fbpx

5 ศิลปะป้องกันตัวที่เด็กสามารถเรียนได้

Writer : Lalimay
: 27 มีนาคม 2561

สมัยนี้สังคมภายนอกเริ่มน่ากลัวขึ้นค่ะ บางทีเราอาจจะอยู่ปกป้องลูกได้ไม่ตลอด การที่ให้เขาเรียนศิลปะป้องกันตัวไว้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี นอกจากจะไว้ป้องกันตัวแล้วยังถือเป็นการออกกำลังกายและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วย ซึ่งศิลปะป้องกันตัวก็มีหลายแบบมากค่ะ มีทั้งใช้แรงมากและใช้แรงน้อย  วันนี้เราจึงมีศิลปะป้องกันตัว 5 แบบมาให้ทุกคนดูกันค่ะ จะได้เป็นตัวเลือกให้ลูกลองไปเรียนกันดู

เทควันโด้ (Taekwondo)

เทควันโด หมายถึง ศิลปะหรือหลักการของการปะทะหรือโจมตีด้วยเท้าและมือ เป็นกีฬาที่ผสมผสานระหว่างการต่อสู้ การป้องกันตัวเอง กีฬา การออกกำลังกาย การฝึกสมาธิและปรัชญา จัดเป็นศิลปะป้องกันตัวชั้นนำที่คนสนใจเล่นกันทั่วโลกตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งกีฬาเทควันโดจะช่วยพัฒนาในเรื่องการทรงตัว ใช้ป้องกันตัว ฝึกไหวพริบ สร้างสมาธิและฝึกระเบียบวินัย

มวยไทย (Muay Thai)

มวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของไทย นอกจากนนี้ยังเป็นการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งมวยไทยขั้นพื้นฐานนั้นมีการใช้ทุกส่วนของร่างกายผ่านท่าทางการเตะ ต่อย เข่า ศอก เด็กที่ฝึกมวยจะช่วยในด้านการควบคุมตัวเอง ฝึกสมาธิ ช่วยให้เด็กเกิดความเชื่อมั่น และความมีระเบียบวินัย แต่อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ก็ควรดูเรื่องความปลอดภัยของสถาบันนั้นๆ ด้วยว่ามีอุปกรณ์ป้องกันหรือไม่ค่ะ

ไอคิโด (Aikido)

ไอคิโด เป็นศิลปะป้องกันตัวที่เหมาะกับผู้หญิง โดยใช้วิธีการควบคุมและจูงใจคู่ต่อสู้ ให้ไปดำเนินไปในทิศทางที่เราต้องการโดยอาศัยกำลังของคู่ต่อสู้ ทำร้ายตัวเค้าเอง พร้อมเป็นวิชาที่ฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง เป็นผู้มีน้ำใจของนักต่อสู้ มีคุณธรรม และรักความยุติธรรม ดังนั้นผู้ฝึกสามารถปกป้องตัวเองได้จากคู่ต่อสู้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ หลักของไอคิโดคือเทคนิคการเหวี่ยงและการคว้า ผู้ฝึกฝนจะใช้พลังของคู่ต่อสู้และความเร็วในการปะทะกัน

คาราเต้ (Karate)

คาราเต้ เป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่น ที่รวบรวมศิลปะป้องกันตัวของจีนและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ประกอบด้วยเทคนิคพื้นฐานของการต่อย, การบล็อกและการแตะ เน้นการชก เตะ จับ เข้าจุดสำคัญๆ แบบหมัดเดียวหยุด แบบปราศจากการใช้อาวุธ เด็กๆ จะได้ฝึกความมุ่งมั่น อดทน ทำให้แข็งแรงทั้งร่างกายกับจิตใจ

ยูโด (Judo)

ยูโด คือ ศิลปะการป้องกันตัวประเภทหนึ่งที่ถือกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น เป็นวิชาที่สามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธด้วยมือเปล่าและเป็นการทำลายจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ เน้นการจับทุ่ม ล๊อคข้อต่อ ทำให้เสียหลัก ใช้ประชิดตัว นอกจากจะเป็นการฝึกเพื่อป้องกันตัวเองแล้วยังเป็นการบริหารร่างกายเพื่อให้ เกิดความแข็งแรง ฝึกสมาธิให้มั่นคง ผู้ฝึกจะได้รับประโยชน์ทั้งด้านร่างกาย และสมาธิด้านจิตใจอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการจู่โจมคู่ต่อสู้ หรือการตั้งรับ

ศิลปะป้องกันตัวเรียนได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยนะคะ แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าไว้ป้องกันตัวก็ย่อมทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง ดูสถาบันที่จะส่งลูกไปเรียนให้ดีนะคะ ดูเรื่องความปลอดภัยให้ดีค่ะ

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กิจกรรมเสริมเชาว์ปัญญาให้ลูกช่วงปิดเทอม
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
ช่วงวัยของเด็ก ช่วงวัยของเด็ก
30 ตุลาคม 2560
9 พื้นฐานสร้างลูกให้เก่งและดีด้วย EF
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
How to รับมือปัญหาลูกเเสดงออกไม่เหมาะสม
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save