราะมัวแต่สนใจหน้าจอ ทำให้ไม่สามารถจัดการเวลาขณะกินข้าวได้

ลูกไม่กินข้าวจะต้องฝึกยังไงนะ?

1. ให้ลูกนั่งกินบนโต๊ะอาหาร อย่างเป็นกิจลักษณะ

2. ให้เขานั่งกิน 30 นาที ไม่กินคือพ่อแม่จะเก็บ

3. ถ้ากินหมดระหว่างมื้อ สามารถมีขนมได้

4. ถ้ากินไม่หมดระหว่างมื้อ จะไม่มีอะไรให้อีกเลย

เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนเป็นอย่างมาก หากใจอ่อนให้ลูกดูอีก คราวนี้อาจจะเสียหายกว่าเดิมได้ค่ะ

วิธีนี้หมอแนะนำ

1. ให้ใช้หน้าจอเป็นรางวัลแทน เช่น มื้อนี้ลูกกินข้าวจนหมด แม่จะเปิดการ์ตูนให้ดู วิธีนี้รับรองได้เลยว่าเด็กๆ จะมีวินัยขึ้นเป็นกองเลยค่ะ

2. ถ้าปิดจอแล้วลูกกินข้าวน้อยลง ลองปล่อยให้เขาได้เรียนรู้เรื่องความหิว เขาจะรู้ว่าถ้าหากหิว มื้อต่อไปต้องกินข้าวให้มากขึ้น

3. ฝึกให้ลูกทานอาหารด้วยตัวเอง จะทำให้เขารู้หน้าที่ เกิดความมั่นใจและภูมิใจในตัวเองมากขึ้นนั่นเองค่ะ

 

อ้างอิงจาก : thaipbs,นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

 

 

 

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
3 มกราคม 2563
ถ้าลูกเราเปลี่ยนไป
ไลฟ์สไตล์
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save