fbpx

เรียนภาษาจีนนั้นดีอย่างไร มาคุยกันกับครูพี่ป๊อป

Writer : OttChan
: 28 มิถุนายน 2562

ในปัจจุบันนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาษานั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการเสริมสร้างทักษาและปูอนาคตให้ลูกน้อย สานฝันให้ไปได้ไกลกว่าที่คิดหรือต่อยอดในวิชาที่ต้องการจะเรียนต่อไปในภายภาคหน้า

จึงเป็นเรื่องปกติแล้วที่นอกจากภาษาที่ 2 คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเองก็ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าภาษาที่ 3 ที่ต้องการให้เขาได้เรียนรู้นั้นจะไปในทางไหนหรือเรียนภาษาใดเพิ่มดีเพื่อให้ลูกมีความสนใจหรือชื่นชอบในภาษาอื่น

วันนี้ทาง Parents One จึงได้รับเกียรติจากครูพี่ป๊อป (คุณณัฐพงศ์ นำศิริกุล ) อาจารย์สอนภาษาจีนมากประสบการณ์และความสนุกสนานในการสอนภาษจีนทั้งยังเป็นทั้งวิทยากรและผู้ประกาศข่าวหนุ่มไฟแรงมากฝีมือ ได้มาให้แง่มุมเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้านภาษาของลูก

ไปรับชมได้เลยค่ะ

ภาษามีความสำคัญอย่างไรบ้าง?

ภาษาเป็นสิ่งที่ต้องใช้, เป็นทักษะและเป็นศิลปะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำเสียง, จังหวะการพูด, การเลือกใช้คำขอเพียงแค่สนุกกับมัน เด็กๆก็จะเรียนได้ดีเพราะสนุกกับการเจอกับสิ่งใหม่ๆบนโลกใบนี้แล้วก็รู้สึกสิ่งนั้นน่ะมันน่าตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา ต้องรู้สึกenjoyไปกับการเรียนภาษา

เด็กๆควรเริ่มเรียนภาษาที่ 3 ตอนไหน?

ตามหลักการเรียนภาษาแล้วดีที่สุดเลยไม่ว่าจะภาษาอะไรก็ตามให้เริ่มเรียนตั้งแต่อายุ 0-12 ปี เพราะจะเป็นการเรียนแบบ Natural Learner หรือที่เรียกว่าเรียนตามธรรมชาติ เรียนจากเสียงหัวเราะ เรียนด้วยความรัก เรียนด้วยความสุข เรียนจากการเลียนแบบ มนุษย์เรายิ่งโตขึ้น ความรู้สึกที่เป็นNatural มันจะค่อยๆหายไปเพราะทุกคนเริ่มที่จะใส่กรอบให้ตัวเอง มันขาดความเป็น Natural Learner

เช่นนั้นแล้วเราควรจะเป็นบุคคล Life Long Learner ซึ่งนั่นหมายความว่าเป็นบุคคลที่เรียนรู้ตลอดชีวิต

มีเคล็ดลับในการเรียนภาษาที่ 3 ให้ดีได้อย่างไรบ้าง

มันมีเรื่องเล่าในสมัยพระพุทธกาล มีหลักฐานบอกไว้ชัดเจนว่า พระสัมมนโคดม พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หยิบใบไม้ขึ้นมาหนึ่งกำและถามพระภิกษุที่เป็นสาวกว่า ท่านคิดว่าใบไม้ในมือข้ากับใบไม้ในป่าเนี่ย อะไรเยอะกว่ากัน ชัดเจนว่าไม้ใบในป่านั้นเยอะกว่าในมือของพระพุทธเจ้าแต่พระพุทธเจ้าบอกว่าสิ่งที่ท่านใช้ประโยชน์ได้เนี่ยแค่ในมือข้าก็เพียงพอแล้ว

