fbpx

How to ฝึกลูกให้กินข้าวตรงเวลา

Writer : giftoun
: 4 เมษายน 2562

การฝึกให้ลูกกินข้าวให้ตรงเวลานั้นถือว่าสำคัญมาก ควรจะฝึกลูกไว้แต่เนิ่นๆ จะได้เป็นคนที่จัดการเวลาได้ดีในอนาคตค่ะ แล้วจะมีวิธีใดที่ฝึกให้ลูกกินข้าวให้ตรงเวลาบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

ไม่กินของว่างใกล้มื้ออาหาร

การที่ลูกนั้นกินของว่างใกล้มื้ออาหารมากเกินไปจะทำให้ลูกน้อยนั้นอิ่มจนไม่อยากกินอาหารมื้อหลักจนกินอาหารไม่ตรงเวลาได้ ทางที่ดีคุณแม่ไม่ควรให้ลูกกินของว่างใกล้มื้ออาหารนั้นจะดีกว่าค่ะ

ปิดทีวีก่อนไปกินข้าว

โทรทัศน์ถือได้ว่าเป็นสื่อที่ดึงดูดใจใจลูกอยู่ไม่ใช่น้อย การเปิดทีวีระหว่างกินข้าวจะทำให้ลูกไม่สนใจกินข้าวจนกินข้าวสายกว่ามื้อที่ควรจะเป็นก็เป็นได้ คุณแม่อาจจะลองตั้งกฎกับลูกว่าจะไม่เปิดทีวีจนกว่าจะกินข้าวเสร็จก็ได้นะคะ

เก็บของเล่นก่อนกินข้าว

ของเล่นก็เป็นสิ่งล่อตาล่อใจลูกน้อยไม่แพ้กับโทรทัศน์เลยล่ะค่ะ ถ้าคุณแม่ได้ชวนลูกเก็บของเล่นก่อนกินข้าว จะทำให้ลูกนั้นตั้งใจกับมื้ออาหารมากขึ้นและกินข้าวได้ตรงเวลามากขึ้นค่ะ

ทุกคนในบ้านกินข้าวกันพร้อมหน้า

ถ้าทุกคนในบ้านสามารถกินข้าวได้พร้อมหน้าพร้อมตาจะทำให้ลูกนั้นอยากกินข้าวมากยิ่งขึ้น ยิ่งพร้อมใจกันกินข้าวกันตรงเวลาแล้ว ลูกก็จะเคยชินกับการกินข้าวตรงเวลาไปเองค่ะ

ถ้ากินไม่ตรงเวลา เก็บข้าวทันที

คงมีบางครั้งบ้างที่ลูกจะไม่ยอมกินข้าวเมื่อถึงมื้ออาหาร ถ้าแก้คือขอให้คุณแม่ลองเก็บข้าวทันทีที่ลูกไม่ได้กินข้าวตรงตามมื้อ ลูกจะเรียนรู้ไปเองว่าถ้าไม่กินข้าวให้ตรงมื้อก็จะไม่มีให้กินในมื้อนั้นทันที หลังจากนั้นก็จะปรับตัวให้กินข้าวครบมื้อไปเองค่ะ

กินข้าวตรงเวลาทุกครั้ง

การฝึกให้ลูกกินข้าวได้ตรงเวลานั้นจะต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอด้วยการกินข้าวให้ตรงเวลาได้ทุกครั้ง ทำจนติดเป็นนิสัย จะทำให้ลูกกินข้าวได้ตรงเวลาจริงๆ ค่ะ

ตื่นและนอนตรงเวลา

การฝึกให้ลูกนอนและตท่นให้ตรงเวลาจะทำให้นาฬิกาในชีวิตของลูกนั้นหมุนตรงขึ้น จนทำให้ลูกกินข้าวตรงเวลาไปโดยปริยายเลยทีเดียวค่ะ

และนี่คือเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของการฝึกให้ลูกกินข้าวให้ตรงเวลา คุณแม่สามารถนำมาปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ได้เลยนะคะ

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
30 พฤษภาคม 2561
ลูกเบื่ออาหาร!!  พ่อเเม่ต้องทำอย่างไร
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ช่วงวัยของเด็ก ช่วงวัยของเด็ก
30 ตุลาคม 2560
12 ข้อดีจากการให้นมแม่
เตรียมตัวเป็นแม่
เริ่มให้ลูกฝึกปั่นจักรยานตอนไหนดี?
กิจกรรมของครอบครัว
How to รับมือปัญหาลูกเเสดงออกไม่เหมาะสม
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save