fbpx

ภาวะ School Refusal เมื่อหนูน้อยไม่อยากไปโรงเรียน อาจเป็นปัญหาต่อสุขภาพจิตได้

Writer : Jicko
: 25 พฤษภาคม 2565

เมื่อเรียนอยู่บ้านนานๆ ก็ทำให้เด็กๆ คุ้นชินกับการอยู่บ้าน พอถึงเวลาเปิดเทอมแบบเต็มรูปแบบเช่นนี้ ก็มีบ้างที่เด็กๆ จะงอแงและไม่ยอมไปโรงเรียน โดยเฉพาะเด็กเล็ก

ทำให้แม่ๆ บางคนก็มองว่าคงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่น่ามีปัญหา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ด้วยสภาวะที่เด็กห่างห้องเรียนมานาน อาจจะเป็นปัญหาและสร้างบาดแผลเล็กๆ ในใจ เมื่อพวกเขาต้องกลับไปใช้ชีวิตในโรงเรียนแบบปกติก็ได้ค่ะ

สาเหตุของ “ภาวะเด็กไม่ยอมไปโรงเรียน”

เด็กวัยอนุบาล

  • กลัวต้องพลัดพรากจากคนที่รัก (เกิดขึ้นในวันต่อๆ ไปของการไปโรงเรียนวันแรกๆ)
  • เด็กมีพื้นฐานบุคลิกภาพวิตกกังวลง่าย
  • พ่อแม่มีการเลี้ยงดูแบบปกป้องมากเกินไป
เด็กประถมต้น (โตกว่าวัยอนุบาลมาอีกนิด)
  • มีปัญหาเรื่องการเรียน
  • เข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนไม่ได้
  • ถูกทำโทษอย่างรุนแรงที่โรงเรียน

แบบไหนยิ่งเป็นปัญหา จะยิ่งอันตราย

  • เด็กมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย
  • เด็กป่วยด้วยอาการทางจิตเวชอื่นๆ อยู่ด้วย

 

พ่อแม่สังเกตอาการเบื้องต้นได้

  • ไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียงนอน เมื่อถึงเวลาต้องตื่น
  • ปฏิเสธชุดนักเรียน เมื่อต้องสวมไปโรงเรียน
  • ร้องไห้รุนแรงทุกครั้ง ที่ต้องไปโรงเรียน
  • งอแงตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียน เพื่อให้พ่อแม่มารับกลับบ้าน

อาการแบบไหนที่รุนแรง (พฤติกรรมต่อต้าน)

อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นช่วงเช้าก่อนไปโรงเรียน และหายเองเมื่อเด็กได้หยุดอยู่บ้าน หรือเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เขาไม่ต้องไปโรงเรียนนั่นเองค่ะ

  • อาละวาดโวยวาย ทำร้ายร่างกายผู้ปกครอง
  • ปวดท้อง ท้องเสีย
  • ปวดหัว วิงเวียน คลื่นไส้อาเจียน

 

พ่อแม่ต้องดูแลเด็กๆ อย่างไร

  • เปิดใจรับฟังสิ่งที่ลูกต้องการบอกถึงสาเหตุ
  • พ่อแม่ต้องไม่นิ่งนอนใจ หากลูกมีภาวะนี้จริงๆ
  • คุณครูต้องดูแลช่วยเหลือเด็ก โดยเฉพาะวันแรกที่ไปโรงเรียน
  • ในเด็กโตอาจพาเขาไปปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุ และให้คำแนะนำ

 

อ้างอิงจาก : พญ.นิดา ลิ้มสุวรรณ

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save