fbpx

ภาวะแท้งคุกคามคืออะไร คุณแม่จะป้องกันแบบไหนได้บ้าง

Writer : giftoun
: 15 พฤษภาคม 2561

เชื่อว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่นั้นคงกังวลใจว่าภาวะแท้งคุกคามคืออะไร สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีไหนบ้าง มาดูกันค่ะ

ภาวะแท้งคุกคามคืออะไร

แท้งคุกคาม (Threatened abortion, Threatened miscarriage) คือ ภาวะใกล้แท้งหรือภาวะที่เสี่ยงต่อการสิ้นสุดการตั้งครรภ์หรือแท้งลูกได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยที่คุณแม่จะมีเลือดออกมาจากช่องคลอดและอาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยหรือไม่มีก็ได้ จึงอาจทำให้คุณแม่สับสนได้ว่าเป็นประจำเดือน

สาเหตุของภาวะแท้งคุกคาม

  • คุณแม่ที่มีอายุมากจะมีโอกาสเกิดภาวะแท้งคุกคามมากกว่าคุณแม่ที่มีอายุน้อย
  • คุณพ่อมีอายุมากเกินไป
  • คุณแม่ที่เคยแท้งมาแล้วหนึ่งครั้งจะเกิดความเสี่ยงในการแท้งในครั้งต่อไป
  • การได้รับอุบัติเหตุในขณะตั้งครรภ์ที่บริเวณท้องน้อย
  • ความผิดปกติของทารกในครรภ์ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมในตัวอ่อน หรือเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างตัวอ่อนแต่กำเนิด
  • ความผิดรูปร่างหรือความผิดปกติของมดลูก โพรงมดลูก ปากมดลูก
  • ผลจากการขูดมดลูก (Asherman syndrome)
  • คุณแม่มีการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อในช่องคลอด หัดเยอรมัน ซีเอ็มวีไวรัส เป็นต้น
  • การขาดฮอร์โมนเพศที่เป็นตัวช่วยประคับประคองการตั้งครรภ์ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หนาพอที่จะรับการฝังตัวของตัวอ่อนในโพรงมดลูกได้
  • โรคประจำตัวของคุณแม่ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคเอสแอลอี โรคไทรอยด์ เป็นต้น
  • คุณแม่มีความเครียด
  • คุณแม่เป็นผู้สูบบุหรี่โดยตรงหรือเป็นผู้สูบบุหรี่มือสอง
  • การดื่มสุรา ดื่มกาแฟมากเกินไป
  • การใช้สารเสพติดประเภทโคเคน (Cocaine) ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย

เมื่อไหร่ที่ควรรีบไปพบแพทย์

คุณแม่ตั้งครรภ์อ่อน ๆ ส่วนมากจะมีความรู้สึกปวดหน่วง ๆ ในท้องน้อย แต่ที่สำคัญคือจะต้องไม่มีเลือดออกจากช่องคลอดตลอดการตั้งครรภ์ ดังนั้นถ้าปวดในลักษณะบีบ ๆ บิด ๆ เป็นพัก ๆ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอด ก็ควรรีบไปพบแพทย์

คุณแม่จะทราบได้อย่างไรว่าแท้งแล้ว

ในกรณีที่มีเลือดออกมากและมีเศษชิ้นเนื้อหลุดออกมาด้วยแล้ว ก็มักจะลงเอยด้วยการแท้งจริง ๆ ดังนั้นหากเริ่มมีเลือดออกก็ควรรีบไปพบแพทย์ก่อนนัดในทันที

วิธีป้องกันการแท้งคุกคาม

มีทั้งสาเหตุที่สามารถป้องกันได้และสาเหตุที่ไม่สามารถป้องกันได้

สาเหตุที่สามารถป้องกันได้

  • รักษาและควบคุมโรคประจำตัวที่เป็นอยู่แล้วให้ดี
  • ถ้าโพรงมดลูกมีความผิดปกติ ควรแก้ไขหรือผ่าตัดให้เรียบร้อยก่อนการตั้งครรภ์
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงหลีกเลี่ยงความเครียด
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ในทุก ๆ วัน
  • งดการสูบบุหรี่ และงดการดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาต่าง ๆ (รวมถึงยารักษาสิว) โดยไม่จำเป็น รวมถึงการหลีกเลี่ยงการใช้หรือสัมผัสสารเคมีต่าง ๆ
  • ไม่ยกของหนักในช่วงตั้งครรภ์
  • ระมัดระวังเรื่องการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น การนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ การกระทบกระแทกแรง ๆ ฯลฯ
  • ตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์และฝากครรภ์ทันทีเมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์

สาเหตุที่ไม่สามารถป้องกันได้

  • โครโมโซมของทารกที่ผิดปกติ
  • ระบบสืบพันธุ์ของคุณแม่มีความผิดปกติ เช่น ผนังมดลูกบาง มดลูกไม่แข็งแรง
  • การเกิดโรคประจำตัวของคุณแม่เอง

เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งท้องแล้ว ควรจะดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษและฝากท้องกับคุณหมออย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นอะไรไปจะแก้ได้ทันท่วงทีค่ะ

ที่มา – medthai

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



สิทธิประโยชน์ “ฝากครรภ์ฟรี” ปี 60
ข้อมูลทางแพทย์
ท้องตอนอายุ 35 มีปัญหาหรือไม่ ?
เตรียมตัวเป็นแม่
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save