เปิดมุมมองความรักและความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่จืดจาง ของน้าค่อม ชวนชื่น

: 30 เมษายน 2564

หากจะกล่าวถึงบทบาทของนักแสดงตลกอย่าง “น้าค่อม ชวนชื่น” เราทุกคนคงรู้จักตลกน้ำดีที่มอบความสนุกและเสียงหัวเราะให้กับคนดูในทุกบทบาทการแสดง แต่น่าเสียดายที่ “น้าค่อม” ต้องลาโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเช้าวันที่ 30 เมษายน 2564

หลายๆ คนน่าจะเคยได้อ่านบทสัมภาษณ์ของดาวตลกชื่อดังมาไม่มากก็น้อย ทั้งความยากลำบากก่อนที่จะมาเป็นตลก ทั้งๆ ที่อ่านหนังสือไม่ได้ แต่กลับจดจำบทที่ตนเองเล่นจากการฟังที่คนอื่นอ่านให้ฟัง และกว่าจะมามีอย่างทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย

โดยในทุกการก้าวเดินของน้าค่อม มักจะมีคนๆ นึงที่คอยอยู่เคียงข้างแม้ในวันที่เริ่มจากศูนย์ จนสามารถประสบความสำเร็จได้ในทุกวันนี้ คนๆ นั้น ก็ยังคงเป็น “แม่เอ๋” ที่จับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และมีสร้อยทองคล้องใจด้วยกันถึง 3 คน

จากบทสัมภาษณ์หลายๆ ฉบับ ไม่ว่าจะเป็น a day, รายการ Club Friday Show หรือรายการเก้ง กวาง บ่าง ชะนี น้าค่อมก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมุมมองความรักหรือครอบครัวไม่แตกต่างกัน เรื่องแรกคือเรื่องที่กล่าวถึงภรรยา อย่าง “แม่เอ๋” โดยน้าค่อมมักจะพูดถึงแม่เอ๋ด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ แม้จะอายุห่างกันถึง 10 ปีก็ตาม น้าค่อมเล่าว่าเห็นแม่เอ๋ครั้งแรกก็ปิ๊งเลย ตามจีบอยู่นานจนในที่สุดก็ได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

ตลอดระยะที่อยู่ด้วยกันมา น้าค่อมไม่เคยนอกใจภรรยาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะทะเลาะอะไรกันก็ตาม น้าค่อมจะเป็นคนยอมตลอด แม้ไม่ค่อยบอกรักแต่การกระทำที่น้าค่อมทำกับแม่เอ๋นั้นยิ่งเสียกว่าการบอกรักเสียอีก เพราะทั้งคู่ผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน ตั้งแต่ยังไม่มีอะไร จนมีได้ถึงทุกวันนี้

มีเรื่องหนึ่งที่น้าค่อมเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการซ่อนเงินที่มักจะโดนเพื่อนตลกแซวอยู่บ่อยๆ น้าค่อมเล่าว่า ที่ซ่อนเงินเพราะชอบแต่งรถแต่ไม่อยากขอเงินภรรยา ก็เลยซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ แต่ถ้าภรรยามาเจอก็ถือว่า เงินที่ซ่อนไว้เป็นของขวัญให้ภรรยาไปเลย เพราะกับภรรยา ต้องเรียกว่าเกรงใจ อยู่ด้วยกันต้องให้เกียรติกัน

เมื่อพูดถึงความรัก ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น้าค่อมให้ความสำคัญและดูแลเป็นอย่างดี ลูกทั้ง 3 คนของน้าค่อมก็ได้รับความรักและการเลี้ยงดูที่ไม่ด้อยไปกว่าใครๆ จากบทสัมภาษณ์ของ a day ที่เคยสัมภาษณ์น้าค่อมในช่วงสุดท้าย น้าค่อมก็ได้พูดถึงการเลี้ยงลูกไว้ว่า

“น้าไม่ค่อยเชื่อในการสอนหรอก น้าเชื่อในการทำให้ดูมากกว่า อย่างครอบครัวเรา ลูกก็เห็นว่าพ่อทำงานแบบนี้ เขาจะเอาเยี่ยงอย่างไหมก็แล้วแต่เขา น้าปล่อยให้ลูกมีชีวิตเป็นของตัวเอง”

และในวันนี้ถึงแม้ร่างกายของน้าค่อมจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป แต่น้าค่อมและคำว่า “ไอ้สัส” ของน้าจะอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป ขอให้น้าค่อมไปสู่ภพภูมิที่ดี ทีมงาน Parents One ขอเป็นกำลังใจให้แก่ครอบครัวของน้าค่อมนะคะ