แปลว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เนี่ยมันมีมากมายเหลือเกินแต่สิ่งที่เอาไปใช้ได้จริงๆแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ภาษาจีนมีอายุมากว่า 5000 ปี ผมเปรียบเสมือนเป็นใบไม้ในป่าเลยแหละแต่สิ่งที่ผมรู้เพียงแค่เปลือกแค่กระพี้ขอแค่ให้รู้จริงแค่ในมือผม มันก็พอใช้แล้ว เรียนรู้ในสิ่งที่ต้องการรู้ไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด นั่นคือเคล็ดลับการเรียนภาษา

คิดเห็นอย่างไรกับการที่พ่อแม่ไม่เห็นความสำคัญของภาษาที่ 3และบอกภาษาอังกฤษสำคัญสุด

ผมเห็นด้วยนะ ภาษาที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะให้เรียนมากที่สุดคือภาษาอังกฤษและ ควรจะเรียนให้ได้ดีแต่ถ้าเรียนแล้วไม่ดีก็ต้องมีทางสำรองไว้ เราเข้าใจถึงความลำบากของพ่อแม่ที่จะต้องลงทุนให้เด็กเรียนเทควันโด, เรียนว่ายน้ำ, เรียนกอลฟ์ เรียนขี่ม้า, เรียนแซคโซโฟน, เรียนเปียโน, เรียนกีต้าร์แต่สักวันนึงเขาจะเจอทางที่เขาใช่และทางที่เขาชอบ

พ่อแม่มีส่วนช่วยอะไรลูกได้บ้างในการเรียนภาษาที่ 3

มีส่วนครับ ผมว่าคุณพ่อคุณแม่ควรจะเรียนไปพร้อมๆกันกับลูก ถ้าพ่อแม่มั่นใจว่ามันสนุก พ่อแม่ถึงจะแนะนำให้ลูกเรียน ถ้าพ่อแม่ไม่มั่นใจในครู ไม่มั่นใจในเทคนิคการสอนของครู พ่อแม่ต้องหาเป้าหมายต่อไปจนมั่นใจว่าครูคนนี้ดีจริงๆเลยให้ลูกไปเรียน

พ่อแม่ควรจะเรียนไปด้วยกันถึงจะอายุมากแล้วอาจจะรับได้ไม่เท่าลูกแต่รับได้นิดนึงก็พอคุยกับเขารู้เรื่องแล้ว เรียนไปพร้อมๆกันเช่นลูกเรียนตัวต่อตัวกับผม คุณพ่อคุณแม่ก็ดูทางออนไลน์ ดูทางยูทูบ นั่งเรียนไปแล้วก็เอาคำศัพท์นี้มานั่งคุยกัน

ผมคิดว่าสถาบันสังคมเนี่ยที่สำคัญที่สุดเล็กที่สุดแต่สำคัญที่สุดคือครอบครัวถ้าหากเด็กรู้สึกพ่อแม่ภูมิใจ เด็กจะทำ สำคัญคือพ่อแม่ต้องรู้จักชม เมื่อไหร่ก็ตามที่พ่อแม่เริ่มชมเริ่มให้รางวัลเด็กจะรู้สึกว่าเขาได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า เด็กคนนั้นจะเก่งขึ้นแน่นอน

พ่อแม่ควรจะเรียนไปพร้อมๆกันกับลูกเลยใช่ไหม

ผมคิดว่าพ่อแม่ควรจะเรียนรู้ไปด้วย ลูกอาจจะจำ 10 คำ พ่อแม่จำซัก 2 คำก็พอแล้วและมันดีต่อคุณพ่อคุณแม่ด้วยเพราะการที่พ่อแม่เรียนรู้ทุกวันเนี่ยมันก็คือ Life Long Learner (เรียนรู้ตลอดชีวิต) ที่จะทำให้สมองของคุณมีการพัฒนาตลอดเวลาแล้วก็จะไม่เป็นโรคสมองเสื่อม คุณพ่อคุณแม่จะต้องขยับ คุณจะต้องออกกำลังกายตลอดเวลา ออกกำลังนี่ไม่ใช่แค่กาย ต้องออกกำลังสมองด้วย

 

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save