fbpx

ความเจ็บปวดที่แม่ต้องเจอ เมื่อเอาลูกเข้าเต้า

Writer : Jicko
: 18 กุมภาพันธ์ 2565

แม่ๆ ที่มีลูกอ่อนอยู่ในช่วงกำลังเข้าเต้าคงทราบดีนะคะว่า เวลาให้นมลูกแต่ละทีนั้น เราทั้งเจ็บตัว เจ็บเต้านม หรือแม้แต่บางทีเมื่อเขาละเมอ ก็เผลอกัดหัวแม่ จนแทบจะร้องไห้ ซึ่งความเจ็บปวดระหว่างเอาลูกเข้าเต้านี้เรียกได้ว่าเป็นปัญหายอดฮิตที่แม่ๆ ต้องประสบพบเจอ วันนี้ Parents One ก็ได้รวมรวบความเจ็บปวด และวิธีแก้ปัญหาสิ่งนี้มาฝากกันค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย!

ความเจ็บปวดที่แม่ต้องเจอเมื่อเอาลูกเข้าเต้า

1. ลูกน้อยฟันขึ้น ขณะเอาลูกเข้าเต้า

เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่เจ็บปวดสำหรับแม่ๆ มาก เพราะเมื่อไหร่ที่ลูกน้อยเริ่มฟันขึ้น เหงือกของเขาจะบวม ทำให้เวลากินนมเขาจะรู้สึกเจ็บเหงือก อีกทั้งเหงือกกับริมฝีปากลูกไม่ได้สัมผัสกับหัวนมแม่โดยตรง ทำให้เด็กๆ ขยับเหงือและฟันเพื่อดูดนมก่อนที่หัวนมจะเข้าไปนั่นเอง เรียกได้ว่าต้องระวังทั้งช่วงก่อนกิน และหลังกิน เพราะนอกจากกัด และทิ้งร่องรอยของเหงือกและฟันแล้ว ลูกน้อยอาจจะดึงด้วย บอกเลยว่าเจ็บสุดๆ ค่ะ

2. ละเมอทีไร กัดหัวนมแม่ทุกที

เพราะการละเมอก็เหมือนเป็นการที่สิ่งรอบข้างดึงดูดความสนใจลูกอย่างหนึ่ง เขาอาจจะฝันหรือสะดุ้งตกใจ ทำให้บางทีเผลองับหัวนมของแม่ได้ ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ คุณแม่จะต้องไม่กระชากออก และแสดงให้ลูกเห็นเลยว่าแม่เจ็บนะ เพื่อให้ลูกเรียนรู้ปฏิกิริยาในทางลบของแม่ ลูกจะได้ไม่ทำอีกนั่นเองค่ะ

3. แขนแม่ชา ไร้ความรู้สึกทุกที

ด้วยความที่ทั้งไม่ได้นอนทั้งวัน การให้ลูกเข้าเต้าแม่เองก็เหมือนได้พักผ่อนไปด้วย ทำให้บางครั้งก็เผลอหลับตอนให้นมลูกอยู่ แต่พอตื่นมาอีกที แขนก็ชาไร้ความรู้สึกไปซะอย่างงั้น แต่ไม่เป็นไรเผื่อลูกน้อยของแม่ แม่ยอมชาก็ได้จ้า

4. ใส่ต่างหูทีไร เป็นจุดสนใจลูกทุกที

คุณแม่ๆ หลายคนอาจจะเคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์ตอนเอาลูกเข้าเต้านะคะ เวลาเราแต่งตัวต่างหูทีไร เรียกได้ว่าเด็กๆ สนใจซะเหลือเกิน ยิ่งใส่ตุ้มหูที่เป็นวงๆ ใหญ่ๆ พอดีมือลูกทีไร เจ้าตัวเล็กก็เล่นดึงซะแม่เองแทบร้องลั่นบ้านเลยทีเดียวค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วไม่ควรใส่ต่างหูเลยเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะดึงจนหูแม่เลือดออกได้เลยนะคะคุณแม่ๆ

5. ความเจ็บปวดเมื่อลูกเล็บยาว

เหตุเกินเมื่อเอาลูกเข้าเต้า แต่แม่นั้นดันลืมตัดเล็บ ด้วยความที่มือน้อยๆ ของลูกชอบจับโน้นจับนี่ ขยุ้มนั้น ดึงโน้น แล้วในที่สุดก็มาข่วนนมของแม่ ยิ่งไปกว่านั้นข่วนหัวของแม่ เรียกได้ว่าเจ็บปวดสุดๆ นี่ถ้าไม่ติดเป็นลูกแม่ก็นึกว่าแมวเสียอีก

6. หัวนมแตกปัญหาเบสิกที่แม่ๆ ต้องเจอ

เมื่อการเข้าเต้าของลูกไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นท่าอุ้ม องศาของการให้นม ทำให้ลูกดูดนมไม่ลึกถึงลานนม หรืออ้าปากไม่กว้างพอ ทำให้เขาดูดเฉพาะหัวนม เมื่อเป็นเช่นนี้บ่อยๆ ไม่นานปากลูกก็จะหลุดจากหัวนมและงับหัวนมแม่ในที่สุด ลูกไม่รู้หรอกค่ะว่าเราเจ็บ และเขาก็จะกัดและงับไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดอาการเต้านมอักเสบได้ จนทำให้เกิดอาการหัวนมแตกนั่นเอง เจ็บสุดๆ ไปเลยค่า

วิธีแก้ไข

  • ให้ลูกอมให้ลึกถึงลานนม
  • สลับให้ลูกดูดข้างที่เจ็บน้อยกว่า
  • พักหัวนม
  • ใช้วิธีการปั๊มน้ำนมออกแทนการดูด
  • ทาน้ำนมให้ทั่วหัวนมที่เจ็บ หลังให้นม
  • อาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาคุณหมอ

 

อ้างอิง : https://www.pobpad.comhttps://www.synphaet.co.th

 

 

 

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ไม่เป็นไร
26 สิงหาคม 2563
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save