fbpx

รีวิวนิทาน ใครจะปลอบทอฟเฟิลล่ะ? เรื่องเล่าจากหุบเขามูมิน

Writer : blahblahboong
: 1 ธันวาคม 2560

” เพื่อนเอ๋ย ก้อนหินกับเปลือกหอยจะมีค่าอะไร ถ้าเธอไม่อาจแบ่งให้ใครเชยชม “

นิทานภาพ “ใครจะปลอบทอฟเฟิลล่ะ?” เรื่องเล่าจากหุบเขามูมินเล่มนี้ บอกเล่าเรื่องราวของทอฟเฟิล เด็กชายที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในที่สุดเขาเลือกที่จะไม่ทนอีกต่อไป การออกเดินทางเพื่อหลีกหนีจากความเหงาจึงเริ่มต้นขึ้น

ใครว่านิทานเป็นเรื่องของเด็กเท่านั้น บอกเลยว่า “ใครจะปลอบทอฟเฟิลล่ะ?” เหมาะกับผู้ใหญ่มากกว่าเด็กด้วยซ้ำ แต่เด็กๆ อย่างเพิ่งน้อยใจไปค่ะ ความจริงคือ นิทานเรื่องนี้เหมาะสำหรับทุกคนต่างหาก

ตรงนี้มีวอมเปอร์สิบเก้าตัว

พูดถึงมุมที่เกี่ยวกับเด็กในนิทานเรื่องนี้ก่อนเลยดีกว่า  นอกจากสีสันแสนสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์มูมินแล้ว นิทานเล่มนี้ยังแอบหยอดมุกเล็กๆ ไว้ให้คุณแม่เล่นกับลูกได้เรื่อยๆ อย่าง “การนับตัววอมเปอร์” มาดูกันว่าที่เขียนไว้กับภายในภาพ มีเจ้าวอมเปอร์เท่ากันไหมเอ่ย?

เพราะ ความเหงา เป็นเรื่องของทุกคน

ตูเว ยานซอน ผู้เขียน ได้หยิบยกเรื่องของ ความเหงา มาถ่ายทอดเป็นนิทานเรื่องได้อย่างแยบยล การที่เรามีทุกอย่างพร้อม มีชีวิตสุขสบาย ยืนอยู่ท่ามกลางคนมากมาย แต่ในใจกลับรู้สึกโดดเดี่ยว เป็นเรื่องที่ทุกคนสัมผัสได้ เพราะเราล้วนเคยผ่านความเหงากันมาแล้วทั้งนั้น

นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้แฝงวิธีคิดเล็กๆ น้อยๆ ในการทำลายความเหงา ทลายกำแพงที่ปิดกั้นตัวเราจากผู้อื่นไว้อย่างดงามอีกด้วยนะ

ไม่พูดถึงเรื่องภาพเลยคงเป็นไปไม่ได้ ตูเว ยานซอน ได้ทำการแบ่งโลกของความเหงากับความรื่นเริงได้ชัดเจนมาก โดยรอบๆ ตัวของทอฟเฟิลจะมีสีที่มืดมน สายเส้นรกๆ มีความสับสน แต่อีกฝั่งนั้นกลับมีสีสันสดใส สนุกสนาน

ใครจะปลอบทอฟเฟิลล่ะ? เหมาะกับใคร?

อย่างที่ได้เขียนไว้ข้างต้น นิทานเรื่องนี้เหมาะกับทุกคนเลยค่ะ (โดยเฉาะคนเหงาๆ) สำหรับเด็กจะได้เพลิดเลินไปกับเนื้อเรื่องแนวแฟนตาซี แถมยังมีคาร์แรกเตอร์น่ารักๆ อยู่ในนิทานเพียบ เท่านี้ก็ต่อยอดจินตนาการก็ได้เต็มที่แล้วละค่ะ

ส่วนผู้ใหญ่อย่างเรา แน่นอนว่าโดนใจสายเหงาแบบสุดๆ ด้วยบรรยากาศฟุ้งๆ ภาษาสวยๆ ก่อนที่จะโดนความละมุมละไลจะเข้ามาโอบล้อม เพราะตอบจบของเรื่อง ต้องแอบบอกว่า ดี๊ดี แฮปปี้มากค่ะ

ใครจะปลอบทอฟเฟิลล่ะ?

  • สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
  • ผู้เขียน ตูเว ยานซอน
  • แปล ดวงธิดา ยอซฮ์นิกค์
  • ราคาปก 295 บาท
Writer Profile : blahblahboong

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
1 เมษายน 2562
15 สิ่งดีๆ ที่พ่อทำเพื่อแม่ได้
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save